ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ
          ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาคลินิก
          คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
          ปัจจุบันชีวิตความเป็นอยู่ สุขอนามัยของประเทศไทยดีขึ้นอย่างมาก ทำให้ประชากรไทยส่วนใหญ่ไม่มีภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบ เอ ที่เกิดจากการติดเชื้อในธรรมชาติ เพราะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ ในวัยเด็กจะไม่ค่อยมีอาการและจะมีภูมิต้านทานตลอดชีวิต เมื่อประชากรส่วนใหญ่ไม่มีภูมิต้านทาน ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้านยังมีความชุกของไวรัสตับอักเสบ เอ สูง จึงเป็นเหตุให้มีการระบาดของไวรัสตับอักเสบ เอ เกิดขึ้นได้
          โดยเฉพาะจังหวัดชายแดน ดังเช่นที่ระบาดอยู่ในปัจจุบันที่ จ.บึงกาฬ มีผู้ป่วยรับไว้รักษาในโรงพยาบาลหลายร้อยคน และน่าจะมีการติดเชื้อไปแล้วหลายพันราย การระบาดของไวรัสตับอักเสบเอส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนต่อต้นฤดูฝน เชื้อจะติดต่อโดยผู้ป่วยจะขับถ่ายเชื้อออกมาทางอุจจาระและปนเปื้อน น้ำดื่ม อาหาร และเมื่อรับประทานเข้าไป จะมีระยะฟักตัวอยู่ 2-4 สัปดาห์ ก็จะทำให้เกิดอาการมีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีเข้มและตับอักเสบ ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือที่เรียกว่า "ดีซ่าน" อาการจะเป็นอยู่ 1-4 สัปดาห์ แล้วแต่ความรุนแรงของโรค
          ในผู้ใหญ่อาการจะรุนแรงกว่าเด็ก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ถ้าผู้ป่วยมีโรคตับเรื้อรังอยู่เดิม โรคสามารถติดต่อกันได้ง่าย โดยผู้ป่วย 1 ราย จะกระจายโรคไปผู้อื่นได้อีก 3 ราย การควบคุมการแพร่ระบาดมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการดูแลเรื่องสุขอนามัย น้ำดื่ม อาหาร ไม่ควรรับประทานผักสดในแหล่งที่มีการระบาดของโรค ควรรับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด และล้างมือ ในปัจจุบันไม่มียารักษา แต่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน สำหรับประเทศไทยวัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ มีความจำเป็นอย่างยิ่งในจังหวัดที่อยู่ชายแดนเพื่อป้องกันการระบาดเข้าสู่ประเทศไทยในอนาคต