ฮ่องกง/เซี่ยงไฮ้ (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - ฮ่องกง จะกำจัดสุกร 6,000 ตัว ในโรงเชือดใกล้พรมแดน ติดกับจีน หลังจากพบสุกรตัวหนึ่งติดเชื้อไวรัสอหิวาต์ สุกรแอฟริกัน และเป็นการพบครั้งแรกในฮ่องกง
          ผู้บริหารสำนักงานอาหารและสาธารณสุขฮ่องกงแถลงวานนี้ว่า เพื่อลดความเสี่ยงที่ไวรัสอหิวาต์สุกรแอฟริกันระบาดจากโรงฆ่าสัตว์ ส่องโส่ยในเขตนิวแทริทอรี ทางการจึงจะกำจัดสุกร ทั้งหมดในโรงฆ่าสัตว์แห่งนี้เพื่อให้สามารถทำความ สะอาดได้อย่างทั่วถึงและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อสุกรตัวที่ พบว่าติดเชื้อเป็นสุกรนำเข้ามาจากฟาร์มในมณฑล กวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนที่อยู่ใกล้กับฮ่องกง
          ทั้งนี้ เนื้อหมูเป็นอาหารหลักของคนฮ่องกง แต่ละวันฮ่องกงนำเข้าสุกรมีชีวิตจากจีน 4,000 ตัว มีเพียง 200 ตัวมาจากฟาร์มที่เลี้ยงเองเพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภค และหลังจากที่โรคอหิวาต์ สุกรแอฟริกันระบาดค่อนประเทศจีนเมื่อปีก่อน ฮ่องกงได้สั่งห้ามนำเข้าสุกรจากฟาร์มในจีนที่พบ การติดเชื้อ ขณะที่จีนกำจัดสุกรไปหลายแสนตัวเพื่อ ยับยั้งการแพร่ระบาด แต่ก็ยังพบในประเทศ เพื่อนบ้านหลายประเทศ เชื้อไวรัสนี้ไม่เป็นอันตราย ต่อคนแต่จะทำให้สุกรเลี้ยงและสุกรป่าตายได้
          ด้านองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ (FAO) เตือนว่า โรคอหิวาต์สุกรแอฟริกันที่ระบาดในจีนจะทำให้จีน ผลิตเนื้อหมูได้ลดลงอย่างน้อยร้อยละ 10 ในปีนี้ และจะกระทบต่อตลาดเนื้อหมูและตลาดผู้ผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์ทั่วโลก โดยเฉพาะถั่วเหลืองที่จีน นำเข้าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวตลอดสองทศวรรษ ที่ผ่านมาอาจจะหยุดชะงักอย่างฉับพลัน โรคนี้ยังแพร่ระบาดจากจีนไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างมองโกเลีย เวียดนาม ลาว และกัมพูชา เอฟเอโอคาดว่า ปีนี้ทั่วโลกจะผลิตเนื้อหมูได้ 115.6 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 4 จากปีก่อน เพราะปริมาณเนื้อหมู ในจีนลดลงมากกว่าปริมาณเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้น ในสหรัฐ บราซิล และรัสเซีย ส่วนสหภาพยุโรป หรืออียูคาดว่าจะผลิตได้เท่าเดิมที่ 24 ล้านตัน เพราะสมาชิกบางประเทศอย่างโรมาเนีย ฮังการี และ โปแลนด์ยังมีโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกันระบาดอยู่ ขณะเดียวกันคาดว่า อานิสงส์จะไปตกกับประเทศ ผู้ส่งออกไก่อย่างบราซิล สหรัฐ ไทย และอียูบางประเทศ ด้วย เพราะเป็นโปรตีนทางเลือกราคาถูกกว่า