สมองเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่เราคุ้นชื่อกันดีก็คือ "โรคอัลไซเมอร์" ซึ่งเนื้อสมองเกิดการเสื่อมสลายหรือเซลล์สมองตาย นอกจากนี้ ยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองตีบหรืออุดตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอเป็นเหตุให้เนื้อสมองตายไปเป็นจำนวนมาก เกิดจากการติดเชื้อในสมอง การขาดสารอาหารบางชนิด ระบบในร่างกายทำงานแปรปรวน เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานมากหรือน้อยไป หรือตับไตทำงานผิดปกติ ศีรษะถูกกระแทกบ่อยๆ และเนื้องอก ในสมอง เป็นต้น
          เมื่อคนในครอบครัวเป็นโรคสมองเสื่อมนับเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการดูแลผู้ป่วยไม่ใช่เรื่องง่าย จึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
          ปัจจุบันการรักษาโรคนี้แม้จะยังไม่มียาที่รักษาให้หายขาดได้ แต่ก็มียาที่ช่วยควบคุมอาการต่างๆ ให้น้อยลง เพื่อรักษาปัญหาทางสมองและความจำของผู้ป่วยสมองเสื่อม นอกจากนี้ ยังต้องแก้ไขปัญหาจากพฤติกรรม จากอาการไม่อยู่นิ่ง หงุดหงิด ก้าวร้าว หรืออาจทำร้ายร่างกายเพราะควบคุมตนเองไม่ได้  ทั้งนี้ ต้องให้ความเข้าใจ เห็นใจว่าผู้ป่วยไม่ได้ตั้งใจที่จะก้าวร้าว หรือหงุดหงิดอย่างที่เราเห็น แต่เกิดจากตัวโรคเอง
          จะเห็นได้ว่าโรคนี้ นับเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย โดยเฉพาะประเทศของเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีแนวโน้มที่จะพบโรคมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด  นับเป็นข่าวดี เพราะเป็นครั้งแรกของโลก ที่โรงพยาบาล "ศิริราช" ได้ออกมาประกาศว่า สามารถคิดวิธีแยกสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำ รักษาโรคการเสื่อมถอยของเซลล์ ทั้งอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และเบาหวาน ซึ่งได้เตรียมการทำธนาคารสเต็มเซลล์สำรองวิจัยและใช้ปลูกถ่ายรักษาในอนาคตด้วย
          เรื่องนี้ ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหัวหน้าแถลงข่าวความสำเร็จในกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  โดยบอกว่า (Stem Cell Therapy) เป็นทางเลือกในการรักษาโรคในอนาคต  จากการวิจัยและพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษาทางการแพทย์พบว่า สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ ต้นกำเนิดมีคุณสมบัติพิเศษ 2 ประการ คือ 1.สามารถแบ่งตัว เพิ่มจำนวนได้ไม่จำกัด และ 2.สามารถถูกเหนี่ยวนำให้เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ร่างกายชนิดต่างๆ ภายในห้องปฏิบัติการได้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เห็นจุดเด่นในข้อนี้ ว่าหากนำสเต็มเซลล์มาเพิ่มจำนวน และเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ร่างกายที่เสื่อมสภาพไปเพื่อปลูกถ่ายทดแทนให้แก่ผู้ป่วยที่มีภาวะทุพพลภาพจะเป็นวิธีการรักษาโรคที่มีประสิทธิภาพมาก
          ทั้งนี้ พบว่า สเต็มเซลล์ที่มาจากน้ำคร่ำ มีคุณสมบัติ เป็นมีเซนไคม์เหมือนสเต็มเซลล์ตัวเต็มวัย และมีคุณสมบัติพิเศษของสเต็มเซลล์จากตัวอ่อนอยู่ด้วย สเต็มเซลล์ชนิดนี้สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ร่างกายชนิดต่างๆ ได้มากชนิด โดยไม่ก่อให้เกิดก้อนเนื้องอกภายหลังการปลูกถ่าย คุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งของสเต็มเซลล์น้ำคร่ำที่เหมือน กับสเต็มเซลล์จากตัวอ่อน แต่ไม่พบในสเต็มเซลล์ตัวเต็มวัยชนิดใดๆ เลย คือ สามารถแบ่งเซลล์จากหนึ่งเซลล์เป็นหลายแสนล้านเซลล์ได้ และเนื่องจากสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำยังเป็นเซลล์ที่อ่อนวัย จึงยังไม่แสดงลักษณะเฉพาะของภูมิคุ้มกันที่ชัดเจน ทำให้ไม่มีปัญหาการต่อต้านและปฏิเสธเซลล์เมื่อนำ ไปใช้ปลูกถ่ายรักษาโรคให้แก่ผู้อื่น
          ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้สเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำเป็นสเต็มเซลล์ชนิดมีเซนไคม์ที่น่าสนใจสำหรับการรักษาโรคในอนาคต และหากการวิจัยสามารถนำมาพัฒนารักษาโรคได้ เชื่อว่าอัลไซเมอร์และโรคอื่นๆ จะหายได้จากสเต็มเซลล์