เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนักวิจัยชาวญี่ปุ่นเปิดเผย "นาฬิกาประชากร"ที่แสดงให้เห็นว่า ในทางทฤษฎีแล้ว ประชากรของญี่ปุ่นอาจจะสูญพันธุ์ในอีก 1,000 ปี เนื่องจากอัตราการเกิดที่ลดลง
          นักวิชาการในเมืองเซนได ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น บอกว่า ประชากรเด็กของญี่ปุ่นที่มีอายุถึง 14 ปี ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 16.6 ล้านคน กำลังลดลงด้วยอัตรา 1 คน ในทุกๆ 100 วินาที และจากการคำนวณแบบบัญญัติไตรยางศ์ชี้ให้เห็นว่า ญี่ปุ่นจะไม่มีประชากรเด็กเหลืออยู่เลยภายใน 1 สหัสวรรษ
          ฮิโรชิ โยชิดะ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยโทโฮคุ กล่าวติดตลกว่า  "หากอัตราการเกิดยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเราจะยังสามารถฉลองวันเด็กแห่งชาติได้ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ.3011 จากการที่มีเด็กเหลืออยู่ 1 คน แต่หลังจากนั้นอีก 100 วินาที จะไม่มีเด็กเหลืออยู่อีกแล้ว"
          "แนวโน้มโดยรวมเป็นการมุ่งหน้าไปสู่การสูญพันธุ์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 1975 เมื่ออัตราการเกิดของญี่ปุ่นลดลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า2" ศาสตราจารย์โยชิดะกล่าว และว่า เขาสร้างนาฬิกาประชากรขึ้นมา เพื่อ"กระตุ้น" ให้เกิดการหารือกันในประเด็นนี้ ผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งที่เปิดเผยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ประชากรของญี่ปุ่นคาดว่าจะลดลงเหลือ 1 ใน 3 ของจำนวน 127.7 ล้านคนในปัจจุบัน ในช่วงศตวรรษหน้า
          การคาดการณ์ของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่าอัตราการเกิดจะอยู่ที่เด็ก 1.35 คนต่อผู้หญิง 1 คน ภายใน 50 ปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่จะมาทดแทนการตาย ขณะที่อายุขัยของชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอายุขัยเฉลี่ยของประชากรสูงที่สุดในโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 86.39 ปี ในปี 2010 เป็น 90.93 ปี ในปี 2060 สำหรับผู้หญิง และจาก 76.64 ปี เป็น 84.19 ปี สำหรับผู้ชาย
          ปัจจุบันนี้มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรญี่ปุ่นมีอายุ 65 ปี หรือมากกว่า นับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราส่วนผู้สูงอายุต่อจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก
          ญี่ปุ่นมีผู้อพยพน้อยมากและข้อเสนอแนะใดๆ ให้เปิดรับแรงงานวัยฉกรรจ์เพื่อช่วยถมช่องว่างระหว่างประชากรมักจะจุดชนวนให้เกิดเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากสาธารณะ
          ทั้งนี้ ประชากรสูงอายุจำนวนมากนับเป็นเรื่องน่าปวดหัวของบรรดาผู้กำหนดนโยบายที่ต้องเผชิญหน้ากับความพยายามให้แน่ใจว่าแรงงานที่ค่อยๆ ลดจำนวนลงจะสามารถจ่ายเงินสนับสนุนกองทุนบำนาญที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆได้อย่างเพียงพอ
          โครงสร้างอายุประชากรตามแบบแผนที่กำลังกลายเป็นพีระมิดหัวกลับของญี่ปุ่นนี้ เห็นได้จากข่าวเศรษฐกิจอีกชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่วันเดียวกันครับ โดยยูนิชาร์ม บริษัทผู้ผลิตผ้าอ้อมสำเร็จรูปเปิดเผยว่า ยอดขายผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นแซงหน้ายอดขายผ้าอ้อมเด็กในปีการเงินนี้ซึ่งนับถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยูนิชาร์มผลิตผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่เมื่อปี1987 เป็นต้นมาครับ