วันที่ 2 กรกฎาคม นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังร่วมกับนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) นายพรชัย รุจิประภา ปลัด วท. พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ และ ศ.พิเศษ ทญ.ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ผู้อำนวยการหน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมเปิดโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และมอบนโยบายในการปฏิบัติงานให้แก่หน่วยบริการฝังรากฟันเทียมว่า สธ.และ วท.จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ บริการฝังรากฟันเทียมฟรีให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่มีปัญหาหลังใส่ฟันเทียมทั้งปากแต่ยังใช้เคี้ยวอาหารไม่ได้ดี จำนวน 8,400 ราย ดำเนินการระหว่างปี 2555-2557 โดยปีนี้มีเป้าหมาย 2,000 ราย ปี 2556 จำนวน 2,800 ราย และปี 2557 จำนวน 3,600 ราย
          พญ.วิลาวัณย์กล่าวว่า ในโครงการนี้ วท.ดำเนินการผลิตรากฟันเทียม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามว่า
          "ข้าวอร่อย" เนื่องจากรากฟันเทียมจะทำให้ผู้ที่สวมใส่ฟันเทียมบดเคี้ยวอาหารได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม ส่วน สธ.ได้ให้สถาบันทันตกรรมให้บริการฝังรากฟันเทียม อบรมทันตบุคลากรเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในการให้บริการ รวมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝังรากฟันเทียมให้แก่หน่วยบริการต่างๆ ซึ่งมี 126 แห่ง ทั้งในสังกัด สธ. คณะทันตแพทยศาสตร์ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย โดยทันตแพทย์จะผ่าตัดฝังรากฟันที่บริเวณขากรรไกรล่างทั้ง 2 ข้าง เพื่อเป็นตัวยึดฟันเทียมทั้งปากไว้ไม่ให้ขยับไปมาเวลาเคี้ยวอาหาร
          "ผู้ที่ต้องการเข้าโครงการดังกล่าว สามารถลงทะเบียนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยต้องเป็นผู้ที่ไม่มีฟันจริงเหลืออยู่เลย และใส่ฟันเทียมทั้งปากอยู่แล้ว หรือมีฟันเหลืออยู่ไม่กี่ซี่ มีสุขภาพแข็งแรง หากมีโรคประจำตัวต้องควบคุมได้ดี ไม่เคยฉายรังสีรักษามะเร็งบริเวณศีรษะและคอ และสามารถมาตามที่ทันตแพทย์นัดหมาย 6-7 ครั้งได้" พญ.วิลาวัณย์กล่าว