HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 14/07/2564 ]
กรมสุขภาพจิต พัฒนาระบบสุขภาพจิต ดึงครอบครัว-ชุมชนสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 2 ปี ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ทำให้คนไทยเกิดมีความเครียดสะสม กระทบต่อปัญหาสุขภาพจิต วิตกกังวล ซึมเศร้า เสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองและการฆ่าตัวตาย ฯลฯ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตที่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาวได้ ด้วยเหตุนี้ กรมสุขภาพจิตจึงได้พัฒนาแนวทางการเสริมสร้างวัคซีนใจ ในระดับบุคคลครอบครัว และชุมชนขึ้นมา ไปพร้อมกับช่วงที่เริ่มมีการกระจายวัคซีนทางกายไปยังประชาชน มุ่งเป้าเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจให้กับประชาชนทุกระดับ โดยใช้มาตรการในชุมชน ได้แก่ 1.สร้างความรู้สึกปลอดภัยในชุมชน 2.สร้างความรู้สึกสงบในชุมชน 3.สร้างความหวังในชุมชน และ 4. สร้างความเข้าใจและให้โอกาสคนในชุมชน ร่วมกับใช้ศักยภาพและสายสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน เป็นหลักการสำคัญในการพัฒนาและออกแบบการสร้างภูมิคุ้มกันทางใจในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ในชุมชนและลดปัญหาสุขภาพจิตที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาวได้
          พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาการพัฒนาระบบสุขภาพจิตปฐมภูมิสู่การเป็นเลิศด้านการดำเนินงานสุขภาพจิตชุมชนภายใต้วิถีชีวิตใหม่ (New normal) ณ ห้องประชุมอาคาร 1 ชั้น 4 กรมสุขภาพจิต พร้อมทั้งมอบนโยบายทิศทางการเสริมสร้างวัคซีนใจควบคู่ไปกับการกระจายวัคซีนทางกายเพื่อลดปัญหาสุขภาพจิตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทั้งนี้งานสัมมนาจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2564 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การนำเสนอผลงานวัคซีนใจ 5 แห่ง ผ่านระบบออนไลน์ การนำเสนอผลการเสริมสร้างวัคซีนใจ 3 ห้องย่อย ทั้งในระดับชุมชน สถานประกอบการ/องค์กรและระดับพื้นที่
          พญ.พรรณพิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางนี้จะเกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ สำหรับการดำเนินงานวัคซีนใจ ในชุมชนเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2563 มีชุมชนเข้าถึงองค์ความรู้และร่วมขับเคลื่อนกว่า 1,121 ชุมชน และได้ขยายผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในปี 2564 จนปัจจุบันมีชุมชนที่เข้าถึงองค์ความรู้เรื่องวัคซีนใจและนำไปดูแลสุขภาพจิต จัดให้มีการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตให้กับประชาชนมากกว่า 7,300 ชุมชนทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายภายในสิ้นปี
          2564 จะมีชุมชนที่ถือเป็นต้นแบบที่ขับเคลื่อนการเสริมสร้างวัคซีนใจอย่างเต็มรูปแบบกว่า 1,131 ชุมชน ทั่วประเทศ
          นอกจากนี้ กิจกรรมสัมมนาการพัฒนาระบบสุขภาพจิตปฐมภูมิสู่การเป็นเลิศด้านการดำเนินงานสุขภาพจิตชุมชนภายใต้ วิถีชีวิตใหม่ (New normal) ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเปิดเวทีให้เครือข่ายที่มีการดำเนินงานวัคซีนใจมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อต่อยอดการดำเนินงานของตนเอง ที่สำคัญจะเป็นการขยายพื้นที่ดำเนินงานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เวทีครั้งนี้คาดหวังว่าภาคีเครือข่ายจะมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชน และให้ความร่วมมือขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างวัคซีนใจในชุมชน นำไปสู่ภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้ชุมชนมีความเข้มแข็งทางใจ สามารถเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างเข้มแข็ง และจัดการกับปัญหาเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ด้วยสุขภาพจิตที่ดี
          ในขณะที่ นพ.จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชในช่วงสถานการณ์โควิดว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลจิตเวชทุกแห่งโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลศรีธัญญา สถาบันกัลยาราชนครินทร์ ประสบปัญหาบุคลากรและผู้ป่วยจิตเวชติดโควิด-19 มากขึ้น ทั้งแบบบุคลากรนำมาติดผู้ป่วยและผู้ป่วยนำมาติดบุคลากร ทำให้กระทบการให้บริการ และต้องจำกัดการรับผู้ป่วยไว้รักษา เพราะต้องมีการปิดหอผู้ป่วยและกักตัวบุคลากร เช่น โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาต้องของดรับผู้ป่วยในชั่วคราว ในขณะที่โรงพยาบาลศรีธัญญาขอรับเฉพาะผู้ป่วยที่นัดไว้แล้วเป็นต้น
          ดังนั้นจึงขอความร่วมมือผู้ป่วยจิตเวชและผู้ดูแลดังนี้ 1.ทานยาให้ต่อเนื่อง ไม่ขาดยา 2.พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสุรา ยาเสพติด เพราะจะกระตุ้นให้อาการกำเริบ 3.มาพบแพทย์ตามนัด 4.ญาติ ผู้ดูแล หรือ อสม. สังเกตอาการที่แสดงว่าอาจมีอาการกำเริบ เช่น มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงจากเดิม ไม่ว่าจะเป็น ซึมลง แยกตัวหรือกระวนกระวาย มีท่าทางก้าวร้าว  ให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการปรับยาหรือปรับวิธีการรักษาแต่เนิ่น ๆ เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยอาการรุนแรง จนจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
          นอกจากนี้ ผู้ป่วยจิตเวชอาจมีการติดตามข่าวสารการระบาดของโควิด-19 ได้ไม่ทันสถานการณ์ ญาติอาจต้องให้ข้อมูลเป็นระยะ เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดการระมัดระวัง ป้องกันตัวเอง.


pageview  1206089    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved