ศบค.รับสถานการณ์รุนแรง - ยันไม่ใช้ 'ยาแรง' หวั่นกระทบเศรษฐกิจ
          สธ.ประเมินแนวโน้ม เพิ่ม"ก้าวกระโดด"
          กรุงเทพธุรกิจ   ศบค.ยันไม่ล็อกดาวน์ หวั่นกระทบเศรษฐกิจ-ประชาชน   นายกฯ ลงนามในราชกิจจาฯกำหนดมาตรการ 8 ข้อคุมเข้ม 28 จังหวัด สั่งปิด-ห้าม-เดินทาง ข้ามจังหวัด มีผลวันนี้ ด้านสธ.คาด แนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด "สมุทรสาคร"วันเดียว 541 ราย ฝาก ประชาชนปฎิบัติตามมาตรการวิถีชีวิตใหม่ อย่างเคร่งครัด
          วานนี้ (3 ม.ค. ) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันว่า ประเทศไทยพบจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 315 ราย เป็นการติดเชื้อ ในประเทศ 294 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อ ในประเทศ 274 ราย ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 20 ราย ทำให้ขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสม 7,694 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 64 ราย ผู้ป่วย ที่รักษาหายแล้ว 4,337 ราย หายป่วยเพิ่ม 38 ราย
          ทั้งนี้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมายอดป่วยสะสมจะขึ้นเป็นหลักพัน และหลายพัน ทำให้ยอดการติดเชื้อในประเทศเป็น 5,650 ราย แต่กราฟความชันของผู้ป่วยรายใหม่มีทั้งขึ้นและลง โดยต้องพิจารณาภาพรวม ซึ่งวันนี้เป็นนิวไฮ (New High) เมื่อจำแนกผู้ป่วยรายใหม่จะมีดังนี้ 1. ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวัง และบริการจำนวน 274 ราย ได้แก่ มีประวัติเชื่อมโยงกับสมุทรสาคร 2 ราย พบในกรุงเทพมหานคร(กทม.) และสมุทรสงครามเชื่อมโยงกับพัทยาชลบุรี 1 รายพบในกทม. กลุ่มผู้มีประวัติสถานที่อาชีพเสี่ยง และสัมผัส ผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 37 ราย พบในกทม. 15 ราย เชียงใหม่ 2 ราย นนทบุรี 2 ราย ราชบุรี 5 ราย  ลำปาง 2 ราย อ่างทอง 9 ราย กาญจนบุรี และอำนาจเจริญ จังหวัดละ 1 ราย รวมถึงอยู่ใน ระหว่างการสอบสวนโรค 234 ราย พบใน กทม. 2 ราย นนทบุรี 1 ราย สมุทรสาคร 38 ราย ระยอง 43 ราย ชลบุรี 62 ราย สมุทรปราการ 8 ราย จันทบุรี 68 ราย และตราด 12 ราย
          2.กลุ่มคัดกรองกลุ่มแรงงานต่างด้าวพบในนนทบุรี 3 ราย สมุทรสาคร 17 ราย และ 3.กลุ่ม ผู้เดินทางจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกันโรค 21 ราย ได้แก่ ปากีสถาน 3 ราย สหรัฐ 4 ราย รัสเซีย 2 ราย กาตาร์ 2 ราย อียิปต์ 3 ราย และบาห์เรน คูเวต อิตาลี อินโดนีเซีย เอธิโอเปีย อินเดีย สหราชอาณาจักร ประเทศละ 1 ราย
          อย่างไรก็ตาม แผนที่ประเทศไทยตอนนี้คงที่อยู่ 53 จังหวัด แต่คำว่าคงที่คือในแต่ละจังหวัด ที่ประกาศออกมา ขยับจากสีส้มเป็นสีแดง สีเหลือง เป็นสีส้ม เช่น จันทบุรี อ่างทอง สระแก้ว โดยตาราง จำแนกการพบผู้ป่วยแต่ละจังหวัด หากเป็นสีแดงทั้งกระดานคงไม่ใช่เรื่องดี  สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 136
          สมุทรสาครยอดพุ่ง541ราย
          ขณะที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เผยสถานการณ์ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ พบว่า วานนี้(3 ม.ค.) เวลา 14.00 น. มีผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มขึ้น 541 ราย เป็นผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก  541 รายเป็นชาวไทย 57 รายต่างด้าว 448 ราย ผู้ป่วย ที่มาโรงพยาบาลเอง 36 ราย เป็นชาวไทย 29 ราย ต่างด้าว 7 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันยันสะสม 2,401 ราย
          สำหรับการนำผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าสู่ ศูนย์ห่วงใยคนสาครวัดโกรกกราก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าไปพักรักษาตัวภายในศูนย์ฯ วัดโกรกกราก เพิ่มอีก 45 ราย โดยยอดรวม ขณะนี้  มีผู้เข้าพักอาศัยในศูนย์ห่วงใยคนสาคร วัดโกรกกรากทั้งสิ้น 97 ราย จากจำนวนที่รองรับได้ ทั้งหมด 140 ราย และคาดว่า จะมีการนำเตียงเข้ามาเสริมอีก 30 เตียง
          ศูนย์ห่วงใยคนสาคร ที่สนามกีฬากลาง จังหวัดสมุทรสาคร รองรับผู้ติดเชื้อที่ ไม่แสดงอาการได้ 540 คน นอกจากนี้ยังมี ที่ วัฒนาแฟคทอรี่ วัดเทพนรรัตน์ อาคาร เอนกประสงค์เทศบาลตำบลนาดี และวัดช่องลม อาคารหลังคาโค้ง อบต.ท่าทราย ที่รองรับ ผู้เข้าพักได้ 200 กว่าคน ซึ่งคาดว่าจะต้องมีพื้นที่รองรับได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 คน
          ยันไม่ล็อกดาวน์ หวั่นกระทบศก
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงมาตรการต่างๆ การใช้ยาแรงอาจทำให้สูญเสียด้านอื่นและ นี่เป็นเหตุผลที่ไม่ใช้คำว่าล็อกดาวน์ เพราะเมื่อใด ก็ตามที่ทาง ศบค.ประกาศล็อกดาวน์ หมายถึง คำสั่งที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจ การหารายได้ของ ประชาชน แต่ทั้งนี้ ศบค.ได้มีมาตรการเยียวยา ประชาชน ซึ่งการใช้มาตรการต่างๆ เหล่านี้ มีค่าใช้จ่ายต้องเสีย และเป็นภาระภาษีประชาชน ทำให้ทุกคนต้องลำบากกันทั้งหมด
          อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกคนล้วนอยากทำมาหากิน จึงขอความร่วมมือให้ทำมาหากินแบบวิถีชีวิตใหม่ ต้องปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข
          "การให้งดเที่ยวบินไม่ได้หมายความว่า จะทำให้ ลดโรคได้หรือการงดขายอาหาร แล้วโรคจะลดลง ก็ไม่ใช่ เพราะการแพร่ระบาดของโรค มาจากหลาย ปัจจัยหากจังหวัดที่ควบคุมโรคได้ดี ยกตัวอย่าง นครปฐม เมื่อพบระบาดก็มีการสอบสวนโรค วงแรกมีคนติดหลักสิบคน และรีบสอบสวนโรค ทำให้พบผู้สัมผัสวงที่สอง และนำไปสู่วงที่สามภายในเวลาไม่เท่าไหร่ ก็ลดการติดต่อโรคไปหลายขั้นได้
          ดังนั้นแต่ละจังหวัดมีภาพแตกต่างกัน การที่  ศบค.ไม่ใช้ยาแรงอย่างเดียวในการจัดการประเทศ เพราะคนที่เจ็บปวดและเดือดร้อนที่สุดคือ ประชาชนปกติที่ต้องจำกัดเวลาจำกัดพื้นที่  ไม่อยากให้คนปกติสุจริตชนทั้งหลายต้องเดือดร้อน มากกว่านี้" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
          ประกาศ8มาตรการคุมพื้นที่28จังหวัด
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 ม.ค.)นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในประกาศราชกิจจานุเบกษา 8 ข้อกำหนด สั่งปิด-ห้าม-ตรวจเข้มเดินทาง ข้ามจังหวัด ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด มีผล 06.00 น. วันนี้ (4 ม.ค.63)
          มาตรการทั้ง 8 ข้อ ได้แก่ 1.การห้ามใช้อาคาร หรือสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือห้ามใช้ อาคาร และสถานที่ของโรงเรียนสถาบันการศึกษาในพื้นที่ควบคุมสูงสุดเน้นย้ำว่าขอใช้ในพื้นที่สีแดง หรือใน 28  จังหวัดที่มีการติดเชื้อสูงสุดหรือพื้นที่ใกล้เคียง
          2.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการควบคุมโรค เช่น ประชุมสัมนา จัดเลี้ยง การแต่งงาน เว้นเป็นการดำเนินงานจากเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัด มอบหมายให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ตามความรับผิดชอบ
          3.ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ สั่งปิดสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการผับบาร์คาราโอเกะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด
          4.ส่วนร้านอาหาร ได้ปรับผ่อนเกณฑ์จากเดิม อนุญาตให้ขายเฉพาะนำกลับบ้านเท่านั้น เป็นให้สามารถจำหน่ายอาหารได้ตามปกติแต่ต้องมีการจัดระเบียบจำนวนคนในร้านโดยอาจให้เป็น ลักษณะนำกลับไปบริโภคที่อื่นโดยให้คณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัดในแต่ละจังหวัดพิจารณา
          5.คำสั่งปิดหรือเปิดสถานที่ต่างๆ มอบอำนาจ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการได้ และ 6.การเดินทางข้ามจังหวัด แต่มีการตรวจ และคัดกรองการเดินทาง โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมต้องดำเนินการตามมาตรการ ศบค. กำหนดพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และไม่ก่อความเดือนร้อนแก่ประชาชนให้ประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ 7.การทำงานที่บ้านหรือสลับเวลาการทำงาน และ 8.ให้ดำเนินการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลาย เสนอนายกรัฐมนตรีให้ผ่อนคลายหรือยับยั้งในพื้นที่ควบคุม
          สธ.คาดผู้ติดเชื้อเพิ่มก้าวกระโดด
          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า ความก้าวหน้าการสอบสวนการระบาดของโควิด-19 เริ่มต้นการระบาดครั้งใหม่ประมาณกลางเดือน ธ.ค.2563 เบื้องต้นเกิดการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และมาติดคนไทย ซึ่งการควบคุมแรงงานต่างด้าวลำบากมากกว่าคนไทย
          ดังนั้น อยากให้ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว หรือมีการติดตาม มาตรการควบคุมโรคของ สธ. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค และควรส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคล และ ไม่ให้ข้ามจังหวัด ต่อมาเป็นการระบาดในคนไทย ที่ไปบ่อนการพนัน และสถานบันเทิง แม้จะมีการปิดบ่อนการพนัน และสถานบันเทิงแล้ว แต่อาจมี ผู้ติดเชื้อบางส่วนไม่แสดงอาการ และตอนนี้ได้นำเชื้อ ไปติดคนในครอบครัว เด็ก ผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้น  ถ้าใครเริ่มสงสัยให้ใส่หน้ากากอนามัย และไปตรวจ โดยให้บอกประวัติความเสี่ยงให้ครบ
          แนวโน้มมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ต่อเนื่อง ภายหลังมีการติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง และในช่วงปีใหม่เป็นต้นมา เป็นการติดเชื้อในคนไทยในหลายจังหวัด ซึ่ง กระจายไปใน 53 จังหวัดอย่างรวดเร็ว ผู้ติดเชื้อ ในสถานบันเทิงและร้านอาหารเชื่อมโยงกับ ศูนย์กลางการระบาดที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร และบ่อนการพนันที่จ.ระยองและภาคตะวันออก
          "อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อยังจะเพิ่มต่อเนื่อง แม้จะควบคุมโรคในแรงงานต่างด้าวได้ระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้น หลังปีใหม่ คาดว่า อาจยังพบการแพร่เชื้ออยู่ในพื้นที่พบการระบาด ขณะที่สถานบันเทิงยังเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูง  ดังนั้นวันที่ 4 ม.ค.นี้ คาดว่า จะมีการดำเนินมาตรการเข้มงวด เพื่อป้องกันความเสี่ยง" รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
          เจอสายพันธุ์อังกฤษกลายพันธุ์ในไทย
          ด้าน ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ  หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า โควิด-19 สายพันธุ์ อังกฤษกลายพันธุ์ พบในไทยแล้ว โดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ ได้ถอดรหัสสายพันธุ์พบเป็น สายพันธุ์อังกฤษ หรือที่เรียกว่า "สายพันธุ์อังกฤษที่กลายพันธุ์ B.1.1.7" ได้ในประเทศไทย เป็นครอบครัวชาวอังกฤษ 4  คนพ่อแม่ลูก 2 คนติดเชื้อ ทั้ง 4 คน โดยที่แม่และลูกเป็นก่อน พ่อเป็นทีหลัง มาจากเมือง Kent ประเทศอังกฤษ อยู่ใน ASQ โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งได้มีการควบคุมไม่ให้แพร่กระจายออกไป