นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ที่มีนายสุชาติ ธาดาธำรงเวชรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)เป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้กำหนดแผนพัฒนาการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการระยะเวลา 5 ปี พ.ศ.2555-2559 เพื่อให้ผู้พิการได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงซึ่งจากข้อมูลของสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่า นักเรียนพิการมีโอกาสได้รับการศึกษาในสถานศึกษาร้อยละ 70 แบ่งเป็น 1.ศูนย์การศึกษาพิเศษ77 แห่ง มีจำนวน 6,600 คน 2.โรงเรียนเฉพาะผู้พิการ 43 แห่ง มีจำนวน 13,098 คนและ 3.โรงเรียนเรียนร่วม 15,330 แห่งมีจำนวน 190,000 คน ซึ่งปริมาณนักเรียนพิการที่เข้าเรียนเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกๆ ปีดังนั้น จากนี้ไปจะต้องดำเนินการให้คนพิการได้รับการศึกษาเพิ่มมากขึ้น เน้นการทำงานเชิงรุก ทั้งสำรวจข้อมูล ลงพื้นที่ และประสานงานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ทั้งนี้ ที่ประชุมต้องการให้จัดการศึกษาแบบเรียนร่วมมากที่สุดเพราะจะช่วยให้คนปกติและคนพิการปรับตัวเข้าหากัน และจะสร้างสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับชีวิตจริงมากที่สุด
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่าที่ประชุมยังได้เน้นย้ำถึงการช่วยเหลือเด็กพิการที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน โดยนายสุชาติให้ความสำคัญในการช่วยให้เด็กกลับมาพูดได้อีกครั้ง ซึ่งที่ประชุมได้รับข้อมูลชี้แจงว่า ถ้าใช้เครื่องช่วยระบบประสาทการได้ยินกับผู้บกพร่องเป็นผู้ใหญ่จะช่วยเหลือให้พูดได้ยากเพราะไม่เคยได้รับการพัฒนาทักษะการพูดมาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กที่อยู่ในวัยกำลังพัฒนาจะสามารถฝึกพูดได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังกล่าวถึงกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการจัดสรรงบประมาณแต่ไม่มาก จึงมีความเห็นว่าน่าจะมีการระดมทุน โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะช่วยผลักดันด้วยการขอให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกสลากงวดพิเศษเพื่อคนพิการและนำเงินรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาทมาสนับสนุนกองทุนนี้ต่อไป