HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 21/07/2563 ]
ระยองโล่ง-ผลตรวจพันคนยังไม่พบโควิด

อีก1.2พันรายคาดเป็นลบ คอนโดฯลูกทูตก็ไร้ติดเชื้อ กทม.แจ้งกลุ่มเสี่ยงรีบเช็ก สธ.พร้อมถ้าระบาดรอบ2 จ่อแจ้ง4ข้อหา2หนุ่มชูป้าย
          ผลตรวจชาวระยอง-กทม. 1 พันกว่าคนไม่ติดโควิด สธ.แถลงมั่นใจระบาดรอบสองควบคุมได้
          ติดโควิดเพิ่ม4มาจาก3ปท.
          เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย สะสมอยู่ที่ 3,236 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ 299 ราย ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม สะสมรวม 58 ราย ผู้ป่วยรักษาหายสะสมที่ 3,095 ราย อยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) 83 ราย ในจำนวนผู้ป่วยสะสมพบในกรุงเทพมหานครและ จ.นนทบุรี 1,787 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 499 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคใต้ 744 ราย
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผู้เดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 33 ปี อาชีพรับจ้างและหญิงไทย อายุ 25 ปี อาชีพพนักงานนวด เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ ที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 13 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อทั้งหมดไม่มีอาการ ประเทศอียิปต์ 1 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 27 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคฯ จ.ชลบุรี โดยมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่อียิปต์และตรวจหาเชื้อในวันที่ 11 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ และประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 51 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคฯ ใน กทม. เริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม คือ มีไข้ปวดศีรษะ ไม่ได้กลิ่น และมีประวัติใกล้ชิดผู้ติดเชื้อที่สหรัฐอเมริกา และตรวจหาเชื้อในวันที่ 15 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ
          ผลตรวจหญิงวัย30ไม่ติดไวรัส
          ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีกรมควบคุมโรคได้รับรายงานผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 จำนวน 1 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 31 ปี ประวัติโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน จากโรงพยาบาล (รพ.) แห่งหนึ่ง ย่านราษฎร์บูรณะ เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ด้วยอาการบวมตามแขนขา ต่อมาในวันที่ 13 กรกฎาคม ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น มีอาการปอดอักเสบ แพทย์สงสัยโรคโควิด-19 จึงส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช ว่า จากการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกส่งตรวจที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ผลพบเชื้อ และเก็บตัวอย่างจากเสมหะตรวจ ผลไม่พบเชื้อ และทางกรมควบคุมโรค ได้ทำการเก็บเสมหะเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อส่งตรวจยืนยัน ในวันที่ 14 และวันที่ 15 กรกฎาคม เนื่องจากการสอบสวนประวัติจากสามีพบว่าผู้ป่วยไม่มีประวัติของปัจจัยเสี่ยงแต่อย่างใด และผลการตรวจ โดยสถาบันบำราศนราดูรและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่พบเชื้อ ต่อมา รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้มีการตรวจตัวอย่างจากโพรงจมูกซ้ำ ผลไม่พบเชื้อ ดังนั้น สรุปได้ว่าผู้ป่วยรายนี้ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจสถาบันบำราศนราดูรกำลังทำการตรวจโดยใช้เทคโนโลยีการหาลำดับเบสที่พัฒนาขึ้นใหม่ อยู่ระหว่างรอผล
          "หลังจากรับรายงานผู้ป่วยรายนี้ และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจซ้ำ ทีมสอบสวนควบคุมโรคของกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ไปที่ รพ. ดังกล่าว เพื่อเริ่มการสอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัส และตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง รวมทั้งดำเนินการควบคุมโรคร่วมกับ รพ. อีกทั้งลงสอบสวนในโรงงานที่ผู้ป่วยและสามีทำงานอยู่พบว่าไม่มีผู้ใดที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และไม่มีพนักงานใหม่เข้าทำงาน และมีการคัดกรองไข้ก่อนเข้าทำงานทุกวัน ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ป่วยหญิงรายดังกล่าวไม่ได้มีการสัมผัสกับผู้ที่พึ่งออกมาจากสถานกักกันของรัฐ" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
          ชาวระยอง-กทม.1พันคนไร้เชื้อ
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวถึงผลการสอบสวนและควบคุมโรค กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ระยอง และ กทม.ว่า ผลการดำเนินงานวันที่ 14 กรกฎาคม มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยองที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงมารับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการโดยรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน รวมจำนวน 1,336 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้งหมดให้ผลเป็นลบ สำหรับกรณีมีประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยง กรณีเด็กหญิงที่มาในครอบครัวอุปทูต ตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 และเข้าพักในคอนโดย่านสุขุมวิท มารับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการโดยรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน รวมจำนวน 267 คน ได้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้วทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ส่วนวันที่ 15 กรกฎาคม มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยองมารับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการรวม 1,252 คน อยู่ระหว่างรอผลคาดว่าผลจะเป็นลบเช่นเดียวกัน
          สธ.แถลงพร้อมรับมือรอบ2
          ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. พร้อมด้วย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงแสดงความพร้อมทางสาธารณสุขในการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการคาดการณ์กันว่าจะระบาดในรอบที่ 2 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. นั่งฟังและสังเกตการแถลงอยู่ด้านหลังของห้องแถลง
          นพ.สุขุมแถลงว่า ในวันนี้คณะผู้บริหาร สธ.จากทุกกรม มาร่วมกันแถลงข่าวเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 เริ่มต้นจากที่ไม่มีความรู้ แต่ด้วยความร่วมมือของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน ทำให้ประเทศจากที่เคยเป็นอันดับ 2 ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดเดือนมกราคม ขณะนี้ผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) ไม่มีผู้ป่วยอาการหนัก เพราะแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยยาตั้งแต่ต้นและดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ประชาชนให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจล แอลกอฮอล์ และความพร้อมทางการแพทย์ขณะนี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1,000 รายต่อวัน ดังนั้น ทิศทางในการเกิดการระบาดระลอก 2 มั่นใจว่าสามารถควบคุมได้
          มั่นใจพบเชื้อควบคุมได้เร็ว
          นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ในประเทศไทยไม่มีรายงานผู้ป่วย แต่อาจมีเชื้ออยู่ในประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ การที่ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ทำให้ไม่พบผู้ป่วย โดยโอกาสของการแพร่เชื้อ คือ หากไม่สวมหน้าอนามัยทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันจะมีโอกาสแพร่เชื้อร้อยละ 70 แต่หากสวมหน้ากากอนามัยทั้งคู่จะมีโอกาสแพร่เชื้อร้อยละ 1.5 ที่ผ่านมาพูดกันมาตลอดว่าอาจจะมีคนติดเชื้อและจะอยู่กับมันได้ถ้าร่วมมือกัน การสวมหน้ากากทุกคนโอกาสการแพร่เชื้อจึงไม่มี ส่วนการคาดการณ์ต่อไปอาจจะพบผู้ติดเชื้อ แต่จะสามารถตรวจจับและควบคุมได้เร็ว เช่น กรณีของ จ.ระยอง ที่ตรวจพบและดำเนินการในเชิงรุก
          "ต่อให้มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นอีกจะต้องเลือกจัดการเป็นจุด ปิดกิจการ/กิจกรรม จ.ระยองเป็นตัวอย่างที่ดีเนื่องจากการระบาดเกิดขึ้นเป็นจุด ไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการปิดทั้งจังหวัด อย่างไรก็ตามความสามารถในการตรวจจับขณะนี้เรามีทีมสอบสวนโรคมากกว่า 2,000 ทีม ครอบคลุมทั่วประเทศ มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะไม่เกิดการติดเชื้อในประเทศ แต่ยันว่าถ้าจะเกิดเราเคยทำได้มาแล้ว ผมยืนยัน และเราจะทำได้ดีเพียงแต่ต้องร่วมมือกันทั้งหมด" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
          ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากกรณีของ จ.ระยอง ทำให้เกิดภาวะตื่นตระหนก และอาจเกิดความเครียด เบื่อหน่าย ท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้น และในบางรายอาจจะมีความโกรธ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายว่าจะมีการระบาดระลอก 2 หรือไม่ แต่ในปัจจุบันยังไม่เกิดขึ้น การต่อสู้กับเชื้ออุบัติใหม่ จะต้องต่อสู้ด้วยความรู้การป้องกันด้วยร่างกายที่เข้มแข็งพร้อมด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง จะต้องตระหนักแต่ไม่ตระหนก มีสติในการดูแลป้องกันตนเอง อย่างไรก็ตาม กรมสุขภาพจิตจะส่งทีมสุขภาพจิตลงไปอยู่ในพื้นที่ด้วย
          สำรองยา6แสนเม็ด-หน้ากาก
          นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สธ.ได้มีการเตรียมความพร้อมในกรณีที่มีการระบาดระลอก 2 ภาพรวมทั้งประเทศมีจำนวนเตียงกว่า 20,000 เตียง ในกรุงเทพมหานครมีจำนวนกว่า 2,400 เตียง โดยความสามารถในการรองรับผู้ป่วยรายใหม่ 1,000 รายต่อวัน คิดจาก 1,000 ราย คูณด้วย 14 วันของระยะการพักรักษา นอกจากนี้ยังมีฮอสปิเทล (hospitel) ที่ได้ทำการปิดไปแล้วเนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศค่อนข้างดี
          นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การป้องกันโรคด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์มีการจัดสรรในระบบของสาธารณสุขเพื่อกระจายไปยังทุกโรงพยาบาลและหน่วยบริการทุกสังกัด กำลังการผลิตภายในประเทศอยู่ 3 ล้านชิ้นต่อวัน หน้ากาก N95 มีสำรองใช้ประมาณ 1.7 ล้านชิ้น ใช้สำหรับผู้ป่วยกว่า 1 หมื่นราย และชุดป้องกัน PEE มีสำรองกว่า 1 ล้านชุด ยาที่ใช้ทำการรักษา คือ ฟาวิพิราเวียร์ มีสำรองใช้ประมาณกว่า 6 แสนเม็ด สำหรับรักษาผู้ป่วย 9,000 ราย และวัคซีน ทาง อย.สนับสนุนเต็มที่ และขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนของทาง รพ.จุฬาลงกรณ์ ที่กำลังพัฒนาเพื่อไปในกระบวนการทดลองในมนุษย์ โดย อย.จะดูทั้งตัววัคซีนและโรงงานผลิตเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมีคุณภาพในการใช้
          นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในวันนี้มีข่าวดีของการวิจัยสารสกัดฟ้าทลายโจรที่ขณะนี้ได้เริ่มในผู้ป่วย 6 ราย ผลอย่างไม่เป็นทางการพบว่าการใช้สารสกัดฟ้าทลายโจรขนาด 3 เท่าของปกติให้ผลว่า อาการแสดงดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดย 3 วันแรก อาการไอลดลง เสมหะและเจ็บคอลดลง และภายใน 5 วัน มีผลดีขึ้นอย่างชัดเจน
          กทม.แจ้งตรวจคัดกรอง
          พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรณีทหารชาวอียิปต์ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 โดยได้เข้าพักที่โรงแรมดี วารี ดีว่า เซ็นทรัลระยอง เมื่อวันที่ 8-11 กรกฎาคม และได้เดินทางไปศูนย์การค้าแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมนั้น กทม.ขอให้ประชาชนที่เดินทางไป จ.ระยอง ในช่วงระหว่างวันและสถานที่ดังกล่าวแจ้งประสานที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร โทร 0-9438-6005-1 หรือศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร โทร 1646 เพื่อขอรับการตรวจคัดกรองหรือเก็บตัวอย่างระบบทางเดินหายใจตรวจหาเชื้อโควิด-19 หรือทำแบบประเมินความเสี่ยงโควิด-19 ที่เว็บไซต์ http://bkkcovid19.bangkok.go.th
          สมช.ยันไม่มีธงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
          ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงแนวโน้มการต่อพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ว่าจะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า แต่ไม่มีธงอะไรทั้งสิ้น ทำตามสถานการณ์และดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ เท่าที่ติดตามตอนนี้รอดูผลการตรวจเชื้อของคน จ.ระยอง ที่มีความสุ่มเสี่ยงและผู้ที่อาศัยในคอนโดเดียวกับลูกสาวทูตซูดาน โดยทั้ง 2 กรณีก็ยอมรับว่าสุ่มเสี่ยง และ ศบค.ก็บกพร่อง เจ้าหน้าที่มีความหละหลวม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันต่อไป จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ที่ทำมาแต่ต้นในการป้องกันการนำเชื้อจากภายนอกเข้าสู่ประเทศเป็นแนวความคิดหลัก แต่เมื่อมีการผ่อนปรนมากขึ้นก็ย่อมมีความเสี่ยง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นหนึ่งในความเสี่ยง แต่เป็นความเสี่ยงที่ได้ใคร่ครวญแล้วอย่างรอบคอบ และมั่นใจว่าได้กำหนดมาตรการที่เหมาะสมแล้ว
          "ยังมีช่องว่างอยู่ มีความหละหลวม ก็ต้องไปแก้ไขต่อไป แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุให้กระบวนการผ่อนคลายทั้งหมดล้มเหลวโดยสิ้นเชิง โดยเป็นบทเรียนที่ต้องหาทางปฏิบัติให้ดีขึ้นและอาจเป็นบทเรียนที่ดี เพราะสุดท้ายวันหนึ่งก็ต้องเปิดประเทศโดยสมบูรณ์ จึงต้องตระหนักและมีมาตรการเข้มข้นขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใจวิธีคิดและข้อกำหนดที่ออกไป จะได้ไม่เกิดช่องว่างอีก เป็นความผิดพลาดแน่นอน ก็ยอมรับ แต่ไม่ได้ทำให้กระบวนการทั้งหมดล้มเหลวหรือสูญสิ้น ก็ต้องแก้ไขกันต่อไป ทันทีที่เกิดเรื่องเราก็ส่งทีมสาธารณสุขลงไปตรวจ ทั้งที่ จ.ระยอง และคอนโดที่ลูกสาวทูตไปพัก จนบัดนี้ก็ตรวจไปหลายร้อยคนแล้ว รวมทั้งผู้ที่ต้องสงสัยจะถูกแพร่เชื้อ ก็ยังไม่พบตัวเลขใดๆ ทั้งสิ้น แต่ไม่ได้ว่าไม่ผิดพลาด เพราะอย่างไรก็ผิดพลาดอยู่ดี แต่อาจจะโชคดีถ้าตัวเลขน้อยหรือเป็นศูนย์ โดยต้องยอมรับความผิดพลาดและแก้ไขกันต่อไป" เลขาฯสมช.กล่าว
          ผบ.ทอ.ยันต้องเปิดน่านฟ้า
          ที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พล.อ.อ. มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีการเปิดน่านฟ้าให้กองทัพอากาศต่างประเทศเข้ามาแวะพักหลังเกิดกรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ว่าการเปิดน่านฟ้าถือเป็นเรื่องปกติให้กับอากาศยานต่างประเทศที่ต้องการใช้ เพราะเป็นเรื่องกิจการสากลที่ 180 ประเทศทั่วโลกยังต้องมีการสัญจรเดินทางและปฏิสัมพันธ์กันอยู่ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การควบคุมที่รัดกุม เช่นเดียวกับของไทย หากมีอากาศยานทหารไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศก็ต้องขอให้ประเทศนั้นๆ ช่วยเปิดน่านฟ้า เพื่อทำการพักเครื่องที่เป็นไปตามกติกาสากลในเรื่องการสัญจรของอากาศยานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง ซึ่งในการเปิดน่านฟ้าของกองทัพอากาศเป็นไปตามกฎกติกาที่กำหนดไว้ คงบอกไม่ได้ว่ามีอากาศยานขอเข้าประเทศจำนวนมากน้อยแค่ไหน แต่ที่ผ่านมามีการร้องขอเรื่องการขอผ่านน่านฟ้าเข้ามาตลอดเวลา โดยกลไกที่จะมารับช่วงต่อจากกองทัพอากาศต้องดำเนินการให้รัดกุม เพราะเราอยู่ในโลกที่ทุกคนต้องรักษากติกาของสังคม ทั้งนี้ ยอมรับว่าก่อนเกิดกรณีทหารอียิปต์ก็มีอากาศยานของทหารชาติอื่นมาแวะขอเติมน้ำมัน เพียงแต่ไม่ทำให้เกิดปัญหา เพราะทุกคนรู้กรอบปฏิบัติและทราบว่าประเทศเรากำลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือจนทำให้เรารู้ว่าจะต่อสู้กับโควิด-19 อย่างไรก็ตาม อาจจะมีรอยรั่วหรือช่องโหว่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา
          หญิงหน่อยนำทีมลงพื้นที่ระยอง
          ที่ จ.ระยอง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ นายสุรินทร์ เปาอินทร์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง นางสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ คณะก้าวหน้า และเครือข่ายพรรคเพื่อไทย เดินทางมาพบปะและให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้า ที่ตลาดสดสตาร์ ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าและพี่น้องชาวระยองทุกคน พอหลังจากที่มีข่าวขึ้นมายอดขายก็หายไปกว่า 50% แผงขายอาหารสด ผักผลไม้และเขียงหมู โรงแรมปิดโรงเรียนปิด ส่งผลกระทบกับร้านขายอาหารและของที่เกี่ยวพันกับโรงเรียนและโรงแรมปิด พอเกิดเหตุการณ์ก็ทำให้หนี้เก่าก็ยังใช้ให้ไม่หมด ของที่สั่งไว้ล่วงหน้าก็ไม่มีเงินจ่าย แม่ค้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พอมารับฟังปัญหาทำให้รู้ว่าเป็นปัญหาหนัก และมาทราบปัญหาของนายกสมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ระยอง ยอดจองที่พักรีสอร์ตชายหาดหายไปประมาณ 80% เรื่องนี้ที่จะช่วยได้ก็คือ 1.จะนำปัญหานี้ไปพูดกันในสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ นำเสนอมาตรการแก้ไขอย่างแรกคืออยากให้รัฐบาลมองข้อเท็จจริง 2.มาตรการรัฐบาลสับสนหลังนายกรัฐมนตรี หน่วยงานสาธารณสุขลงพื้นที่ระยอง บอกว่าระยองปลอดภัย ไม่มีปัญหา แต่ในขณะเดียวกันหลายจังหวัดประกาศห้ามคนมาเที่ยวระยอง ถ้ากลับไปต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งมันขัดแย้งกันเอง รัฐเองต้องทำให้เคลียร์ ต้องสร้างความมั่นใจให้ได้ ต้องประกาศรับรองว่าระยองปลอดภัยแล้ว 3.ต้องรีบสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทยก่อน ให้ไทยเที่ยวไทยก่อน
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น หรือห้างแหลมทอง ประชาชนชาวระยองเดินทางมาเข้าคิดเพื่อตรวจหาเชื้อโควิดตั้งแต่ช่วงเช้า โดยคิวแรกมาตั้งแต่ตีห้า และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง คิดการตรวจเต็มจำนวน 300 คน หลังทหารอียิปต์ติดเชื้อแล้วมาเดินช้อปปิ้ง เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม
          โคราชกักตัวกลุ่มเสี่ยง6ราย
          ที่ จ.อุทัยธานี นพ.สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุทัยธานี กล่าวถึงกรณีมีพี่สาวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งศึกษาอยู่ในโรงเรียนประจำจังหวัด เดินทางไปท่องเที่ยวและพักในโรงแรมเดียวกันกับทหารอียิปต์ ที่ จ.ระยอง ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงทำให้ทางโรงเรียนอุทัยวิทยาคม จำเป็นต้องทำการสั่งปิดโรงเรียนด่วน เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อเป็นระยะเวลา 3 วัน และนำตัวผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้ง 5 รายนั้น ว่า โรงพยาบาลอุทัยธานีได้ทำการนำตัวผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 5 คนนั้น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการปรากฏว่าเป็นลบ ไม่พบเชื้อ โควิด-19 ในร่างกายทั้ง 5 คน แต่อย่างใด
          ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ความคืบหน้ากรณีพบชาว จ.นครราชสีมา มีไทม์ไลน์อยู่ในพื้นที่เสี่ยง กรุงเทพมหานครและ จ.ระยอง ล่าสุดมี 6 ราย แยกเป็น ชาว อ.ปากช่อง 2 ราย และชาว อ.เมือง 4 ราย ถือเป็นตัวอย่างที่ดีและให้ความร่วมมือ เมื่อเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงแล้วรีบมารายงานตัวทันที โดยอาการล่าสุดของบุคคลกลุ่มเสี่ยงทั้ง 6 ราย โดย 3 รายแรก ได้ตรวจคัดกรองไม่มีเชื้อโควิด-19 และอุณหภูมิร่างกายปกติ ได้นำบุคคลกลุ่มเสี่ยงทั้ง 6 รายพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลเพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน
          ลำปาง-พะเยาสแกนเชื้อวุ่น
          ที่ จ.ลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ในการสแกนผู้คนที่มาจาก จ.ระยอง และกรุงเทพมหานครนั้น เชื่อว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม.ทั้ง 13 อำเภอ มีความเข้มแข็งในการดูแล คัดกรองพื้นที่ชุมชน และหมู่บ้าน ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้น ถือว่ามีความสำคัญในการเฝ้าระวัง และป้องกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่ เพื่อให้ จ.ลำปาง มีความปลอดภัย และประชาชนอุ่นใจในการใช้ชีวิต
          ที่ จ.พะเยา นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ สาธารณสุขพะเยา (สสจ.) จ.พะเยา กล่าวว่า ได้สั่งการมอบหมายไปยังหน่วยงานในสังกัดพื้นที่พะเยา 9 อำเภอ ประสานงานกับทุกภาคส่วนในพะเยา กรณีเกี่ยวกับการเฝ้าระวังประชาชนทุกสาขาอาชีพ ที่เดินทางกลับมาจาก จ.ระยอง และเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ให้มีการเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน นับจากวันเดินทางถึงที่พักอาศัยในพื้นที่พะเยา
          พิพิธภัณฑ์เอกชนจี้รบ.เยียวยา
          นายทีปอุทัย แสนกาศ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ศิลปะหริภุญชัย จ.เชียงใหม่ ในฐานะนักโบราณคดีอิสระ กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์เอกชนได้รับผลกระทบมา 6 เดือนแล้วจากวิกฤตโควิด หลังรัฐผ่อนปรนหรือคลายล็อกเฟส 3 ได้เปิดให้เข้าชมฟรี แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น มีผู้เข้าชมเพียงวันละ 10-20 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเช่าพระเครื่อง หรือเซียนพระ นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ก่อนโควิดระบาด มีผู้เข้าชมที่เป็นประชาชนและนักท่องเที่ยวกว่า 200-300 คน/วัน มีรายได้จากผู้บริจาคและสนับสนุนกว่า 100,000 บาท/เดือน ค่าใช้จ่าย 30,000 บาท หลังเปิดให้เข้าชมใหม่ เหลือรายได้เพียง 20,000 บาท/เดือน ลดลง 80% แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิมทำให้ประสบภาวะขาดทุน จำเป็นต้องใช้ทุนสำรองประคองไปก่อนหากไม่ไหวอาจปิดชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์โควิดคลี่คลาย หรือดีขึ้นแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยา หรือสนับสนุนบ้าง
          ผู้ว่าการรัฐมะกันติดโควิด-19
          สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของสหรัฐอเมริกาในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวนมากถึง 70,028 ราย ทำสถิติสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกครั้ง โดยในรัฐเท็กซัสและโอกลาโฮมา ทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อมากที่สุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่มีรายงานด้วยว่า ผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮมาเองก็ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน หน่วยงานสาธาณสุขในรัฐเท็กซัส ระบุว่า ในรอบ 1 วันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติที่ 10,791 ราย เสียชีวิต 110 ราย ส่วนที่โอกลาโฮมา นายเควิน สติตต์ ผู้ว่าการรัฐออกมาประกาศว่าตนติดเชื้อ โควิด-19 แล้วเช่นกัน ในวันเดียวกันกับที่ยอดผู้ติดเชื้อในรัฐทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 1 วันเท่าที่เคยมีมาที่ 1,075 ราย นอกจากรัฐเหล่านี้แล้วอีกหลายๆ รัฐยังคงมีการแพร่ระบาดอย่งหนักอย่างในรัฐฟลอริดา ที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 300,000 ราย
          สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐสูงถึง 3.61 ล้านราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตมีเพิ่มขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีเพิ่มขึ้นอีก 924 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่กว่า 140,000 รายแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 13.7 ล้านราย เสียชีวิต 587,000 ราย รักษาหายแล้ว 8.1 ล้านราย
          จีนอนุมัติทดสอบวัคซีนโควิดตัวใหม่
          บริษัท ซ่างไห่ฝอซุนฟาร์มาซูติคอล บริษัทยาหุ้นส่วนของบริษัท ไบโอเอ็นเทค บริษัทยาจากประเทศเยอรมนี ผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ตัวใหม่ ระบุเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทได้รับอนุมัติจากรัฐบาลจีนให้ทำการทดลองวัคซีนตัวดังกล่าวในมนุษย์ได้แล้ววัคซีนตัวดังกล่าวเป็นวัคซีน 1 ใน 2 ชนิดของบริษัทไบโอเอ็นเทค โดยวัคซีนทั้งสองชนิดเพิ่งได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐให้มีสถานะเร่งด่วนในกระบวนการทบทวนตามระเบียบของสหรัฐอเมริกาไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบริษัท ซ่างไห่ฝอซุนฟาร์มาซูติคอล ระบุว่าจะเริ่มทดสอบวัคซีนที่มีชื่อว่า BNT162b1 ในเฟสแรกให้เร็วที่สุด โดยวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท ไบโอเอ็นโทค ด้วยเทคโนโลยี mRNA จดทะเบียนสำหรับการพัฒนาและการพาณิชย์ในประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันเท่านั้น ทั้งนี้วัคซีนชนิดนี้เป็น 1 ในวัคซีนอย่างน้อย 23 ชนิดทั่วโลกที่อยู่ระหว่างการทดสอบในมนุษย์


pageview  1205146    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved