HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 31/03/2564 ]
กาฬสินธุ์ ไข่แตก ติดโควิดรายแรก โยงตลาดบางแค

  กาฬสินธุ์'ไข่แตก' พบติดโควิด-19 รายแรก เดินทางมาเยี่ยมเพื่อน ขายของที่ตลาด
          กาฬสินธุ์ป่วยโควิดรายแรก
          เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 28 ราย แบ่งเป็นระบบเฝ้าระวังและบริการ 16 ราย และผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 12 ราย กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 11 ราย จำนวนผู้ป่วยรวมสะสม 28,773 ราย รักษาหายแล้ว 27,313 ราย เหลือรักษาอยู่ 1,366 ราย แบ่งเป็นอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 996 ราย รพ.สนาม 370 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 94 ราย
          พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังฯ 16 ราย พบในกรุงเทพมหานคร 9 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย สมุทรสาคร 5 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุก 12 ราย พบใน กรุงเทพฯ 6 ราย ราชบุรี 1 ราย สมุทรสาคร 5 ราย
          "กรณี จ.กาฬสินธุ์ วันนี้ไข่แตก เพราะพบผู้ติดเชื้อรายแรก ซึ่งมาจากสะเก็ดไฟที่มีการติดเชื้อจับกลุ่มก้อนพื้นที่หนึ่ง และมีการเดินทางข้ามพื้นที่ทำให้มีการติดเชื้อในพื้นที่ที่ไม่เคยมีรายงานมาก่อน โดยผู้ป่วยรายแรกของจ.กาฬสินธุ์ เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี มีประวัติเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมเพื่อน ซึ่งพบว่าเพื่อนมีประวัติค้าขายอยู่ตลาดย่านบางแคเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ต่อมาวันที่ 24 มีนาคมเดินทางกลับกาฬสินธุ์ เมื่อรู้ว่าเพื่อนป่วยโควิด จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ผลยืนยันเป็นบวก" ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าว
          พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ติดเชื้อทั่วโลก เป็นรายใหม่ 485,732 ราย สะสม 127,764,765 ราย เสียชีวิตสะสม 2,796,087 ราย
          คลัสเตอร์ใหม่ตลาดสะพานสูง
          พญ.อภิสมัยกล่าวว่า การประชุมในวันนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้นำการศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกันกับการเดินทางข้ามพื้นที่ และมีการติดเชื้อแพร่กระจายในครอบครัว โดยพบการติดเชื้อสูงที่สุดคือ ศูนย์กลางของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รองลงมาคือ การติดเชื้อในตลาดบางแค การรายงานผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งอาจจะมีคนใน 2 กลุ่มแรกเดินทางกลับบ้านโดยไม่มีอาการ นำเชื้อไปติดสมาชิกในครอบครัว
          พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า วันนี้มีรายงานการเชื้อในตลาดสดอีก 1 แห่งในเขตสะพานสูง โดยผู้ป่วยรายแรกเป็นพ่อค้าเนื้อ อายุ 39 ปี มีประวัติไปรับเนื้อจาก จ.ปทุมธานี เพื่อมาขายในตลาดเขตสะพานสูง เมื่อวันที่ 11 มีนาคม เริ่มมีอาการป่วย ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มีนาคมผลยืนยันติดเชื้อ นอกจากนั้น ภรรยา อายุ 37 ปี ก็มีผลยืนยันติดเชื้อโดยไม่มีอาการ และพบผู้สัมผัสเสี่ยงร่วมบ้าน 7 ราย ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่ยังต้องมีการติดตามผลต่อไป
          พญ.อภิสมัยกล่าวว่า นอกจากนั้นยังมีอีก 1 ราย ติดเชื้อจากตลาดเขตสะพานสูง เป็นหญิง อายุ 57 ปี มีอาชีพค้าขายลอตเตอรี่อยู่บริเวณใกล้เคียงตลาดที่พบผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 17 มีนาคมเริ่มมีอาการป่วย ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ผลยืนยันการติดเชื้อ โดยไม่มีอาการและทำให้คนในบ้านติดเชื้ออีก 4 ราย ได้แก่ ลูกอายุ 35 ปี อาชีพขายล็อตเตอรี่ พี่สาว อายุ 72 ปี ขายลอตเตอรี่ตลาดแถวร่มเกล้า แม่ อายุ 89 ปี เหลน อายุ 4 ปี เรียนอยู่ระดับอนุบาล
          เตือนไปตลาดต้องป้องกัน
          "เรามีการรายงานคลัสเตอร์การระบาด และมีการนำเสนอการเรียนรู้ เน้นย้ำอยู่ตลอด แต่ก็ยังเห็นลักษณะพฤติกรรมใกล้เคียงกัน หลายครั้งชุมชนดูข่าวแต่ไม่ตื่นตัว ไม่ได้กลับไปดูพื้นที่ของตัวเอง ก็ทำให้คนในตลาดติดเชื้อ และนำเชื้อกลับไปที่บ้านไปสัมผัสผู้สูงอายุที่อาจมีโรคประจำตัว หรือเด็กเล็ก ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยง ในบางรายก็อาจพบผู้เสียชีวิตได้" พญ.อภิสมัยกล่าว
          ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ขอเน้นย้ำมาตรการในตลาด ทางเทศบาลต้องเป็นหูเป็นตา ประชาชนก็สามารถเสนอแนะให้พื้นที่มีการเฝ้าระวังตลาด ในชุมชน นายกเทศบาลที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งมา ศบค.ก็ขอฝากให้ทุกคนช่วยดูแลตลาดและพื้นที่ชุมชน เนื่องจากปรากฏการณ์สะเก็ดไฟที่มีการติดเชื้อในพื้นที่ กระจายไปพื้นที่อื่นมีให้เห็นทั้งมุกดาหาร ยโสธร หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ ที่เป็นลักษณะการเดินทางเข้าพื้นที่และเกิดการติดเชื้อแพร่กระจายในครอบครัวและผู้ใกล้ชิด
          "ท่านยังสามารถไปตลาด แต่จะต้องเน้นย้ำมาตรการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ ทุกท่านยังการ์ดตกไม่ได้" พญ.อภิสมัยกล่าว
          จ่อถกแผนรับมาตรการผ่อนคลาย
          พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า สัปดาห์นี้ ศบค.ชุดเล็ก จะมีการหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรณีประชาชนสัมผัสผู้เสี่ยงในภาคเอกชน ภาคเศรษฐกิจ หรือผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางเข้าออกต่างประเทศ จะต้องมีการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงอย่างไร รวมถึงจะหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อมาตรการเพื่อรองรับการผ่อนคลายประเทศทั้ง 3 ระยะ เช่น กระทรวงศึกษาฯ จะมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน กระทรวงคมนาคมจะต้องมีการหารือมาตรการป้องกันโรคไปกับสถานีขนส่ง ระบบขนส่งสาธารณะรวมทั้งท่าอากาศยาน กระทรวงแรงงานต้องมีมาตรการดูแลแรงงานต่างด้าว แรงงานตามฤดูกาล กระทรวงพาณิชย์ต้องมีมาตรการดูแลการค้าทางชายแดน ขณะที่การท่องเที่ยวและกีฬา สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนาต่างๆ ก็ต้องหารือเรื่องมาตรการ เช่น การจัดกิจกรรมทางศาสนา การเดินทางข้ามพื้นที่ การสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ เป็นต้น
          'อนุทิน'เน้นฉีดวัคซีนคุ้มค่า
          ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างการเปิดงานเสวนา Smart Living with covid-19 save ทุกลมหายใจ พาคนไทย ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ตอนหนึ่งว่า สธ.พยายามจัดหาวัคซีนให้เข้ามาได้จำนวนมากและเพียงพอ ที่สำคัญความสามารถผลิตได้เองในประเทศคือ แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งตามมาตรฐาน 1 ขวด จะฉีดได้ 10 โดส แต่ปริมาณวัคซีนที่ให้มาใน 1 ขวดนั้นจะให้มาเกิน ดังนั้นหากพยายามฉีดให้ได้ ถึง 11 หรือ 12 โดส ก็จะทำให้มีวัคซีนเพิ่มขึ้น และประหยัดเงินได้ถึง 1 พันล้านบาท ที่สำคัญจะมีมีวัคซีนครอบคลุมประชากรมากขึ้น จากที่มีอยู่ 63 ล้านโดสก็จะเพิ่มเป็น 72 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรเพิ่มขึ้นอีก 20%
          สบส.ฟันรพ.โฆษณาจองวัคซีน
          นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม เจ้าหน้าที่ สบส. ตรวจพบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลของโรงพยาบาล (รพ.) เอกชนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร เปิดให้บริการรับจองฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 จึงเร่งประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสาครตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นพบว่ารพ.เอกชน ดังกล่าว ไม่ได้มีการขออนุมัติโฆษณา และมีการโฆษณาทำให้เกิดเข้าใจผิด จึงสั่งการให้ประสานงานกับ สสจ.สมุทรสาคร แจ้งรพ.เอกชนดังกล่าวระงับการโฆษณาแล้วในวันที่ 27 มีนาคม พร้อมกับนำเรื่องเข้าคณะกรรมการเปรียบเทียบคดี พิจารณาและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
          ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า สบส.เน้นย้ำให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งศึกษาและปฏิบัติตามประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล อย่างเคร่งครัด โดยประกาศกำหนดให้การกระทำไม่ว่าโดยวิธีใดๆ ให้ประชาชนเห็น ได้ยิน หรือทราบ ข้อความ เสียง หรือภาพ เพื่อการโฆษณาหรือประกาศอันเป็นประโยชน์ทางการค้าของสถานพยาบาล จะต้องขออนุมัติก่อนจึงจะเผยแพร่ได้
          "วัคซีนเป็นยา โฆษณาต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งขณะนี้ อย.ก็มีคำสั่งให้ระงับโฆษณาตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยา แล้วเช่นเดียวกัน ส่วนการโฆษณาสถานพยาบาลโดยไม่ขออนุมัตินั้น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา" ทพ.อาคมกล่าว


pageview  1205014    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved