ศ.นพ.อุทิศ ดีสมโชค
          ฝ่ายอายุรศาสตร์รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
          "เกาต์" เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริกภายในข้อ ซึ่งเป็นผลจากการมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงเป็นเวลานาน โดยเป็นโรคเรื้อรังที่อาจมีปัจจัยทางกรรมพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้อง มักเกิดในเพศชายอายุมากกว่า 40 ปี ข้อที่มักพบการอักเสบได้บ่อย เช่น ข้อโคนหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ เป็นต้น
          สำหรับกรดยูริกนั้น เกิดจากสารพิวรีนที่มีอยู่ในโปรตีนทุกชนิด ซึ่งอยู่ในร่างกายได้จาก 2 ทาง คือ 1.ร้อยละ 20 ได้จากอาหาที่กิน โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ 2.ร้อยละ 80 จากร่างกายสร้างขึ้นเอง โรคนี้ไม่รู้สาเหตุแน่ชัด โดยทั่วไปมีปัจจัยมาจาก 1.ร่างกายสร้างกรดยูริกมากเกินไป 2.ร่างกายขับกรดยูริกออกได้ไม่ดี จากโรคไตพิการ หรือใช้ยาบางประเภท
          เมื่อมีอาการปวดบวมตามข้อโดยฉับพลัน หรือปวดข้อหนึ่งข้อใดเป็นๆ หายๆ ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจน้ำไขข้อหาผลึกกรดยูริก หากเป็นโรคเกาต์จะมีอาการ 1.ข้ออักเสบเฉียบพลัน มีข้อบวมแดงและร้อน บางรายอาจมีไข้ ระยะแรกอาการข้ออักเสบจะเป็นๆ หายๆ 2.หากเป็นนานและไม่รับการรักษาให้ถูกต้อง จะมีการตกผลึกกรดยูริกเพิ่มมากขึ้นตามข้อและเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้เป็นปุ่มก้อนใต้ผิวหนัง 3.อาการของโรคไตจากการเป็นโรคเกาต์มานาน อาจเกิดการสะสมของผลึกกรดยูริกจนเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ หรือเกิดผลึกกรดยูริกในเนื้อเยื่อของไต ก่อให้เกิดภาวะไตอักเสบเรื้อรังและไตวายได้
          เมื่อเป็นโรคเกาต์ควรปฏิบัติตัว คือ 1.รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีอาการผิดปกติให้ปรึกษาแพทย์ 2.หยุดพักการใช้ข้อระยะที่มีการอักเสบ หลีกเลี่ยงการบีบนวดเพราะจะทำให้ข้ออักเสบเพิ่มมากขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและความเย็นประคบบริเวณข้อ ในขณะที่มีการอักเสบ 3.กินอาหารโปรตีนในปริมาณที่พอเหมาะ หลีกเลี่ยงอาหารแสลง เช่น เครื่องในสัตว์ น้ำซุปกระดูกสัตว์ และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด 4.ดื่มน้ำมากๆ 2-3 ลิตรต่อวัน 5.หลีกเลี่ยงอากาศเย็น 6.ลดน้ำหนักในผู้ป่วยที่อ้วน
          7.เมื่อมีอาการหรือสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ก้อนหรือปุ่ม ปวดเอวหรือปวดท้อง ปัสสาวะเป็นเลือด ควรรีบพบแพทย์ก่อนนัด และ 8.ดำเนินชีวิตอย่าให้เคร่งเครียด มากนัก