สธ.เร่งสอบพิกัดชาวเกาหลีใต้อ้างติดเชื้อโควิดในไทย ตามรอยเคยพักย่านวังทองหลาง ย้ำ ปชช.ให้มั่นใจ จนท.ในการป้องกันโรคโควิดดูแลเข้มแข็ง ทั่วโลกติดเชื้อเสียชีวิตใกล้แตะ 9 แสนราย
          บิ๊กตู่รับข้อเสนอเปิดเส้นทางบิน
          เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงผล กระทบการค้าชายแดนที่ได้รับผลกระทบใน ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ว่า ส่งผลให้การค้าชายแดนมีความยากลำบาก กระทบต่อรายได้แก่เกษตรกรในท้องถิ่นแต่เป็นเพียงช่วงเวลาชั่วคราว ขอให้เกษตรกรพัฒนาสินค้า ใช้การตลาดนำการผลิต เพื่อให้สินค้าจำหน่ายได้ สำหรับข้อเสนอที่จะ ให้เส้นทางบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนกลับมาเปิดอีกครั้ง ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาและประเมินความหนาแน่นของผู้โดยสารก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
          ต่อมาเวลา 13.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีต่ออายุพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นการต่อในพื้นที่เดิมที่ยังมีความรุนแรงอยู่ และปรับลด อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ออกไป ตรงนี้เป็นเรื่องธรรมดา จะเห็นได้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินใช้เมื่อจำเป็น เมื่อไม่จำเป็นก็ปลดออก ถ้าไม่ดีก็ต้องประกาศใหม่ วันหน้า พ.ร.ก.ฉุกเฉินเกี่ยวกับเรื่อง โควิด-19 ก็ลดลงได้เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ต้องการ บูรณาการกฎหมายของทุกหน่วยงาน ไม่เช่นนั้นทหาร ตำรวจ จะลงไปทำงานตรงนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพ กฎหมายของสาธารณสุขเป็นเรื่องของสุขภาพอย่างเดียว ทำอย่างอื่นไม่ได้ แม้กระทั่งพื้นที่ชายแดนจะลำบาก ถือเป็นเรื่อง บูรณาการกฎหมายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ยืนยันไม่เกี่ยวกัน
          นายกฯเก็บแผน'ภูเก็ตโมเดล'
          พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์เรื่องของการ ผ่อนคลายมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า แม้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้ออาศัยในประเทศไทย เราสามารถติดตามได้ทั้งหมดและตรวจสอบยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยอยู่ ขออย่าตื่นตระหนก ถือว่าเป็นการทดสอบระบบของเราว่าทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ส่วนในบริเวณชายแดนนั้นได้กำชับตลอดเวลา มีการเพิ่มกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ในบริเวณชายแดน เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ได้พักที่บ้าน ต้องลดอัตราการลาพักตามวงรอบลง ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วยในเรื่องของความเสียสละ
          ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าภูเก็ตโมเดลและการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเดือนตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องการท่องเที่ยวขอให้คนไทยท่องเที่ยวภายในประเทศไปก่อน เพราะการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นยังคงทำไม่ได้ ประชาชนในพื้นที่ยังไม่ตอบรับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพับโครงการนี้
          อนุทินเผยสธ.พร้อมสู้โควิด
          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัดพื้นที่ ภายใต้ "ภูเก็ตโมเดล" ได้ผ่านความเห็นชอบจากศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.แต่นายกฯ ยังไม่รับพิจารณาแผนดังกล่าว ว่า วันนี้พูดได้อย่างเดียวว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและพร้อมผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนสามารถสร้างรายได้และมีการจ้างงาน ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องช่วยกันด้วย
          "เมื่อรัฐบาลพร้อมจะทำให้ แต่ยังมีเสียงว่าไม่ได้เดี๋ยวจะมีการติดเชื้อ ผู้ประกอบการต่างๆ ควรทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้อง วันนี้ในนามของกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมดูแลรักษา หากโชคไม่ดีมีการติดเชื้อจริงๆ แต่วันนี้เราไม่เหมือนช่วงที่มีการระบาดของโรคใหม่ๆ กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม ที่สำคัญเราพูดมาหลายครั้งแล้วว่าเราจะกลัวโควิดจนไม่ทำอะไรเลย ไปตั้งเป้าว่าจะมีการติดเชื้อเป็นศูนย์ภายในประเทศ ถ้าเป็นช่วงที่เรายังไม่รู้จักเชื้อดังกล่าวก็พอเข้าใจได้ แต่วันนี้เข้าสู่เดือนที่ 9 แล้ว เราต้องสู้กับมันและต้องอยู่กับมันให้ได้ ยืนยันว่าในปัจจุบันประเทศไทยมีความพร้อมที่จะสู้กับโควิด ถ้าคนไทยพร้อมจะสู้ก็อย่าไปกลัวมัน" นายอนุทินกล่าว
          แนะชงแผน-เตรียมลงพื้นที่
          ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ จะเริ่มแผนดังกล่าว นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมผ่อนคลายมาตรการ แต่วันนี้มีเสียงต่อต้านออกมาไม่ทราบว่าผู้ที่ต่อต้านเป็นคนภูเก็ตหรือไม่ คนภูเก็ตด้วยกันจะต้องออกมาสนับสนุนและยืนยันไม่ใช่เฉพาะที่ จ.ภูเก็ต เท่านั้น จังหวัดใดที่มีความพร้อม รัฐบาลจะเข้าไปดูแลและให้การสนับสนุน จะเปิดหรือปิดอย่าลืมว่าจะต้องถามกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก
          "วันจริงได้เริ่มแผนไปเมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ ผ่านมา แต่เขาไม่เอาเอง ถ้าจะเดินหน้าต่อก็ต้องนำมาตรการต่างๆ กลับเข้าหารือในที่ประชุม ศบค. ทั้งนี้ในพื้นที่ก็จะต้องเสนอมาตรการเข้ามา สิ่งที่เราทำไม่ได้หมายความว่าปล่อยให้คนเดินเพ่นพ่าน ถ้ามีนักท่องเที่ยวเข้ามา แทนที่จะให้อยู่แต่เฉพาะในห้องพักและนำอาหารเข้าไปเสิร์ฟเหมือนอยู่ในสถานที่กักกัน จะใช้วิธีกำหนดพื้นที่เป็นโรงแรม นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องอยู่ 14 วัน สามารถใช้บริการสระว่ายน้ำ ชายหาด ในอาณาบริเวณของโรงแรมที่กำหนด ตรงนี้ถือว่าโอเคเพราะเรามีมาตรการคัดกรองโรคและป้องกันโรคอยู่แล้ว และเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้กับคนได้ด้วย ผมไปภูเก็ตสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกคนก็อยากจะทำ ยืนยันว่ารัฐบาลได้เร่งดำเนินการอยู่แล้วแต่ก็มีคนบางกลุ่มไม่รับซึ่งเขาก็บอกว่าจะไปคุยกัน" นายอนุทินกล่าว
          มั่นใจรพ.ชายแดนรับมืออยู่
          นายอนุทินยังกล่าวถึงความพร้อมของ โรงพยาบาลตามแนวชายแดนในการรับมือ การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า เตรียมความ พร้อมมานานแล้ว โรงพยาบาลตามแนวชายแดนยืนยันว่ามีความพร้อม 100% อาจจะยิ่งพร้อมด้วยซ้ำ เพราะไม่มีคนใช้ ทุกเดือนเราซัพพลายเข้าไปตลอด เวชภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมก็ไม่ได้ใช้ ผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 จำนวน 105 คน เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่ใช่ผู้ป่วยที่ค้างคาในประเทศ
          เมื่อถามถึงความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน นายอนุทินกล่าวว่า ยังคงมีการพัฒนาอยู่กับหลายสถาบัน งบก้อนแรกนายกรัฐมนตรี เจียดจากงบกลางมาให้ 1 พันล้าน นำไปพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด 600 ล้าน และให้กับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 400 ล้าน ส่วนงบเงินกู้ที่สำรองไว้ประมาณ 3 พันกว่าล้านบาทยังอยู่เต็ม เรามีช่องที่จะพัฒนาต่อไป เร็วๆ นี้ กำลังจะพิจารณาเข้าโครงการโคแวกซ์ (Covax) ภายใต้กำกับขององค์การอนามัยโลก (WHO) หากเข้าโครงการนี้เท่ากับเราเข้าไปร่วมพัฒนากับเขา ใช้เครดิตเงินทุนที่ลงไปร่วมพัฒนากลับมาเป็นวัคซีน เมื่อค้นพบวัคซีนเรียบร้อย ทุกประเทศในโลกเข้าโครงการนี้หมด ถ้าเราไม่เข้า พอถึงเวลาเราจะเป็นที่โหล่ เปรียบเป็นอัตราส่วนเท่ากับเรามีประมาณ 15 ราย เมื่อเข้าร่วมโครงการเท่ากับจะมีผู้พัฒนาวัคซีน 15 ราย อยู่ในโครงการนี้ ทั้งนี้จะต้องใช้งบประมาณ หารือกันในระดับ ศบค. และนายกรัฐมนตรีที่จะต้องนำเข้า ครม.ด้วย
          รอคุยใหม่เปิดสถานบันเทิง
          นายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์กรณีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดว่า เขาทำงานตรงนั้นต่างชาติเยอะแยะไปหมด แต่ต้องดูว่าเมื่อติดแล้ว เราเจอเขาหรือไม่ เมื่อเจอก็รีบไปควบคุมและสวบสวนโรคไปแล้ว 500-600 คน คนที่มีความเสี่ยงสูงไม่มี การแพร่เชื้ออีก 5-7 วัน ก็ต้องตรวจเชื้อเพื่อ สร้างความมั่นใจอีก ส่วน ศบค.ต้องทบทวนการเปิดสถานบันเทิง ต้องมีการพูดกัน พวกดื่มสาบานแก้วเดียวกัน กรีดเลือดกัน ตอนนี้ต้อง ไม่มี ยังไม่ต้องเป็นเพื่อนกรีดเลือดกัน เราเป็นเพื่อนกันด้วยจิตใจด้วยมิตรภาพดีกว่า ศบค.จะประชุมกันเรื่อยๆ วันนี้มีผู้ว่าฯหลายจังหวัดออกประกาศเพิ่มเติมเรื่องผับบาร์และปิดบางแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เป็นเรื่องปลายเหตุ ต้นเหตุคือวินัยของเราสู้กันมา 9 เดือน วันนี้ประเทศไทยไม่มีการติดเชื้อกันภายใน เพราะไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศและสัมผัสกับคนต่างประเทศ แต่เราก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยและควรทำเช่นนี้ต่อไปจนกว่าจะมีวัคซีน ผู้ว่าฯกทม.ก็ควรต้องทบทวนมาตรการตรงนี้อย่าให้วัวหายแล้วล้อมคอก"
          ทบ.ตั้งกำแพง3ชั้นดูแลหนีเข้าไทย
          ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณฐพล ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะ ผอ.ศบค.ทบ. กล่าวถึงการป้องกันโควิด-19 ที่มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ ว่า มีความพยายามลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามา แต่กองกำลังป้องกันชายแดนได้ปรับกำลังและเตรียมมาตรการต่างๆ ในเรื่องการลาดตระเวนให้เข้มข้นมากขึ้น และประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น คิดว่าระยะต่อจากนี้จะต้องดำเนินการมาตรการเข้มข้นเป็นอีกเวลายาวนาน อีกทั้งในปัจจุบัน ศบค.ทบ. มีระบบการสื่อสารโดยตรงกับทางโรงพยาบาลในส่วนที่เป็นของทหารในพื้นที่จะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำ สนับสนุนกิจการต่างๆ ให้กับกองทัพภาค โดยเฉพาะกอง กำลังป้องกันชายแดน
          "ยอมรับว่ายังมีความวิตก ในกรณีที่มาตรการการป้องกันแนวชายแดน แม้จะมีความสามารถในระดับหนึ่ง แต่ความพยายามที่จะเล็ดลอดเข้ามา เทียบเคียงได้กับยาเสพติดทำกันมา เป็นสิบปี แต่ก็เล็ดลอดเข้ามาได้ สิ่งที่สำคัญก็คือการป้องกันและการตระหนักรู้ของคนไทย เอง โดยเฉพาะนายจ้างหรือประชาชนพื้นที่ภายในต้องช่วยกันสานพลังตรงนี้ว่าจะไม่พยายามให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านการคัดกรองโรคเข้ามาถึงพื้นที่ภายในได้ ส่วนคนที่มีหน้าที่ป้องกันก็ทำหน้าที่ป้องกันไป ส่วนประเทศต้นทางจะต้องสานความร่วมมือในการที่จะช่วยกันดูแล เป็นกำแพงสามชั้นจะเป็นสิ่งที่มั่นคงที่สุด ทั้งประเทศต้นทาง แนวชายแดนและคนภายในที่จะต้องตระหนักรู้และรับผิดชอบ" พล.อ.ณฐพลกล่าว
          สระแก้วจับ2แท็กซี่ขนต่างด้าว
          ที่ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านกุดเตย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พบรถแท็กซี่เหลืองต้องสงสัย 2 คัน คันแรก ทะเบียน ทฬ 1419 กรุงเทพมหานคร นายประทวน บุญยังแก้ว อายุ 45 ปี ชาวกรุงเทพฯ เป็นคนขับ ได้ขนแรงงานกัมพูชา 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 เข้ามา และรถแท็กซี่อีกคัน ทะเบียน ทฬ 8474 กรุงเทพมหานคร นายสมบัติ ปิยะวงศ์ อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพฯ เป็นคนขับ ได้ขนแรงงานกัมพูชาจากช่องทางธรรมชาติจำนวน 6 คน เป็น ชาย 3 หญิง 3 เพื่อนำไปส่ง จ.ชลบุรี ย่านหลักสี่ กทม. และ จ.สมุทรปราการ โชเฟอร์แท็กซี่ได้ค่าหัวคนละ 1,800 บาท
          ไทยพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 ราย
          เมื่อเวลา 11.00 น. เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เป็นชายชาวอินเดีย อายุ 46 ปี เดินทางมาจากประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 1 กันยายน และเข้าพักในสถานกักกันโรคทางเลือก (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 กันยายน ผลตรวจพบเชื้อ ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในไทยรวมสะสม 3,446 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,445 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) 508 ราย รักษาหายแล้ว 3,284 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 104 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย
          ตามเคสเกาหลีใต้ติดเชื้อไทย
          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวกรณีพบชายชาวเกาหลีใต้ติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ว่า กรมควบคุมโรคได้ประสานไปยังจุดประสานงานกรมอนามัยระหว่างประเทศของประเทศเกาหลีใต้ทันทีเพื่อสอบสวนโรค และตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลรายดังกล่าวแล้ว
          "จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เป็นเพศชาย สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 54 ปี เดินทางจากประเทศไทยไปที่เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 4 กันยายน โดยสายการบินโคเรียนแอร์ และเวลา 07.00-11.00 น. จากสนามบินนานาชาติอินชอน นั่งรถบัสไปศูนย์สุขภาพซงทัน สำหรับตรวจผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จากนั้นขึ้นรถพยาบาลไปที่บ้านเพื่อแยกกักตัว และในวันที่ 5 กันยายน 2563 ทราบผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 คือผลเป็นบวก ทำให้บุคคลดังกล่าวถูกย้ายตัวไปที่ศูนย์รักษาผู้ป่วยที่อันซ็อง (Anseong Living Treatment Center)" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
          เผยชายกิมจิพักวังทองหลาง
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สำหรับประวัติในประเทศไทย เบื้องต้นพบว่าบุคคลดังกล่าวเดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 และพักอาศัยอยู่ในเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคของกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งดำเนินการสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ โดยเร็ว
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรค สธ.ได้ปฏิบัติตามหลักสากลในการป้องกันควบคุมโรค ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ.2548 (International Health Regulations: IHR 2005) ที่ได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศที่มีระบบความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ ทำให้มีการตรวจสอบติดตามและสอบสวนป้องกันโรคได้อย่างรวดเร็ว ทันทีเมื่อได้รับแจ้งข่าว และขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรม ควบคุมโรค โทร 1422
          กทม.แนะปชช.แจ้งเบาะแส
          ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.กทม.ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ประชุม จึงให้ชุด ตรวจของคณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อย รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการและประชาชนตระหนัก ถึงมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการ รวมถึง กทม.กำหนด ขอให้ร่วมกันปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการใช้แอพพลิเคชั่นหรือแพลต ฟอร์มไทยชนะ ปัจจุบันทั้งสถานประกอบการ และประชาชนเช็กอินผ่านแอพพ์ดังกล่าว ดังน้อยลง
          "ในที่ประชุมได้แจ้งว่าที่ผ่าน กทม.เคยสั่งปิดสถานประกอบการอย่างน้อย 2 แห่ง เนื่องจากไม่จัดเตรียม แนะนำ และกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการเช็กอินผ่านแอพพ์หรือแพลตฟอร์มไทยชนะ และบางแห่งปล่อยให้มีผู้เข้าใช้บริการหนาแน่นมากเกินไป นอกจากนี้ ขอให้ชุดตรวจประชาสัมพันธ์ห้ามประชาชนดื่มเครื่องดื่มร่วมภาชนะ เช่น การดื่มเครื่องดื่มจากแก้วเดียวกัน หรือการดื่มเครื่องดื่มโดยใช้หลอดดูดจากถังผสมเครื่องดื่มเดียวกันซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้" พล.ต.ท.โสภณกล่าว
          ติดเชื้อทั่วโลกกำลังเข้าสู่28ล.คน
          ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลก ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 27,497,148 คน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิต 896,957 ราย คาดว่าจะถึง 900,000 ราย ในอีกไม่นาน อียิปต์กลายเป็นประเทศที่ 31 ของโลกมีผู้ติดเชื้อถึงหลักแสน อยู่ที่ 100,041 คน จำนวนผู้เสียชีวิต 5,541 ราย ด้านสเปนเป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตก ที่มีผู้ติดเชื้อทะลุครึ่งล้าน จำนวน 525,549 คน กลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในวัยหนุ่มสาวไม่ แสดงอาการ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในสเปน 29,516 ราย
          ขณะที่เมียนมายังติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังตัวเลขอยู่ในระดับต่ำมาหลายเดือน ล่าสุดในวันที่ 8 กันยายน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมียนมาเพิ่มขึ้น 92 คน ทำให้ยอดอยู่ที่ 1,610 คน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะไข่ ได้มีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ไปแล้ว เช่นเดียวกับพื้นที่บางส่วนของนครย่างกุ้งที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้เมียนมาใช้มาตรการคุมเข้มในหลายเมือง รวมถึงกรุงเนปยีดอ เมืองหลวงด้วย
          การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเมียนมา อยู่ท่ามกลางพรรคการเมืองเริ่มต้นการหาเสียงเพื่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้ต้องมีการควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมหาเสียงไม่เกิน 50 คน ขณะที่หลายคนเรียกร้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อน แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่านางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาติชาติเพื่อประชาธิปไตย เป็นพรรครัฐบาลเมียนมาคงไม่ยินยอม เท่ากับยอมรับว่าการรับมือกับการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ล้มเหลว