|
|
|
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 12/05/2563 ] |
|
|
|
|
ชุด PPE ชนิดใช้ซ้ำได้ ความสำเร็จจาก อภ. สู่มือหมอ |
|
|
|
|
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment) หรือที่เรียกกันว่า ชุดป้องกันส่วนบุคคล หรือชุด PPE อุปกรณ์สำคัญสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาชุด PPE ขาดแคลน
และเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงผลการพัฒนาชุด PPE ชนิดใช้ซ้ำได้ หรือ Reuseable Isolation Gown รุ่นเราสู้ เป็นผลสำเร็จ คาดการณ์ว่า กว่าจะจบโควิด-19 อาจจะต้องใช้ชุด PPE ถึง 20 ล้านชุด มูลค่าถึง 1 หมื่นล้านบาท และยังต้องเสียค่ากำจัดชุดที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่จากการที่เราพัฒนานวัตกรรมชุด PPE แบบใช้ซ้ำได้ถึง 20 ครั้ง ตรงนี้จะช่วยประหยัดงบประมาณประเทศได้มาก ไม่ให้เงินไหลออก เงินยังหมุนเวียนภายในประเทศ ซึ่งงบ 1 หมื่นล้านบาทสามารถสร้างโรงงานวัคซีนได้เลย
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ชุด PPE ชนิดใช้ซ้ำนี้ ผ่านการทดสอบการกันน้ำในระดับ 2 สามารถนำมาใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ระดับเสี่ยงน้อยถึงปานกลาง เช่น คัดกรองผู้ป่วย การเก็บตัวอย่างผู้ป่วย ฯลฯ ซึ่งพบว่าอัตราการใช้ชุด PPE ที่ผ่านมา 50% เป็นการดูแลระดับเสี่ยงน้อย-ปานกลาง ส่วน 50% เป็นคนไข้หนักที่ต้องใช้แบบชุดหมี
ทั้งนี้ ชุด PPE ใช้ซ้ำนี้เราพิจารณาความปลอดภัย 3 อย่าง คือ 1.เนื้อผ้าทนแรงดันน้ำได้ระดับ 2 คือ ป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้มากกว่าหรือเท่ากับ 20 เซนติเมตรน้ำ 2.ตะเข็บเย็บสามารถทนแรงดันน้ำระดับ 2 เช่นเดียวกัน และ 3.สามารถใช้ซ้ำได้ ซึ่งจากการทดสอบพบว่าใช้ได้ถึง 20 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกการทดสอบการซักพบว่า ไม่ผ่าน เนื่องจากมีการใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มและไม่ผ่านการอบร้อน ซึ่งในการซักนั้นจะต้องใส่โซเดียมไฮโปคลอไรด์ 0.1% ในการฆ่าเชื้อด้วย แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ
นพ.โสภณกล่าวว่า สำหรับการผลิตชุด PPE ใช้ซ้ำนี้ เนื้อผ้าเป็นโพลีเอสเตอร์ 100% เคลือบสารกันน้ำเทฟลอน ซึ่งเส้นใยของผ้าเป็นเส้นใยรีไซเคิลจากขวดน้ำชนิดขวด PET 100% โดยพบว่า 1 ชุดใช้ขวดน้ำ PET ขนาด 600 มิลลิลิตร (ซีซี) ประมาณ 14.5 ขวด โดยจำนวนชุด 44,000 ชุดต้องใช้ขวดประมาณ 638,000 ขวด อย่างไรก็ตาม เส้นใยรีไซเคิลนี้ได้นำเข้าจากไต้หวัน แล้วนำมาทอและตัดเย็บในบ้านเรา เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตเส้นใยรีไซเคิลจากขวดน้ำได้ เพราะมีปัญหาเรื่องระบบการคัดแยกขยะ จึงต้องนำเข้าซึ่งเส้นใยจากไต้หวันได้รับการรับรองมาตรฐานการรีไซเคิลระดับโลก ทั้งนี้หากกรมอนามัยหรือภาครัฐดำเนินการเรื่องแยกขยะได้ จะช่วยให้ครบวงจรจริงๆ และสามารถพัฒนาต่อในประเทศเองได้ทั้งหมด
นพ.โสภณกล่าวว่า ขณะนี้ อภ.ได้จัดซื้อจัดจ้างจาก 13 บริษัทที่ผลิตแล้ว รวม 44,000 ตัว ตามสต๊อกผ้าที่มีอยู่ตัวหนึ่ง 500 บาท ใช้ได้ 20 ครั้ง ตกครั้งละ 25 บาท ก็ถือว่าช่วยประหยัดเงิน ลดขยะที่เกิดขึ้นได้เยอะ และช่วยการจ้างงานภายในประเทศ คาดว่าจะส่งได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ทั้งหมด
สำหรับศักยภาพในการทอผ้า เราสามารถทอได้ 1 ล้านหลาต่อเดือน ตัดเย็บเป็นชุดได้ 3 แสนชุดต่อเดือน และเราจะพัฒนาต่อให้เป็นชุดป้องกันระดับ 4 ที่ใช้ในการดูแลผู้ป่วยหนักได้ด้วย ซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ในการพัฒนาการตรวจให้ได้ตามมาตรฐาน
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.ได้ตรวจมาตรฐาน 2 เรื่อง คือ 1.สถานที่ผลิต ซึ่งต้องมีคุณภาพทั้งสถานที่ กระบวนการผลิต เครื่องมือ ซึ่งผ่านทั้ง 13 บริษัท และ 2.ชุดที่ผลิตออกมามีมาตรฐานตามที่กำหนด ซึ่งขณะนี้ก็ผ่านมาตรฐานทั้งหมด
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวว่า การส่งมอบชุดให้แก่ อภ.นั้นจะทยอยจัดส่งทุกสัปดาห์ คือ วันที่ 7 พ.ค. วันที่ 15 พ.ค. วันที่ 22 พ.ค. และวันที่ 31 พ.ค. ก็จะครบทั้งหมด 44,000 ชุด
นายพงษ์ศักดิ์ อัสกุล กรรมการบริหารสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า จากความสำเร็จในการผลิตชุด PPE ที่เกิดขึ้น ทำให้มีความตั้งใจพัฒนาการผลิตให้เป็นในระดับอาเซียน และขณะเดียวกันทางประเทศสหรัฐอเมริกา และออสเตรีย ก็ได้มีเจรจาขอสั่งซื้อ โดยสหรัฐขอซื้อ 500 ชุด จึงอยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนเครื่องทดสอบแรงดันน้ำ เพื่อดูประสิทธิภาพอยู่ในระดับไหน |
| | |
|
| |