การสูบบุหรี่ถือเป็นการทำลายสุขภาพทั้งต่อตัวผู้สูบเองและผู้อยู่ใกล้ชิดที่สูดเอาอากาศที่มีควันบุหรี่เข้าไป นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า ควันบุหรี่ประกอบด้วยสารพิษที่สำคัญ ได้แก่ นิโคติน ทำให้หลอดเลือดตีบตัน เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและกระตุ้นระบบประสาท คาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้หัวใจและส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย ส่งผลให้เหนื่อยง่ายและเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ ทาร์ เป็นสารก่อมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง และโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไนโตรเจน ไดออกไซด์ เป็นก๊าซพิษที่ทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลม ทำให้ถุงลมโป่งพอง ไฮโดรเจนไซยาไนต์ ทำให้เกิดอาการไอ มีเสมหะและหลอดเลือดอักเสบเรื้อรัง
          สารพิษเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น หลอดเลือดในสมองตีบ โรคมะเร็งต่างๆ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขของประเทศไทยและทั่วโลก
          นพ.เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวว่า การสูบบุหรี่ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เมื่อปอดสัมผัสกับควันบุหรี่เป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในปอด ผู้ป่วยจะมีอาการไอเรื้อรัง มีเสมหะ หอบเหนื่อยและหายใจมีเสียงหวีด เมื่อปอดถูกทำลายมากขึ้น อาการดังกล่าวจะมากขึ้นเรื่อยๆ
          สำหรับแนวทางรักษาที่สำคัญ คือ ผู้ป่วยจะต้องหยุดสูบบุหรี่ อาจเริ่มจากการหาเหตุจูงใจที่จะเลิก เช่น การมอบเป็นของขวัญให้กับคนที่รักในโอกาสสำคัญ หากิจกรรมทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากบุหรี่ เช่น การอ่านหนังสือ หรือเล่นกีฬา ดื่มน้ำหรือล้างหน้าทันทีเมื่อรู้สึกหงุดหงิด และอย่าสูบบุหรี่ทันทีที่อยากสูบ ควรประวิงเวลาของการสูบออกไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ การกินยาช่วยเลิกบุหรี่เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้สามารถเลิกบุหรี่ได้ แต่ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ ผลดีของการเลิกบุหรี่ได้อย่างถาวร คือ 15 นาทีหัวใจเต้นช้าลง 12 ชั่วโมงระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงสู่ภาวะปกติ 14 วันระบบไหลเวียนดีขึ้น หายใจโล่งขึ้น รู้สึกสดชื่น 1 ปี ความเสี่ยงโรคหัวใจวายลดลง 50% และ 5 ปีลดความเสี่ยงโรคสมอง 50%