เมื่อวานนี้แนะนำวิธีกินเจอย่างไรไม่ให้อ้วนไม่ให้ป่วย หวังว่าคงเป็นเกร็ดน่ารู้ดีๆ รับช่วงเทศกาลกินเจ แต่เมนูยังแฝงอันตรายที่หลายคนอาจไม่รู้ เพราะผักที่ใช้ปรุงอาหารขายพบว่า เจือสารฟอกขาวตกค้างมากกว่าปกติ         
          มีคำเตือนจาก นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจพ่อค้าแม่ค้ามักปรุงด้วยผักแห้งหลายชนิด เช่น เก๋ากี้ ดอกไม้จีน เยื่อไผ่ เห็ดหูหนูขาว เห็ดหอม ซึ่งมักใช้สารฟอกขาวช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของยีสต์ รา แบคทีเรีย รวมทั้งยับยั้งการเปลี่ยนสีอาหารไม่ให้เป็นสีน้ำตาล
          สารฟอกขาวที่ว่านั้นคือ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหารได้เก็บตัวอย่างผักดังกล่าวมาตรวจ พบว่ามีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างอยู่มาก โดยเฉพาะดอกไม้จีนและเยื่อไผ่
          ทั้งนี้คณะกรรมการ JECFA ที่ประเมินความปลอดภัยของการใช้วัตถุเจือปนอาหารกำหนดค่า ADI ของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ไว้ที่ 0.7 มก.ต่อน้ำหนักตัว 1 กก.ต่อวัน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่แนะนำให้บริโภค แต่หากได้รับสารมากเกินกว่านั้น โดยเฉพาะคนเป็นโรคหอบหืดจะทำให้หายใจขัด คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อุจจาระร่วง เป็นลมพิษ ความดันโลหิตต่ำ และอาจช็อกหมดสติได้
          นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แนะนำวิธีลดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในพืชผักก่อนนำมาปรุงอาหาร โดยให้นำดอกไม้จีน เห็ดหูหนูขาวล้างน้ำให้สะอาด แล้วลวกในน้ำเดือด 2 นาที ก่อนปรุง
          ส่วนเม็ดเก๋ากี้ แนะให้ล้างด้วยน้ำสะอาดเทียบอัตราส่วนเก๋ากี้ 10 กรัมต่อน้ำ 2 ลิตร ล้าง 3 ครั้งแล้วลวกน้ำร้อน ก่อนนำไปปรุงให้ต้มจะลดสารในเนื้อเก๋ากี้ได้ถึงร้อยละ 98
          ขอชื่นชมคนกินเจที่ตั้งใจละเว้นการกินเนื้อสัตว์  แต่อย่าลืมใส่ใจความสะอาดของผักด้วย ไม่เช่นนั้นจะล้มป่วยเอาง่ายๆ ได้
          ล้างผักให้สะอาดปลอดสารตกค้าง                   
          นอกจากจะวังสารฟอกขาวแล้ว ต้องเลี่ยงผักที่เสี่ยงเปื้อนสารกำจัดศัตรูพืชอย่างคะน้า กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว พลิกขี้หนู เลี่ยงผักกาดดอง หน่อไม้ดอง มะนาวดอง ผลไม้ดองที่มีสารกันรา รวมถึงสารบอแรกซ์ในลูกขิ้นเจ หมี่กึง
          ก่อนปรุงอาหารเจต้องล้างผัก ผลไม้สด ลดสารตกค้างทุกครั้งไม่แนะนำให้ปรุงรสหวานจัด เค็มจัด มันจัด หรือถ้าซื้อแบบปรุงสำเร็จควรซื้อจากร้านที่ปรุงสุกใหม่ๆ ไกลฝุ่นละออง ไม่มีแมงวันตอมเพราะอาจเสี่ยงท้องร่วงติดพ่วงไปด้วย