HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 28/11/2555 ]
เจ็บ-ตายช่วงลอยกระทงอื้อสธ.แนะผู้ปกครองดูแลเด็ก

 "ขายอึ๋มขั้นเทพ!!! ...อกฟู รูฟิต ไม่มีกลิ่น ขาววิงก์ ขาวเวอร์มีออร่าเปล่งประกาย"
          คำบรรยายในข้างต้นสามารถพบเห็นได้เกลื่อนในโลกอินเทอร์เน็ต ขณะที่คลิกนิ้วเสิร์ชบนกูเกิลผ่านคำว่า "อกฟู รูฟิต" ก็ต้องตะลึงกับผลการค้นหาในชั่วระยะเวลา 0.15 วินาที เพราะว่ามีเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก
          ค้าขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มนี้ถึง 1,970,000 รายการ
          ยังไม่นับรวมถึงการขายบนแผ่นพับ สิ่งพิมพ์ นิตยสาร และทางเคเบิลทีวี ซึ่งมีมากมายหลายสิบยี่ห้อ
          บ้างก็อ้างว่าผลิตจากสมุนไพรในประเทศไทย บ้างก็อ้าง
          ว่านำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกา
          และแถบยุโรป
          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพิสูจน์ได้ว่า นอกจากเรื่อง"เฟิร์มหุ่นสวย" ด้วยโฆษณาหลอกขายยา กาแฟ โกโก้ วิตามินสำหรับลดน้ำหนักแสนน่ากลัว ที่ทำให้สูญเสียเงินทองโดยเปล่าประโยชน์ และ
          เผลอๆ อาจสูญเสียถึงชีวิตแล้ว
          "หญิงไทย" ในปัจจุบัน ยังตกหลุมพรางทางการค้าโฆษณาเกินจริงที่ก่อให้เกิดอันตราย กับการดูแลสรีระร่างกายภายใน ทั้ง "หน้าอกหน้าใจ มดลูก และช่องคลอด" อย่างมากด้วย
          รายงานจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรร.) ได้รับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงมากที่สุดจากเรื่องร้องเรียนทั้งหมดโดยเป็นการโอ้อวดในเรื่องผิวขาวช่วยเพิ่มไซส์หน้าอก กระชับช่องคลอด กระชับสัดส่วน และช่วยรักษาโรค
          อย่างเช่น กรณีผลิตภัณฑ์ช่วยให้อกฟู รูฟิต แบรนด์ "ซัลคลาร่า" (SunClara) ที่อวดอ้างการรักษาครอบจักรวาลว่า ช่วยให้ผิวสวยหน้าใส ภายในกระชับ เส้นเลือดดำแข็งแรง ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำหนัก ลดเสี่ยงโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ป้องกันเบาหวาน พาร์กินสัน และอัลไซเมอร์
          สุดท้ายเมื่อผ่านการตรวจสอบจากอย.ก็พบว่าเป็นการอ้างสรรพคุณเกินจริง บริษัทผู้ผลิตจึงถูกปรับและดำเนินคดีตามกฎหมาย
          และแม้ว่าจะมีการประกาศเตือนถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสุดอันตรายจาก อย.ว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ บางตัวไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. หรือบางยี่ห้อแค่จดแจ้ง แต่ไปโฆษณาว่าได้รับอนุญาตเรียบร้อย ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด คิดว่า อย.รับรองสรรพคุณคำโฆษณาโอ้อวดเกินจริง
          "ขอเตือนผู้บริโภคอย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณาและซื้อมาใช้โดยเด็ดขาด เพราะมักพบว่าผลิตภัณฑ์กลุ่นี้มักลักลอบใส่ยาหรือสารที่เป็นอันตรายลงไป ผลิตไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน อาจได้รับอันตรายจากการปนเปื้อน โดยเฉพาะการซื้อผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตหรือเฟซบุ๊ก" นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการ อย.กล่าวกระนั้น ก็ยังมีสาวๆ หลงเชื่อซื้อมารับประทานเพียงเพราะอยากสวยตามค่านิยมของสังคมและผู้ชาย!!
          "หนูนุช สุดฮอต" นามปากกาของสาวผู้หนึ่งใน ห้องโต๊ะเครื่องแป้งจากชุมชนออนไลน์สุดฮิตพันทิป แชร์ประสบการณ์จากการกินยาบำรุงอกฟู รูฟิต ยี่ห้อหนึ่งว่า ตนอายุ 30 ปี สุขภาพปกติแต่อยากดูแลตัวเองมากขึ้น เมื่อได้ยินกิตติศัพท์ยาบำรุงยี่ห้อหนึ่งที่ผู้ขายระบุว่าผ่าน อย. เลยสนใจซื้อมากิน หลังจากกินไปได้ 4 เม็ด รู้สึกว่ามีตกขาวมากขึ้นและมีสีเข้ม หลังจากไปพบแพทย์จึงทราบว่าเป็นตกขาวปนเลือด จากนั้นกินต่อไปจนถึงวันที่ 9-10 ก็เริ่มมีอาการปวดท้องรุนแรงจนต้องไปโรงพยาบาล
          "ผลการตรวจคือเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ มดลูกอักเสบมีอาการบวมโตแต่ไม่มาก ต้องดริปยาเข้าเส้นเลือด และหมอให้เลิกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวนี้ทันที นอกจากนี้ สูตินรีแพทย์ยังบอกด้วยว่า อ้อ ยาเค้าดังนะคะ มาหาหมอหลายคนแล้ว"
          ยังมีอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อก่อนโพสต์ข้อความเตือนตามโชเชียลเน็ตเวิร์กว่า เคยทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มนี้ แต่หน้าอกก็ไม่ฟูอย่างที่คิด บ้างก็ว่าทานแล้วผิวดี อกฟู รูฟิต แต่ช่องคลอดมีกลิ่นเหมือนปลาเค็มเน่าจนไม่ขอทานต่อ
          ฝ่ายแพทย์ยันไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้อกฟู รูฟิตได้จริง เภสัชกรอุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล บล็อกเกอร์ชื่อดังในเรื่องการแพทย์ฟันธงว่าคำโฆษณาว่าด้วยการอัพไซส์อกไข่ดาวให้อึ๋มมหาอึ๋ม 36 นิ้ว ด้วยการกินฮอร์โมนหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารราคาแพงเวอร์โดยไม่ต้องศัลยกรรมนั้น ในฐานะเภสัชกรที่ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพคนไข้ ผู้ป่วย อยู่ร้านยามาตลอด บอกได้เลยว่าไม่มีจริง!
          "ไม่มียาใดที่กินแล้วสวย ขาว อวบอึ๋มในพริบตา มีแต่การดูแลรักษาสุขภาพตนเองให้เหมาะสมเท่านั้น ในฐานะผู้ชายที่ชอบผู้หญิงงาม ขอตอบว่ามีแต่ผู้ชายที่สมองเล็กเท่านั้นจึงจะชอบผู้หญิงหน้าอกโต"
          เภสัชกรอุทัยยังกล่าวต่อด้วยว่า ยาคุมหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำให้หน้าอกโต มักจะใส่ฮอร์โมนในปริมาณที่สูงเกินไป และอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายภายหลังได้ ทั้งนี้ จากการสอบถามคนไข้สตรีที่เคยกินยาประเภทนี้ หลายคนบอกว่าตัวยาแรงมาก พอหยุดกิน ประจำเดือนมาไม่หยุดเกือบ 20 วัน ร่างกายปั่นป่วนไปหมด ฉะนั้น ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกตัวที่กินต้องตรวจสอบได้ และผ่านการจดทะเบียนกับ อย. อีกทั้งต้องระบุส่วนประกอบทุกอย่าง และถ้าเป็นยาใหม่ต้องผ่านการทดลองกับคนไทยว่าได้ผลและปลอดภัยก่อน
          ฟาก นพ.สุรเชษฐ์ อภินิลบงกช สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้ความรู้ไว้ว่า ทั้งหมดเป็นแค่โฆษณาขายของ และทางการแพทย์ยืนยันว่าไม่มีสารใดๆ ช่วยให้ช่องคลอดกลับมากระชับ นอกจากนี้อาการช่องคลอดหย่อนยาน แท้จริงเป็นอาการของกล้ามเนื้อกระบังลมอุ้งเชิงกรานคลายตัว และวิธีแก้ไขแบบไม่ต้องเสียเงินก็คือ กกรมควบคุมโรคเผย 'ลอยกระทง' ในรอบ 5 ปี ตัวเลข 'บาดเจ็บ-เสียชีวิต' จากการจมน้ำ เล่นพลุ ดอกไม้ไฟพุ่ง ชี้เยาวชนเป็นกลุ่มเสี่ยง แนะผู้ปกครองดูแลใกล้ชิดสกัดสูญเสีย
          เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงด้านความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทง เนื่องจากประชาชนมักนิยมเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้เกิดความสนุกสนานสวยงาม แต่หากเล่นอย่างไม่ระมัดระวังอาจเกิดความสูญเสียอย่างไม่คาดคิด ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์การบาดเจ็บรุนแรงจากการถูกสะเก็ดดอกไม้ไฟหรือพลุ กรมควบคุมโรคพบว่าในรอบ 5 ปี (ปี 2550 -2554) มีผู้บาดเจ็บรุนแรงเข้ารักษาที่ห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล 28 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ระดับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป จำนวนทั้งสิ้น 2,587 ราย เสียชีวิต 6 ราย เฉลี่ยมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวปีละ 517 ราย และมีแนวโน้มว่าจำนวนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จากตัวเลขในปี 2550 มีผู้บาดเจ็บ 364 ราย แต่ในปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็น 642 ราย หรือเกือบ 2 เท่าตัว
          นพ.ณรงค์กล่าวอีกว่า ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 95 มีอายุเฉลี่ย 17 ปี โดยร้อยละ 44 เป็นนักเรียน นักศึกษา ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานมีร้อยละ 27 วัยที่ บาดเจ็บมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 10-14 ปี พบได้ร้อยละ 24 รองลงมาคือ กลุ่มเด็กอายุ 5-9 ขวบ และกลุ่มอายุ 14-19 ปี รวม 2 กลุ่มคิดเป็นร้อยละ 14 เวลาเกิดเหตุส่วนใหญ่เกิดในช่วงบ่ายจนถึง 2 ทุ่ม
          "ที่สำคัญพบว่า ในกลุ่มผู้บาดเจ็บรุนแรงเกือบ 1 ใน 5 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย เดือนที่มักเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวสูงสุดคือ ตุลาคม-มกราคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสำคัญคือ วันออกพรรษา วันลอยกระทง และวันปีใหม่ อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุดคือ ข้อมือและมือ คิดเป็นร้อยละ 48 โดยพบกระดูกนิ้วมือแตกหรือหัก ร้อยละ 21 นิ้วมือขาดทั้งหมดหรือบางส่วน ต้องกลายเป็นผู้มีความพิการตั้งแต่อายุยังน้อย คิดเป็นร้อยละ 4 นอกจากนี้ ยังได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ คิดเป็นร้อยละ 15 และถูกเปลวความร้อนลวกตามผิวหนัง คิดเป็นร้อยละ 8 สถานที่เกิดเหตุส่วนใหญ่ ร้อยละ 72 เกิดในที่พักอาศัย หรือบริเวณบ้าน รองลงมาคือ นา ไร่ และสวน คิดเป็นร้อยละ 8 และพบในสถานศึกษา คิดเป็นร้อยละ 6" นพ.ณรงค์กล่าว และว่า จากการวิเคราะห์ปัญหาย้อนหลังไปจนถึงปี 2541 พบว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการเล่นพลุ จุดประทัด และดอกไม้ไฟสูงถึงร้อยละ 54-60 จึงขอให้ครูและผู้ปกครองช่วยกันดูแลและให้คำแนะนำแก่เด็ก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมาย และประชาสัมพันธ์ผู้ค้าห้ามขายประทัด พลุ ดอกไม้ไฟให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีอย่างเด็ดขาด
          นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันลอยกระทงทุกปี จะมีคนจมน้ำเสียชีวิตจำนวนมาก ในปีนี้ สธ.เป็นห่วงกลุ่มเด็ก เพราะสถิติใน 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2545-2554 พบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี เฉลี่ยปีละ 1,352 ราย และในวันลอยกระทงเด็กมีความเสี่ยงมากขึ้นกว่าวันปกติ จึงขอเตือนประชาชนที่จะพาบุตรหลานไปลอยกระทงเพิ่มความระมัดระวัง
          "ข้อมูลการเสียชีวิตจากการจมน้ำ กรมควบคุมโรค ระบุว่า ในช่วง 5 ปี (ปี 2550-2554) ในวันลอยกระทงวันเดียวมีคนจมน้ำเสียชีวิต 102 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 40 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.6 ของทุกกลุ่มอายุ ในปี 2554 เฉพาะวันลอยกระทงวันเดียวมีคนจมน้ำเสียชีวิตสูงถึง 21 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งสูงเป็น 3 เท่าของวันปกติที่พบเฉลี่ย 3 รายต่อวัน" นพ.ชลน่านกล่าว ชับ ไม่ย้อยต่ำ
          "คิดว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องทำให้ช่องคลอดกลับมาฟิต หากผู้หญิงไม่ได้ผ่านการคลอดธรรมชาติมาหลายครั้ง และถ้าการคลอดธรรมชาติแต่ละครั้งมีการเย็บซ่อมแซมภายในอย่างถูกวิธี ร่างกายก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดินแทบจะ 100%"  สูตินรีแพทย์คนเดิม อธิบายเพิ่มท้ายนี้ เลขาธิการ อย. นพ.บุญชัย ยังสำทับเตือนด้วยว่า ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขอให้สังเกตฉลากของผลิตภัณฑ์ว่า มีการขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือผลิตภัณฑ์ยา โดยหากเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะแสดงเครื่องหมายอย.บนฉลากพร้อมด้วยเลขสารบบอาหาร แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ยาจะแสดงเป็นเลขทะเบียนตำรับยา เช่น เลขทะเบียนที่ 1A 9999/46 เป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์ผลิตในประเทศ หรือเลขทะเบียนที่ G 6666/48 เป็นยาแผนโบราณสำหรับมนุษย์ผลิตในประเทศ
          "หากพบเห็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย หรือมีการแสดงสรรพคุณโอ้อวดเกินจริง ร้องเรียนสายด่วน อย.1556 อีเมล์:1556@fda.moph.go.th หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่ออย.จะได้ดำเนินการปราบปราม และดำเนินคดีตามกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแก่ผู้กระทำผิดต่อไป".

 


pageview  1206109    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved