HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 02/07/2555 ]
ตะลึงปอดบวมครึ่งปีป่วย8หมื่นตาย500

   เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายวิทยา บุรณศิริรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบทบาทอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนประจำปี 2555 ที่หอประชุมโรงเรียนบึงกาฬจังหวัดบึงกาฬ โดยกล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนคาดการณ์ว่าปีนี้ฝนจะตกชุกกว่าปกติ อากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้ผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้ว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจได้ง่าย ที่น่าห่วงก็คือโรคปอดบวมมักพบมากในช่วงฤดูฝน โรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมด พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -25 มิถุนายน มีรายงานผู้ป่วยโรคปอดบวมทั่วประเทศจำนวน 78,571 คน เสียชีวิต 541 ราย ส่วนใหญ่คือร้อยละ 62 เป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ตนจึงได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ประชาชน ระมัดระวังโรคหน้าฝน ขณะเดียวกันในปีนี้ได้จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ให้กลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน- 2 ขวบ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง คนอ้วนน้ำหนักตัว 100 กิโลกรัมขึ้นไป ผู้พิการจำนวน 3.55 ล้านคน ซึ่งได้เริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน
          ด้าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อ 49 โรค จากสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุขในรอบ 6 เดือนปีนี้ มีผู้เสียชีวิต 694 ราย โดยพบว่าโรคปอดบวมเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูงมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 78 ของการเสียชีวิตทั้งหมด สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อหลายชนิดเช่น แบคทีเรียและเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ไอมาก เจ็บหน้าอกหายใจหอบ มีเสมหะมากมักจะเกิดตามหลังป่วยโรคไข้หวัด 3 วัน สังเกตง่ายๆ คือไข้ไม่ลง ไอมากหายใจหอบ น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีใสเป็นสีขุ่นข้นเขียว ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือนโรคปอดบวมได้แก่ ไข้สูง เด็กมีอาการซึมลง ไม่กินน้ำไม่กินนม ไอมีเสมหะ หายใจหอบเร็วหรือหายใจมีเสียงดังหวีด หรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ขอให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันที เพื่อรักษาตั้งแต่ระยะแรก อันตรายต่างๆ จะน้อยลง
          นพ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับการป้องกันโรคปอดบวมต้องหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าหลายชั้นให้ร่างกายอบอุ่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพราะมีวิตามินซีสร้างภูมิต้านทานโรคได้ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีและใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยและใช้ช้อนกลาง ถ้าเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจามหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่คนแออัด ล้างมือให้สะอาด กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยโรคปอดบวม ได้แก่ เด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำกว่ากลุ่มอายุอื่น รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันมะเร็ง ไตวาย เป็นต้น ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านฟรี
 


pageview  1205893    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved