|
|
|
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 03/09/2562 ] |
|
|
|
|
1ต.ค.ผู้ป่วยบัตรทองรับยาร้านยา |
|
|
|
|
กรุงเทพธุรกิจ บอร์ด สปสช. เห็นชอบ 1 ต.ค. 62 ผู้ป่วยบัตรทองเลือกรับยาที่ร้านยา ลดความแออัดรพ. ใช้งบฯ นำร่อง ปี 63 ราว 150 ล้านบาทใน 50 รพ. 500 ร้าน กำหนดค่าจัดบริการจ่ายให้ร้านยา 70 บาทต่อครั้ง รพ.รับ 33,000 บาทต่อ 1 ร้านต่อปี เน้น 4 โรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด จิตเวช
วานนี้ (2 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบตามข้อเสนอดำเนินงานเพื่อรองรับ นโยบาย ให้ผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองรับยาที่ร้านยาเพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล ตามที่คณะอนุกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ นำเสนอ เพื่อพัฒนาระบบบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หากมีความพร้อมทุกด้านให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 การดำเนินงานนโยบายนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยไม่ต้องรอยานานและได้รับคำแนะนำการใช้ยาอย่างมีคุณภาพ โดยเริ่มนำร่องในปีงบประมาณ 2563 ในโรงพยาบาลไม่เกิน 50 แห่ง ร้านยาไม่เกิน 500 แห่ง และจะทยอยเพิ่มเติมในปีถัดไป เบื้องต้นกำหนดขอบเขตการจ่ายยาให้ผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด จิตเวช หรือโรคเรื้อรังที่ไม่มี ความซับซ้อนในการดูแล โดยให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ป่วยที่จะรับยาที่ร้านยา และยาที่ผู้ป่วยได้รับจากร้านยาต้องเป็นยาเดียวกับที่ได้รับจาก รพ. ซึ่งผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม คาดว่าจะมีประมาณ 30% ของผู้รับบริการ
ส่วนการดำเนินงานระหว่างเครือข่าย รพ. และร้านยา กำหนด 3 ทางเลือก โดย รพ. ยังเป็นผู้รับผิดชอบยาและได้รับการชดเชยค่ายาเหมือนเดิม คือ 1 รพ. จัดยารายบุคคลส่งให้ร้านยา ไม่ช่วยลดภาระงานของ รพ. 2 รพ.จัดสำรองยาไว้ที่ร้านยา เป็นเหมือนคลังยาของ รพ. ช่วยลดภาระงานที่ รพ. ได้ แต่มีภาระการดูแลคลังยาย่อยที่ร้านยา และ 3 ร้านยาดำเนินการจัดการด้านยาเอง แต่ต้องมีราคายามาตรฐานที่ รพ.จ่ายให้กับร้านยา ส่วนจะเป็นรูปแบบใดให้ขึ้นอยู่กับ รพ. ตกลงกับร้านยา โดยงบประมาณที่ใช้นำร่องนโยบายในปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 153 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจัดบริการด้านยาและเวชภัณฑ์ของร้านยา 70 บาทต่อครั้ง อ้างอิงตามประกาศค่าบริการกระทรวง สาธารณสุข ปี 2560 และค่าจัดบริการด้านยา และเวชภัณฑ์ของหน่วยบริการร่วมกับ ร้านยา เหมาจ่ายอัตรา 33,000 บาท ต่อร้านยา 1 แห่งต่อปี
นอกจากนี้บอร์ด สปสช. ยังได้อนุมัติหลักการให้ใช้เงินกองทุน รายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม ที่เป็นการคาดการณ์งบประมาณคงเหลือของเงินกองทุน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2562 จำนวนไม่เกิน 399 ล้านบาท เพื่อดำเนินงาน นำร่องตามนโยบายนี้ พร้อมเห็นชอบ เสนอต่อ รมว.สาธารณสุขประกาศกำหนดค่าจัดบริการด้านยาและเวชภัณฑ์สำหรับร้านยา และค่าจัดบริการด้านยาและ เวชภัณฑ์ของหน่วยบริการร่วมกับร้านยา เป็นค่าใช้จ่ายอื่นตามข้อ 3(1) แห่งคำสั่ง คสช.ที่ 37/2559 และข้อ 18(7) แห่งประกาศ กสธ. ที่ออกภายใต้คำสั่ง คสช.ที่ 37/2559 เพื่อให้มีกฎหมายรองรับการดำเนินงาน
"จากนโยบายนี้ผู้ป่วยยังคงพบแพทย์เหมือนเดิม มารับการตรวจตามนัด ที่ รพ.เหมือนเดิม แต่ผู้ป่วยจะสามารถเลือกได้ว่าจะรับยาที่ห้องยาของ รพ. หรือจะรับยาที่ร้านยาตามใบสั่งแพทย์ หากผู้ป่วยรับยาที่ร้านยาก็ไม่ต้องมารอคิวเพื่อรับยานานเป็นชั่วโมง แถมยังสามารถซักถามหรือขอคำ แนะนำการใช้ยากับเภสัชกรที่ร้านยาได้ ขณะเดียวกันยังช่วยลดความแออัด ผู้ป่วยใน รพ. ลงได้ นับเป็นการพัฒนาระบบบริการเพื่อดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ต้องมีการประเมินผลเพื่อดูประสิทธิผลนโยบายนี้" นายอนุทิน กล่าว |
| | |
|
| |
|
pageview 1204512 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |