|
|
|
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 18/07/2562 ] |
|
|
|
|
ไทยไร้ ไข้เลือดออก พันธุ์ใหม่ |
|
|
|
|
สธ.ชี้อาเซียนมีเพียง4สายพันธุ์
ยอดผู้ป่วยไข้เลือดออก 44,671 ราย เสียชีวิตแล้ว 62 ราย กรมควบคุมโรคร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นสำรวจ ลูกน้ำยุงลาย และรายงานผลผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวเด็กหญิงเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ จ.กาฬสินธุ์ ขอยืนยันว่าปัจจุบันประเทศไทยไม่มีไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ นอกเหนือจาก 4 สายพันธุ์ที่เคยพบมาแล้ว ซึ่งในแถบประเทศอาเซียนนี้พบโรคไข้เลือดออกได้ 4 สายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีความรุนแรงไม่แตกต่างกันมาก ส่วนอาการป่วยขึ้นอยู่กับว่าเคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อครั้งแรกอาการมักไม่รุนแรง อาจมีไข้และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อติดเชื้อครั้งที่สองด้วยสายพันธุ์ที่ต่างไป ซึ่งจะทำให้มีภาวะเลือดออกและช็อกได้
นพ.อัษฎางค์กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยอยู่ในฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ป่วยไข้เลือดออกมากเช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ที่พบผู้ป่วยมากเช่นกัน อาทิ ฟิลิปปินส์ มีผู้ป่วย 92,267 ราย เสียชีวิต 398 ราย เวียดนาม มีผู้ป่วย 81,132 ราย และมาเลเซีย มีผู้ป่วย 62,421 ราย เป็นต้น ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ลงนามความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในการสำรวจลูกน้ำยุงลายและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการช่วยกันรณรงค์ป้องกันควบคุมโรค โดยเฉพาะกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายพร้อมกันทั่วประเทศ ทำให้สถานการณ์การเกิดโรคชะลอลง จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกในหลายพื้นที่ลดลง และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ดำเนินกิจกรรมป้องกันโรคได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยอยู่ในระดับต่ำ แต่ทุกพื้นที่ยังต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป
นพ.อัษฎางค์กล่าวว่า ที่สำคัญประชาชนควรเตรียมความพร้อมใน 3 เรื่องคือ 1.การป้องกันการถูกยุงกัด โดยทายากันยุง นอนในมุ้ง กำจัดยุงตัวเต็มวัยด้วยสเปรย์ ไม้ชอร์ตไฟฟ้า กำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะน้ำใส นิ่ง 2.การเฝ้าระวังอาการของโรค คือมีไข้สูงมากโดยฉับพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร อาจมีผื่นหรือจุดเลือดขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขาและข้อพับ และ 3.การไปพบแพทย์เร็วเมื่อป่วยและมีไข้สูง เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรคและเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงไข้ลด หากเกิดอาการช็อกจากไข้เลือดออกต้องรีบกลับไป โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หากช้าอาจทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้ โรคไข้เลือดออกถือเป็นโรคประจำถิ่นในประเทศแถบอาเซียน สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-9 กรกฎาคม 2562 พบผู้ป่วย 44,671 ราย เสียชีวิต 62 ราย มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 4,269 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในปีนี้พบในกลุ่มเด็กเล็ก เด็กวัยเรียน และวัยผู้ใหญ่ตอนต้น พบมากสุดคือกลุ่มอายุ 5-14 ปี รองลงมา 15-34 ปี และแรกเกิด-4 ปี ตามลำดับ |
| | |
|
| |