HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 24/04/2563 ]
ลดด่าน-เพิ่มรถตระเวน วิ่งตรวจ-จับขัดเคอร์ฟิว

 ไล่เช็กมั่วสุมในหมู่บ้าน ยิงผญบ.ดับคาจุดสกัด รวบทันทีผช.กระบี่ปืนดุ
          ผช.ผู้ใหญ่บ้านยิง ผญบ.ดับคาด่านอ้างบันดาลโทสะ ปิดด่านสะเดา 7 วันทำความสะอาด
          ลดด่านเคอร์ฟิว-เน้นเพิ่มสายตรวจ
          เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า รายงานจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง พบว่า มีการฝ่าฝืนเคอร์ฟิวออกนอกเคหสถานระหว่าง 22.00-04.00 น. เพิ่มขึ้น 63 ราย รวมเป็น 617 ราย ชุมนุมมั่วสุมเพิ่มขึ้น 51 ราย รวม 106 ราย ทั้งนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า จะมีการลดจำนวนด่านลงเนื่องจากด่านอยู่ตามถนนที่สัญจรไปมา แต่คนกระทำผิดไม่ได้อยู่บนถนน การเล่นพนัน ดื่มสุรา ยาเสพติด จะอยู่ที่บ้าน ชุมชน แต่จะเพิ่มสายตรวจเข้าไปที่ชุมชน และคนที่ดีที่สุดคือเพื่อนบ้านที่เป็นห่วงเป็นใย โทรศัพท์แจ้ง 191 หรือ 1599 ซึ่งขณะนี้มีคนโทรมาแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยและร่วมมือ
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมผลการปฏิบัติช่วงเคอร์ฟิวตั้งแต่วันที่ 3-23 เมษายน พบว่า มีผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุผลสมควร 16,179 ราย ตักเตือน 2,983 ราย ดำเนินคดี 13,196 ราย ส่วนการรวมกลุ่ม ชุมนุม หรือมั่วสุม 1,835 ราย ตักเตือน 105 ราย ดำเนินคดี 1,730 ราย ทั้งนี้ เมื่อมีประกาศเคอร์ฟิวออกมาก็เป็นภาระของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเป้าหมายของการประกาศเพื่อลดโรค ป้องกันโรคและควบคุมโรค ถ้าเข้าใจก็ขอให้ช่วยกันเพื่อไม่ให้มีคดีจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากท่านใดพบเบาะแสหรือประเด็นปัญหาที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงของการแพร่กระจายโรคสามารถโทรแจ้งได้ที่ 1599 หรือ 191 โดยขอให้รายงานข้อเท็จจริงอย่ากลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ ช่วยกันเพื่อให้คดีน้อยลง และให้พวกเราปลอดโรคและปลอดภัย เมื่อถามถึงมาตรการหลังการป้องกันการมั่วสุม หลังจะมีการผ่อนปรนลดด่านเคอร์ฟิว นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปลี่ยน วิธีการจากการตั้งด่านตรวจเป็นการทำงานเชิงรุก จัดสายตรวจออกไปในพื้นที่ตามชุมชนต่างๆ รอรับการแจ้งเบาะแสจากพี่น้องประชาชน หากพบการจัดกลุ่มมั่วสุม อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีเจตนาจับทันที แต่ต้องการตักเตือนให้มีการลดละเลิก แต่หากผิดจริง โดยเฉพาะการเล่นพนันถือว่ายอมไม่ได้ เพราะมีหลายกรณีมากที่ผู้ติดเชื้อมีสาเหตุมาจากการรวมกลุ่มมั่วสุมเล่นพนันกันจึงต้องมีการดำเนินคดีเพื่อเป็นตัวอย่าง
          เข้มรับพระ104รูปจากอินเดีย
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กรณีภารกิจการนำคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ ข้อมูลเมื่อวันที่ 23 เมษายน จากกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ในวันนี้จะมีผู้เดินทางกลับจากประเทศตุรกี จำนวน 55 ราย ในเวลา 14.00 น. เป็นนักท่องเที่ยวและนักเรียนที่ตกค้างอยู่ในประเทศตุรกี ประเทศมาเลเซีย จำนวน 144 ราย ในเวลา 13.25 น. คนไทยและแรงงานไทยตกค้าง และรายงานวันที่ 24 เมษายนนี้ จะมี ผู้เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 31 ราย ในเวลา 15.30 น. เป็นคนไทยตกค้าง ประเทศอินเดีย จำนวน 171 ราย ในเวลา 15.10 น. เป็นพระภิกษุ 104 รูป แม่ชีและผู้ปฏิบัติธรรม
          "ในจำนวนผู้เดินทางที่เป็นพระภิกษุได้ขออนุญาตจากทางมหาเถรสมาคมในการอนุโลมให้พระสงฆ์พักอาศัยในโรงแรมขณะกักกันตัวในสถานที่ที่รัฐบาลจัดไว้ (State quarantine) ระยะเวลา 14 วันได้ เนื่องจากมีเหตุจำเป็น เรียกง่ายๆ คือการจำวัดที่โรงแรม ซึ่งเป็นความละเอียดอ่อนในเชิงของวัฒนธรรมศาสนาเราก็พึงปฏิบัติ ที่ต้องปรับตามสถานการณ์ของโรค" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
          รบ.โต้จัดระเบียบแจกไม่สิ้นคิด
          นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร ออกประกาศจัดระเบียบสำหรับผู้ที่จะมาแจกอาหาร ว่าการที่มีผู้มีจิตศรัทธาและจิตอาสาทำอาหารออกมาแจกจ่ายให้กับประชาชนถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง ซึ่งการจัดระเบียบของกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนที่เข้ามารับสิ่งของอยู่ใกล้ชิดกันเกินไป ทุกคนต้องเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดการแพร่ระบาด
          "ประกาศดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นนโยบายสิ้นคิดอย่างที่มีนักการเมืองกล่าวหาแต่อย่างใด แต่เป็นวิธีการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด มากกว่า เชื่อว่าผู้มีจิตศรัทธาและจิตอาสาทั้งหลายเข้าใจในเรื่องนี้ดีว่าทุกฝ่ายมีความหวังดีต่อพี่น้องประชาชน ไม่อยากเห็นนักการเมืองบางคน ใช้สถานการณ์แบบนี้ออกมาตอบโต้หรือตำหนิในสิ่งที่ภาครัฐดำเนินการอยู่ เชื่อว่าทุกคนทุกฝ่ายได้ช่วยกันแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ไปด้วยกันอยู่แล้วทุกวันนี้" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
          พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวทาง บช.น.ได้ประชุมร่วมกับทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้แจ้งให้ทาง บช.น.ทราบว่าจะกำหนดจุดแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งหมด 71 จุด โดยผู้ใดประสงค์จะบริจาคให้แจ้งได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานที่ บริจาคดังกล่าวแล้วก็จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่รับทราบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกจัดระเบียบ
          สำหรับเหตุชุลมุนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่บริเวณถนนริมคลองหลอดฝั่งแม่พระธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็น 1 ใน 71 จุด ที่ทาง กทม.กำหนดให้แจกสิ่งของ ตั้งแต่ช่วงสายได้มีประชาชนยากไร้กว่า 200 คน พากันเดินทางมาปักหลักรอ แต่เมื่อมีผู้นำรถมาจอดเพื่อเตรียมนำข้าวของมาแจกจ่าย เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร 3 นาย ปฏิเสธและให้ไปที่บริเวณวงเวียนสิบสามห้าง ย่านบางลำพูแทน โดยให้เหตุผลว่าสำนักงานเขตพระนครยกเลิกจุดแจกแล้ว สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่งมีผู้ใจบุญนำอาหารแจกจ่าย ผู้ที่มาปักหลักรอรับของพากันมีความหวังจึงลุกขึ้นต่อแถวรอ แต่เจ้าหน้าที่เทศกิจไม่ให้ไปรับ ทำให้ประชาชนที่รอตั้งแต่เช้าไม่พอใจ ฮือเข้าไปประชาทัณฑ์แต่ เทศกิจขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้
          5ตม.สะเดาติดโควิด-เสี่ยง42
          ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยถึงกรณีตำรวจ ตม.ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านสะเดา จ.สงขลา ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 5 นาย ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งปิดด่านดังกล่าวเป็นเวลา 7 วันเพื่อทำความสะอาดแล้ว โดยให้ไปใช้จุดผ่านแดนที่ด่านปาดังเบซาร์ จ.สงขลา แทน จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รับเชื้อมาจากชาวมาเลเซียที่อยู่ในกระบวนการถูกผลักดันกลับประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ได้เข้าไปคลุกคลีใกล้ชิดทำให้ติดเชื้อ ส่งผลให้เพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดกันอีก 4 นาย ติดเชื้อไปด้วยรวม 5 นาย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในวันเดียวกัน ได้มีคำสั่งให้กักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นสถานกักตัวของจังหวัดจำนวน 42 คน และ ยังมีกลุ่มที่อาจมีความเสี่ยงอีก 27 คน ให้กักตัวในบ้านพักโดยแยกพื้นที่กับคนในครอบครัว
          ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งวันนี้ได้เปิดรับคนไทยเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียเป็นวันแรก ทดแทนจุดผ่านแดนถาวรสะเดาที่ต้องปิดลงชั่วคราว เป็นเวลา 7 วัน โดยมีผู้ลงทะเบียนเดินทางเข้ามาจำนวน 101 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ในการคัดกรองเข้มตั้งแต่การเดินทางเข้ามา การฉีดฆ่าเชื้อสัมภาระ จุดตรวจคัดกรอง จุดพักสำหรับผู้มีไข้สูง ซึ่งมีมาตรการในการคัดกรองเข้มข้นเหมือนทุกวัน โดยพบว่าการเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์จะเปิดรับเฉพาะคนไทยที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ที่มีการลงทะเบียนล่วงหน้าเอาไว้เท่านั้น
          ผู้ช่วยยิงดับผญบ.คาด่าน
          ที่ จ.กระบี่ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง รอง ผบช.ภ.8 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จ.กระบี่ เดินทางมาที่ห้อง ศปก.สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนายศรราม เครือแบน อายุ 38 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้ำจาน หมู่ 3 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงใส่นายวิชาญ หรือแก้ว อุ่นแก้ว อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้ำจาน หมู่ 3 เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในด่านตรวจคัดกรองโควิด-19 หมู่ 3 บ้านน้ำจาน เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา โดยหลังก่อเหตุนายศรรามได้เข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.อ่าวลึก ในคืนเดียวกัน
          จากนั้น พล.ต.ต.นันทเดช พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย พล.ต.ต.อภิชาติได้ฝากเตือนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกหน่วยว่า เชื่อว่าทุกคนตั้งใจทำงานในหน้าที่อย่างดี แต่อยากให้ทุกคนรู้จักยับยั้งชั่งใจ และมีสติ เบื้องต้นกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดูแลในเรื่องของการจัดกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ให้เหมาะสม เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจทุกคนย่อมมีอาการเหนื่อยล้า เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง จึงอาจจะเกิดความเครียด จนตัดสินใจผิดพลาดก่อเหตุขึ้นได้ กำชับให้มีการสับเปลี่ยนเวรยาม อย่าให้ภาระหนักอยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง ต้องให้ทุกคนได้พักผ่อนเพียงพอด้วย
          มือยิงอ้างบันดาลโทสะ
          ด้านนายจำนวน แก้วเกลี้ยง อายุ 54 ปี อาสาสมัครรักษาความสงบหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุทั้งสองคนมาเข้าเวรประจำอยู่ที่ด่านตรวจตามปกติทุกคืน โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำด่าน 6-7 คน กระทั่งช่วงเกิดเหตุ ทั้งคู่ก็มีปากเสียงกัน ก่อนที่นายศรรามจะชักปืนพกที่พกติดตัวออกมายิงใส่กลางหน้าอกผู้ตาย 1 นัด จนผู้ตายล้มลงจากเก้าอี้ เจ้าหน้าที่ในด่านที่เห็นเหตุการณ์ จึงเข้ามาพยายามมัดตัวนายศรรามและปัดมือที่ถือปืน แต่เจ้าตัวยังยิงปืนใส่อีกหลายนัด กระสุนจึงไปโดนช่วงโคน ขาหนีบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยกันนำร่างนายวิชาญขึ้นรถนำไปส่ง รพ.อ่าวลึก ส่วนสาเหตุที่แท้จริงไม่ทราบเนื่องจากทั้งสองคนเป็นคนรู้จักกันไม่มีเรื่องโกรธแค้นกันมาก่อน และเป็นที่รักของชาวบ้านในพื้นที่ ขยันทำงานทั้งสองคน
          นางจุลาพร อุ่นแก้ว ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน ที่ถูกยิงเสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทสนมกันดี ทำงานในชุมชนร่วมกันมาโดยตลอด ไม่มีเรื่องโกรธแค้นกันมาก่อน จึงไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากเรื่องอะไร แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุกระทำเกินกว่าเหตุควรจะพูดคุยกันดีๆ ไม่ถึงขนาดต้องยิงกัน
          ล่าสุดทางพนักงานสอบสวนนำตัวนายศรรามไปสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าก่อเหตุไปเพราะเกิดบันดาลโทสะ ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจจะพิจารณาอีกครั้งว่าผู้ต้องหาประสงค์จะทำแผนหรือไม่ พร้อมทั้งเตรียมนำตัวส่งฝากขังศาล จ.กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ญาติๆ ผู้เสียชีวิตจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์จัดงานศพที่บ้านพัก ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้าของครอบครัวและญาติๆ
          กักตัว58ชาวบ้านบ้านพานแพ
          ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำตัวประชาชนจากบ้านพานแพ หมู่ 7 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จำนวน 58 คน ไปกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศรีธรรมราช ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นสถานกักกันตัวของจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการว่าติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หรือไม่ เนื่องจากบุคคลดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เพราะในพื้นที่หมู่บ้านตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย แต่เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้ผู้ที่ถูกกักตัวมีความเครียดสะสม ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีมส่งเสริมสุขภาพจิต ไปพบปะพูดคุยกับผู้ที่ถูกกักตัวให้ได้ระบายความรู้สึกในใจ เพื่อประเมินความเสี่ยง ซึ่งพบว่ามีผู้มีความเครียด 19 คน โดยจำนวน 6 คน มีความเครียดสะสมต้องเฝ้าระวังและต้องได้รับการดูแล เนื่องจากผู้ถูกกักตัวส่วนใหญ่เป็นห่วงบ้านเรือน ทรัพย์สิน ไม่ได้ออกไปพบปะญาติพี่น้อง
          ส่วนสถานการณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ป่วยสะสม 12 ราย รักษาหายกลับบ้าน 5 ราย รักษาในโรงพยาบาล 6 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ตรวจไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและมีมติเห็นชอบให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรคโควิด-19 ทุกประเภท ที่ได้มีคำสั่งไปก่อนหน้านี้ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน
          จุฬาฯออกแนวปฏิบัติรอมฎอน
          ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4/โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 เปิดผยว่า สำหรับเดือนรอมฎอน ถือเป็นเดือนที่สำคัญยิ่งของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก และในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เช่นเดียวกัน ทุกๆ ปีที่ผ่านมาทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ให้ความสำคัญในการส่งเสริม และสนับสนุนการประกอบศาสนกิจ การอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องมุสลิมให้สามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ เนื่องในเดือนรอมฎอนปีนี้ ปี ฮศ.1441 ที่จะเวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ทางสำนักจุฬาราชมนตรีก็ได้มีการออกประกาศในการดูดวงจันทร์ ซึ่งหมายความว่าไม่เกิน 2 วันนี้ ก็จะเข้าสู่เดือนรอมฎอน
          "ในห้วงเดือนรอมฎอน พี่น้องมุสลิมก็จะต้องประกอบศาสนกิจอย่างเคร่งครัด แต่เนื่องจากในปีนี้มีสถานการณ์วิกฤตอย่างรุนแรง สำนักจุฬาราชมนตรี รวมทั้งทางจังหวัดก็ได้ออกประกาศแนวทางปฏิบัติของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ในเรื่องของการใช้ชีวิต รวมทั้งประกอบศาสนกิจ ก็อยากจะฝากไปยังทุกท่านด้วยความเคารพว่าขอให้ทุกท่านยึดถือและปฏิบัติตามแนวทางที่ได้กำหนดเอาไว้ และขอให้ผลบุญในเดือนรอมฎอน ช่วยกันส่งผลให้เราสามารถก้าวข้ามวิกฤตโควิดในครั้งนี้ไปด้วยกัน ในส่วนบทบาทของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ยังคงให้ความสำคัญในการส่งเสริม และสนับสนุน รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับ พี่น้องประชาชน สามารถประกอบศาสนกิจได้ตาม รูปแบบที่สำนักจุฬาราชมนตรีได้แนะนำเอาไว้แล้ว" พล.ต.ปราโมทย์กล่าว
          ประกัน15คนงาน-บ.ขอสู้คดี
          ที่ จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุขโข ผกก.สภ.บางแก้ว ชี้แจงกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Ploichanok Sirowet (พลอยชนก สิโรเวฐน์) ได้โพสต์คลิปเพื่อขอร้องความเป็นธรรมจากเหตุพนักงานถูกจับติดคุก เนื่องจากทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยระบุว่า พนักงานบริษัทถูกจับติดคุกตอนห้าทุ่ม สภ.บางแก้ว ทั้งนี้ ผู้โพสต์ยังระบุเพิ่มเติมว่าทางบริษัทมีเอกสารจากต้นสังกัดไว้ให้กับพนักงาน ว่าได้รับการอนุญาตขอทำงานล่วงเวลา และเดินทางกลับที่พัก ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัทเคยได้นำเอกสารฉบับดังกล่าวให้ตำรวจตรวจสอบว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ และตำรวจก็ยืนยันว่าใช้ได้ แต่พอถึงเวลาพนักงานของบริษัทจะขับรถผ่านด่านกลับโดนจับ แจ้งว่าเอกสารไม่สมบูรณ์ หลังจากโพสต์คลิปเรื่องราวลงไปในโลกออนไลน์ มีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก จึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนางสาวพลอยชนก สิโรเวฐน์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท และเป็น ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊ก โดยนางสาวพลอยชนกยังยืนยันว่าตนเองได้รับการชี้แจงกับทางปลัดอำเภอแห่งหนึ่ง โดยปลัดอำเภอยืนยันว่าเอกสารที่จะใช้ในการรับรองในส่วนของรูปแบบของบริษัท ปลัดอำเภอไม่มีอำนาจในการเซ็นรับรอง แต่บริษัทสามารถดำเนินการทำเอกสารได้โดยตรง ซึ่งหลังจากนี้ทางด้านของบริษัท โดยเบื้องต้นได้มีการประกันตัวคนงานทั้ง 15 คน ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขอใช้สิทธิในการต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นกันว่า ตามที่มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจอยู่นั้น ได้มีการขับรถผ่านและมีคนงานเดินทางผ่านด่าน และยืนยันว่าตำรวจได้ทำตามหน้าที่อย่างถูกต้อง โดย พ.ต.อ.ประสาทพร ยืนยันว่าตำรวจได้ทำตามหน้าที่อย่างถูกต้อง
          "ที่สำคัญเอกสารที่ทางผู้รับเหมาได้นำมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน มีเพียงหนังสือที่ทางบริษัทแม่ ทำหนังสือรับรองว่ามีการทำงานรับเหมาในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ สน.ประเวศ สน.บางนา แต่ไม่มีการอ้างอิงถึง สภ.บางแก้ว ซึ่งโดยหลักจะต้องมีเจ้าพนักงานลงนามในเอกสารฉบับดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะให้ในส่วนของพนักงานสอบสวนตรวจสอบเรื่องที่เจ้าของบริษัท ที่มีการโพสต์ว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่นั้น ซึ่งโดยส่วนตัวไม่อยากที่จะให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต และหากเจ้าของบริษัทเข้าใจในหลักเกณฑ์และข้อเท็จจริงแล้ว จะให้พนักงานสอบสวนเชิญเจ้าของบริษัทเข้ามาพบ เพื่อพูดคุยชี้แจงให้เข้าใจอีกครั้ง ล่าสุดผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ได้ประกันตัวไปชั้นพนักงานสอบสวนไปด้วยเงินสดคนละ 40,000 บาท และเจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือสั่งฟ้องศาลจังหวัดสมุทรปราการ" ผกก.สภ.บางแก้วกล่าว
          ทำโอทีไม่เข้าข่ายเว้นเคอร์ฟิว
          พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบกลุ่มแรงงานต่างด้าวรับจ้างเทปูนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยอ้างว่าเพิ่งเลิกงานหลังเวลา 22.00 น.โดยมีเอกสารยืนยันจากบริษัทต้นสังกัด แต่ถูกตำรวจดำเนินคดี และฉีกเอกสารของบริษัทดังกล่าวทิ้งนั้น จากการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา 23.50 น. วันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ตั้งด่านตรวจเคอร์ฟิว พบรถกระบะขนคนงาน 14 คน รวมคนขับเป็น 15 คน กลับจากการทำงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ย่านบางนา โดยมีเอกสารจากบริษัทต้นสังกัดว่ามีการทำงานจริง แต่พบว่าเป็นการทำงานล่วงเวลา หรือโอที ไม่ใช่เป็นการทำงานเป็นกะในเวลากลางคืน จึงถือว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์การยกเว้น จึงดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
          ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนกรณีฉีกเอกสารรับรองของคนงานกลุ่มดังกล่าว สั่งการให้ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้นได้รับรายงานว่าไม่ได้ฉีกขณะตรวจสอบจับกุม แต่ฉีกหลังจากตรวจสอบแล้ว ซึ่งตำรวจประจำด่านเห็นว่าไม่ได้เป็นเอกสารสำคัญจึงฉีกทิ้งไป ทั้งนี้ ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง หรือทำงานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว แต่อยู่นอกหลักเกณฑ์ที่ยกเว้น ยังมีทางออกให้คือต้องขอกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, นายอำเภอ, ผู้อำนวยการสำนักงานเขต หรือหัวหน้าสถานีตำรวจ ออกเอกสารอนุญาตให้เพื่อเป็นหลักฐานยื่นให้เจ้าหน้าที่ด่าน
          พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ประเด็นที่มีการฉีกเอกสารตามที่เป็นข่าวนั้น หลังจากที่ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบภายใน 7 วัน คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก
          'อนุทิน'ลงภูเก็ตชื่นชมอสม.
          วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเรวัติ อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้เกี่ยวข้องจากกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ร่วมให้การต้อนรับและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ในช่วงเช้าคณะได้ลงตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ตรวจเยี่ยมผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ของถลาง โรงพยาบาล สนามแห่งที่ 1 จังหวัดภูเก็ต จากนั้นเดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อมอบนโยบาย
          นายอนุทินกล่าวว่า ทั่วโลกกำลังชื่นชมประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่ชื่นชมแค่ว่ามีการควบคุมสถานการณ์เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ได้ดีนอกเหนือจากความพยายามความเก่งของแพทย์ พยาบาล และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ประเทศไทยควบคุมการระบาดได้คือ อสม.ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่สุด
          พิจิตรยกเลิกคำสั่งเปิดร้านอาหาร
          ที่ จ.พิจิตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดพิจิตรได้ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาปลดล็อกผ่อนปรนเนื่องจากพื้นที่จังหวัดพิจิตรเป็นพื้นที่สีขาว ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นจังหวัดที่มีมาตรการคัดกรองเข้มข้น จึงได้มีคำสั่งให้ร้านอาหารสามารถเปิดบริการได้และนั่งรับประทานได้ ที่ร้านโดยต้องมีระยะห่าง โดยลงคำสั่งพิจิตร ที่ (ฉ) เลขที่ 9/2563 เรื่องมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายในท้องถิ่นจังหวัด ลงวันที่ 22 เมษายน หลังจากที่มีคำสั่งประกาศออกมาทำให้พ่อค้าแม่ค้าพิจิตรต่างดีใจที่จะได้ขายของได้ตามปกติ แต่แล้วก็ฝันสลายเพียงไม่ข้ามคืน เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร มีคำสั่งที่ 10 ออกมาใหม่ ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันทั้งประเทศในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19


pageview  1205146    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved