ปัจจุบันจะเห็นว่ากระแสการทำ "ศัลยกรรม" นั้นมาแรงพอๆ กับการพูดถึงละครดังหลังข่าว เลยทีเดียว เพราะนอกจากจะไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดเหมือนในอดีตแล้ว ศัลยกรรมยังได้รับความนิยมในฐานะเทรน์แฟชั่นรูปแบบหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้แก่หนุ่มสาวในสังคม แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ในยามที่รู้จักใช้ศัลยกรรมอาจนำมาซึ่งสิ่งดีๆ ทั้งโอกาส ชื่อเสียง เงินทอง รวมถึง ความรัก แต่หากหลงผิด คิดพลาด ศัลยกรรมอาจกลายร่างเป็นมัจจุราช ทำลายความสวยงามตามธรรมชาติและคร่าชีวิตคนมาไม่น้อยแล้วเหมือนกัน
          อุทาหรณ์ดังกล่าวเห็นได้ชัดจากกรณีของพริตตี้สาว ที่ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาจ เหตุเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงเชื่อหมอกระเป๋า จึงลงทุนควักเงินหลายหมื่นฉีดสารคอลลาเจน เสริมสะโพกให้กลมกลึงและสวยงามขึ้น สุดท้ายเกิดเหตุไม่คาดคิด หลังฉีดไม่กี่นาที เธอมีอาการช็อกหมดสติ สมองขาดออกซิเจน กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราและเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานนี้
          นอกจากกรณีของพริตตี้สาวแล้ว สรรหามาขยายฉบับนี้ยังได้เตรียมตัวอย่างของผลร้ายจากการทำศัลยกรรมไว้อีกหลายกรณี เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจและสะท้อนด้านมืดของการทำศัลยกรรมโดยเฉพาะ เริ่มจาก สาวคลั่งมีดหมอชาวเกาหลีใต้ วัย 48 ปี นาง ฮัง เมียวคู ที่ผ่าตัดทำศัลยกรรมมาตั้งแต่อายุ 28 ปี จนมีอาการป่วยทางจิตเป็นโรคเสพติดการทำศัลยกรรม และอาการหนักถึงขนาดใช้น้ำมันพืชทำอาหารฉีดเข้าใบหน้าแทนซิลิโคน จนเกิดผลข้างเคียงทำให้ใบหน้าเน่าเฟะ แม้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพยายามรักษาแต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากใบหน้าผิดรูปร่างไปมากจนไม่สามารถผ่าตัดให้กลับมาเหมือนคนปกติได้ หลังชีวิตเปลี่ยนไปเพราะศัลยกรรม นางฮังได้รับเชิญไปออกรายการทีวี โดยเธอเล่าว่า
          เริ่มทำศัลยกรรมใบหน้าครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 28 ปี เพราะอยากสวยเหมือนผู้หญิงคนอื่น จากนั้นก็ทำซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง และเกิดผลข้างเคียงจนใบหน้าเริ่มผิดรูปมีลักษณะบานคล้ายพัดลม โดยเธอได้เปิดเผยว่าแม้ใบหน้าจะเปลี่ยนไป แต่เมื่อส่องกระจกดูกลับรู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้นทุกครั้งที่ผ่านการทำศัลยกรรม!
          ทางด้าน โดนาเทลล่า  เวอร์ซาเช่ นักออกแบบสาวใหญ่  น้องสาวของเจียนนี่ เวอร์ซาเช่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความน่าสะพรึงกลัว เพราะโดนาเทลล่าไม่เคยยอมจำนนต่อสังขารที่โรยรา ส่งผลให้เธอพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อรักษาความสวยงามบนใบหน้า เอาไว้ เริ่มตั้งแต่การทำเชฟลิฟท์ ยกกระชับใบหน้า เหลาจมูกให้เรียวเล็ก ผ่าตัดยกหางตา  ฉีดคอลลาเจนที่แก้ม คางและปาก ฉีดโบท็อกซ์ลบรอย เหี่ยวย่น รวมถึงการเสริม "อึ๋ม" ซึ่งผลที่ออกมาแทนที่จะ ดูดีกลับกลายเป็นแย่กว่าเดิม แถมใบหน้ายังแข็งทื่อไม่สามารถสื่ออารมณ์ใดๆ ได้ จนหลายคนที่พบเห็นเกิดอาการตกใจ  เพื่อนฝูงและคนใกล้ชิดต่างพยายามห้ามปรามแต่เธอก็ไม่ฟัง สุดท้ายจึงต้อง "ปลง" กับความไม่รู้จักพอของเธอ
          ในส่วนของดาราไทยเองก็พลาดตกหลุมดำของการ "ศัลยกรรม" ไปไม่น้อย สาเหตุส่วนใหญ่นอกจากเป็นเพราะกิเลสและความไม่พอดีแล้ว หลายกรณียังเกิดจาก "หมอเถื่อน"
          หรือ "หมอกระเป๋า" ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ส่งผลเสียต่อผู้ใช้บริการทั้งในลักษณะของการใช้วัสดุปลอม และกระบวนการรักษาที่ผิดพลาด ยกตัวอย่างเช่น กรณีของ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ดาว มยุรี ที่ผ่านการทำศัลยกรรมมาอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็นการทำจมูกมาแล้ว 4 ครั้ง  ทำคาง 3 ครั้ง และฉีดซิลิโคนที่ใบหน้าอีกราว 5-6 ครั้ง  ซึ่งในบรรดาสิ่งที่ทำมาทั้งหมดนั้นจะพบว่า การฉีดซิลิโคน เข้าใบหน้าถือเป็นปัญหาหนักที่สุดสำหรับดาว มยุรี เนื่องจากเธอถูกเพื่อนชักชวนให้ไปใช้บริการฉีดหน้า หรือที่คนในวงการความสวยความงามนิยมเรียกกันว่า "จิ้ม" กับ  "หมอกระเป๋า" โดยหมอรายดังกล่าวอ้างว่าสารที่ฉีดเข้าไปนั้น
          เป็นคอลลาเจนเพื่อเติมส่วนที่บกพร่องบนใบหน้าให้ดูเต็มและอวบอิ่มขึ้น หลังผ่านไปหลายปีก็พบว่าใบหน้าของเธอเริ่มบวมผิดรูป จนกระทั่งเธอได้เข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพบว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่ "หมอกระเป๋า" ฉีดเข้าไป ไม่ใช่คอลลาเจนหากแต่เป็นซิลิโคน ที่ส่งผลให้เกิดการเกาะตัวของผังผืดทำให้ผิวหน้าแข็งเหมือนไม้กระดาน ซ้ำแล้วนานวันเข้ายังไหลตามแรงโน้มถ่วงโลก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของรูปหน้าที่บิดเบี้ยวของนักร้องสาวชื่อดัง
          อีกกรณีหนึ่งของ "หมอเถื่อน" เกิดขึ้นกับ น.ส.จุฑามาศ ไชยสงค์ (น้องดา)นักเรียนสาวชั้น ม.5  ที่อยากใส่เหล็กจัดฟัน เพื่อให้ดูน่ารักสวยงามตามกระแสแฟชั่น จึงตัดสินใจไปจัดฟันปลอมแบบแฟชั่นที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ด้วยราคาเพียง 2,000 บาท หลังจากนั้นไม่นานเด็กสาวก็มีอาการปวดฟัน เจ็บคอ และหายใจไม่ออก จนหมดสติ ผู้ปกครองจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจยื้ออยู่นานจนในที่สุดก็เสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่าน้องดามีอาการไทรอยด์เป็นพิษอย่างรุนแรง สาเหตุส่วนใหญ่น่าจะเกิดจากการใส่เหล็กจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน เห็นอย่างนี้แล้ว จึงอยากเตือนคุณผู้อ่านทั้งหลายให้รู้จักตรวจสอบและเลือกรักษาหรือทำศัลยกรรมกับแพทย์ในสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตเพื่อความปลอดภัย โดยเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ให้การรักษานั้นเป็นหมอจริงหรือหมอกระเป๋า ก็ต้องดูจากใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพและให้สังเกตใบสีฟ้าหน้าห้องตรวจ จะมีรูปภาพ พร้อมชื่อ-สกุล และเลขที่ ใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพของแพทย์ผู้นั้นระบุไว้ กรณีบุคคล ที่ถือกระเป๋าให้การรักษาหรือฉีดยาตามบ้าน หรือตามสถานที่ต่างๆ ที่ไม่ใช่โรงพยาบาล เช่น คอนโดมิเนียม บนรถ หรือในสถานที่ลับตา ให้ถือว่าเป็นหมอเถื่อนและเป็นสถานพยาบาลเถื่อนที่ควรหลีกเลี่ยงโดยทั้งสิ้น
          จงจำไว้เสมอว่าการทำ "ศัลยกรรม" ถือเป็น การลงทุนที่มีความเสี่ยงหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การเสี่ยง ต่อการเสพติด การเสี่ยงต่ออันตรายทั้งในลักษณะของการอักเสบและการติดเชื้อ รวมถึงการเสี่ยงต่อการถูกหลอก ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจทำสิ่งใดกับร่างกายควรศึกษาให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน !!!!!!