|
|
|
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 29/06/2555 ] |
|
|
|
|
กินผักโขม กล้ามเนื้อแข็งแรง |
|
|
|
|
ป๊อปอาย ยอดกะลาสี ตัวการ์ตูนชื่อดังทำได้อย่างถูกต้องที่กินผักโขมรวดเดียวหมดกระป๋องเมื่อเขาต้องการที่จะทำให้กล้ามเนื้อที่แขนโป่งพองขึ้น อ้างอิงจากผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งของสวีเดนที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่แสดงให้เห็นว่า เหตุใดผักใบเขียวชนิดดังกล่าวถึงทำให้มนุษย์เราแข็งแรงขึ้น
ผลการศึกษาของนักวิจัยแห่งสถาบันคาโรลินสกา ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ที่ตีพิมพ์ในวารสารสรีรวิทยา แสดงให้เห็นว่าไนเตรตหรือสารประกอบไนโตรเจนที่พบในผักโขมและผักอื่นๆ อีกบางชนิดทำให้กล้ามเนื้อของเราแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร
ในการศึกษาวิจัยนั้น ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ใส่ สารไนเตรตลงไปในน้ำดื่มของหนูกลุ่มหนึ่งโดยตรง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นได้นำมาศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดและเปรียบเทียบการทำงานของกล้ามเนื้อกับหนูอีกกลุ่มที่มีการควบคุมพบว่า หนูที่ได้รับสารไนเตรตเป็นประจำมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่ามาก
อันเดรส เอร์นานเดซ แห่งภาควิชาสรีรวิทยาและเภสัชวิทยา หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า สารไนเตรต ที่ใช้มีปริมาณเท่ากับที่มนุษย์ได้รับจากการบริโภคผักโขม 200-250 กรัมใน 1 วัน ซึ่งเป็นปริมาณที่สามารถได้รับโดยง่าย หากว่าคุณรับประทานผักโขม แต่สำหรับคนที่ไม่รับประทานผักก็อาจจะยากมากขึ้นสักหน่อย
เอร์นานเดซบอกว่า ขณะที่ไม่มีผลกระทบที่สังเกตเห็นได้กับใยกล้ามเนื้อประเภท "สโลว์-ทวิตช์" หรือใยกล้ามเนื้อที่สามารถหดตัวได้เป็นระยะเวลานานแต่ให้แรงน้อย นักวิทยาศาสตร์พบความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนในใยกล้ามเนื้อประเภท "ฟาสต์-ทวิตช์" ที่สามารถหดตัวได้รวดเร็วและให้แรงมาก แต่อ่อนล้าได้ง่าย คำถามสำคัญก็คือการค้นหาว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
นักวิจัยค้นพบว่าสารไนเตรตกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มของโปรตีน 2 ตัวที่พบในกล้ามเนื้อซึ่งทำหน้าที่เก็บสะสมและปล่อยแคลเซียมออกมา ที่สำคัญสำหรับการหดตัวของกล้ามเนื้อ โปรตีนที่เพิ่มขึ้นมีผลให้เกิดการปล่อยแคลเซียมออกมาในกล้ามเนื้อมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าถ้ามีแคลเซียม ถูกปล่อยออกมา จะทำให้การหดตัวของกล้ามเนื้อ ดีขึ้น
แปลให้เข้าใจง่ายๆ คือ การได้รับไนเตรตจากอาหารอย่างเช่นผักโขม เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อที่ใช้สำหรับการยกน้ำหนักหรือว่าวิ่งขึ้นภูเขา นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความทนทานด้วย โดยเอร์นานเดซชี้ว่าเมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ใยกล้ามเนื้อ "ฟาสต์-ทวิตช์" ซึ่งอ่อนล้าได้เร็วกว่ากล้ามเนื้อชนิดอื่น ไม่จำเป็นต้องหดตัวบ่อยครั้งนัก
เอร์นานเดซบอกว่านี่ไม่ใช่เป็นข่าวดีของนักกีฬาหรือว่าผู้ที่ชอบออกกำลังกายเท่านั้นครับ แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือการนำผลการศึกษาไปต่อยอดเพื่อรักษา ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุ เพื่อดูว่าจะสามารถช่วยเสริมสร้างการทำงานของกล้ามเนื้อในคนกลุ่มนี้ได้จริงหรือไม่
ทีมวิจัยเปิดเผยว่า จะศึกษาวิจัยเรื่องนี้กับหนูต่อไปก่อน โดยหวังว่าจะสามารถศึกษาวิจัยในคนได้ในเร็วๆ นี้
|
| | |
|
| |
|
pageview 1205837 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |