HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 19/05/2564 ]
6 ท่าบริหาร ปอด ฟิตสุขภาพต้านโควิด-19

 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ห่วงผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และกลุ่มวัยทำงาน มีความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทำลายปอด จึงมีข้อแนะนำให้เสริมสร้างความแข็งแรงของปอด เพื่อให้มีสุขภาพดีพร้อมสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้
          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี กรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 มีความรุนแรงกว่าที่ผ่านๆ มา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแต่ละวันเป็นจำนวนมาก กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เกี่ยวกับปอด เช่น โรคปอด หอบหืด รวมทั้ง ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน ยังคงเป็น กลุ่มเสี่ยงลำดับต้นๆ ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกลุ่มนี้ปอดทำงานได้น้อยลง จากทั้งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ซี่โครง และกระบังลมที่ลดลง รวมถึงกลุ่มวัยทำงานแม้จะมีสภาพร่างกายแข็งแรงกว่ากลุ่มเสี่ยงดังกล่าวแต่การดูแลสุขภาพและปัจจัยด้านต่างๆ ก็มีความจำเป็น ดังนั้น การบริหารปอดเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยบรรเทาความรุนแรง และยังช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดของผู้ป่วยอีกด้วย ซึ่งทุกคนสามารถทำด้วยตนเองได้ที่บ้าน
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า หลักการเสริมสร้างสมรรถภาพปอดนั้น ทำได้ด้วยการฝึกการขยายตัวของปอด ยืดเหยียดกล้ามเนื้อทรวงอก และกล้ามเนื้อกระบังลม นอกจากนี้ การวิจัยจากสถาบันวิจัยแห่งชาติ Kaiser Permanente Medical Center ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลน้อยกว่าถึง 2.26 เท่า และมีความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 น้อยกว่าถึง 2.49 เท่า เมื่อเทียบกับผู้มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะมีกิจกรรมทางกายไม่ถึงระดับตามคำแนะนำแต่ยังมีอย่างสม่ำเสมอ ก็มีความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาล และมีความเสี่ยงการเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ที่ไม่มีกิจกรรมทางกายเลยอย่างชัดเจน
          สำหรับวิธีฝึกเสริมความแข็งแรงปอดสามารถทำได้ 6 ท่า ดังนี้
          ท่าที่ 1  พุงป่อง นั่งตัวตรง วางมือทั้งสองข้างที่หน้าท้อง หายใจเข้าท้องป่อง แต่อกไม่ขยาย หายใจออกท้องแฟบ
          ท่าที่ 2  อกนิ่ง นั่งตัวตรง วางมือซ้ายบริเวณหน้าอก มือขวาวางบริเวณใต้ลิ้นปี่ หายใจเข้าท้องป่อง แต่อกไม่ขยาย หายใจออกท้องแฟบ
          ท่าที่ 3  ขยับซี่โครง นั่งตัวตรง มือทั้งสองข้างวางบริเวณตำแหน่งชายโครงด้านข้าง หายใจเข้าทางจมูกให้ซี่โครงบานออก หายใจออกช้าๆ ทางปากให้ซี่โครงหุบลง
          ท่าที่ 4  ชูมือ ยืดอก หายใจเข้าทางจมูกพร้อมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นด้านหน้า และหายใจออกทางปากยาวๆ พร้อมผ่อนแขนลง
          ท่าที่ 5 กางปีก ขยายปอด ยกแขนขึ้นประสานกันด้านหน้า หายใจเข้าทางจมูก พร้อมกางแขนออกด้านข้างทั้งสองข้าง และหายใจออกทางปากยาวๆ กลับสู่ท่าเดิม
          ท่าที่ 6  ยืดสะบัก ขยับศอก มือทั้งสองข้างประสานท้ายทอยหายใจเข้าทางจมูก พร้อมกางข้อศอกออก และหายใจออกทางปากยาวๆ พร้อมกับหุบศอกและโก่งหลัง "สำหรับการหายใจเข้า และออกแต่ละครั้งใช้เวลาครั้งละประมาณ 5 วินาที ทำ 10 ครั้งต่อรอบ 3-5 รอบ พัก 30-60 วินาที ระหว่างรอบ
          ซึ่งทั้ง 6 ท่า จะช่วยเพิ่มความสามารถในการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการเหนื่อย หายใจลำบาก ช่วยขับเสมหะ และป้องกันการเกิดภาวะปอดแฟบ" อธิบดีกรมอนามัยกล่าว


pageview  1205090    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved