HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 08/09/2563 ]
สร้างภูมิคุ้มกัน ด้วย วิตามินซี

  กรุงเทพธุรกิจ   ในยุค Covid-19 การดูแลสุขภาพถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการล้างมืออย่างถูกวิธี หรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป การใส่หน้ากากอนามัย การรักษาร่างกายให้แข็งแรง รวมถึงการทานวิตามินซีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโดยรวมได้ และหากรับประทานวิตามินซีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของภูมิคุ้มกันโรค ควรเลือกรับประทานผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระสูงควบคู่ไปด้วย
          พญ.กมลพร พูลพุฒ แพทย์ประจำศูนย์ลดน้ำหนัก โรงพยาบาลยันฮี  อธิบายประโยชน์ที่สำคัญของวิตามินซี ว่า มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการทำงานเม็ดเลือดขาวของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น โดยเม็ดเลือดขาวจะคอยต่อสู้ และกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย
          รวมถึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส และเมื่อวิตามินซีเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเมล็ดเลือดขาวให้แข็งแรง เท่ากับว่าร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่ดีมากขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ และยังช่วยเสริมความแข็งแรง ป้องกันความ เสียหายของร่างกายที่เป็น ผลมาจากสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย หากได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอต่อวันก็เป็นทางเลือก ที่ดีต่อสุขภาพ
          ทั้งนี้วิตามินซี เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะร่างกายสร้างเองไม่ได้ การขาดวิตามินซีทำให้ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ติดเชื้อได้ง่าย ควรรับประทานวิตามินซี ให้เพียงพอต่อความต้องการ วิตามินซีมีในผัก ผลไม้ และอยู่ในรูปอาหารเสริม ซึ่งมีหลายหลายชนิด เรามาดูกันว่าวิตามินซี มีแบบไหนบ้าง และแต่ละแบบเหมาะกับใคร
          แบบเม็ด เหมาะกับคนทั่วไป ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ข้อดีคือทานง่าย พกพาสะดวก
          แบบชง เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่กังวลเรื่องระคายเคืองกระเพาะอาหาร และผู้ที่ไม่ชอบทานแบบเม็ด ข้อดีคือรสชาติดี ทานง่าย ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร บางชนิดมีใบโอฟลานโวนอยด์สูง ช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี ยิ่งขึ้น
          แบบเยลลี่ แนะนำเป็นขนมสำหรับเด็กที่ต้องการเสริมวิตามินซี ข้อดีคือรสชาติดี พกพาสะดวก ทานง่าย
          การทานวิตามินซีไม่เป็นอันตราย สามารถทานได้ทุกวัน แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ แนะนำให้ทานพร้อมมื้ออาหารหรือหลังอาหารเพื่อการดูดซึม ที่ดี ปริมาณที่แนะนำต่อวัน จะแตกต่างกันไป ตามเพศ ความต้องการของแต่ละช่วงวัย ผู้สูงอายุหญิงตั้งครรภ์ และ ให้นมบุตร
          ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน ทารกชาย/หญิงอายุ0-5 เดือน ควรได้รับ 40 มิลลิกรัม ชาย/หญิง อายุ  6-11 เดือน ควรรับ 50 มิลลิกรัม เด็กชาย 1-3 ปี 20 มิลลิกรัม อายุ  4-5 ปี ควรรับ 25 มิลลิกรัม  อายุ 6-8 ปี 30 มิลลิกรัม  หญิงอายุ  1-3 ปี 20 มิลลิกรัม อายุ 4-5 ปี 25 มิลลิกรัม อายุ 6-8 ปี30 มิลลิกรัม
          วัยรุ่น ชาย 9-12 ปี 50 มิลลิกรัม อายุ  13-15 ปี 70 มิลลิกรัม อายุ 16-18 ปี 80 มิลลิกรัม หญิง อายุ 9-12 ปี 50 มิลลิกรัม  อายุ 13-15 ปี 65 มิลลิกรัม อายุ 16-18 ปี 65 มิลลิกรัม   ผู้ใหญ่ชายอายุ 19-30 ปี 80 มิลลิกรัม  อายุ 31-50 ปี 80 มิลลิกรัม  อายุ 51-60 ปี 80 มิลลิกรัม อายุ 61-70 ปี 80 มิลลิกรัมณ   71 ปี 80  มิลลิกรัมหญิง อายุ 19-30 ปี 70 มิลลิกรัม อายุ 31-50 ปี 70 มิลลิกรัม อายุ 51-60 ปี 70 มิลลิกรัม อายุ 61-70 ปี70 มิลลิกรัม ณ   71 ปี 70 มิลลิกรัม
          ขณะที่ หญิงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 1 +10 มิลลิกรัม ไตรมาสที่ 2 +10 มิลลิกรัม ไตรมาสที่ 3 +10 มิลลิกรัม หญิงให้นมบุตร 0-5 เดือน  +60 มิลลิกรัม 6-11 เดือน +60 มิลลิกรัม
          ทั้งนี้ ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ.2563 สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่สำคัญหากรับประทานวิตามินซีมากเกินไป จะมีอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารและระบบการย่อยอาหาร จึงทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือแสบท้องได้ เนื่องจาก ภาวะความเป็นกรดของวิตามินซี นั่นเอง


pageview  1205146    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved