เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมแนวทางลดพฤติกรรมติดเค็มของคนไทย จัดโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์การอนามัยโลก (ประเทศไทย) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และเครือข่ายลดการบริโภคเค็มจัด เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา
          นพ.วิวัฒน์ โรจนพิทยากร คณะกรรมการบริหารแผนส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า ประเทศไทยติดอันดับการแก้ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย เทียบเท่าฟินแลนด์และนอร์เวย์ แต่โรคไม่ติดต่อเรื้อรังยังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย แต่ละปีสูญเสียรายจ่ายทางสุขภาพ 99,000 ล้านบาท ทุก 1 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิต 37 คน สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากกินอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม มีแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัยแรงงาน พบว่าแนวโน้มคนไทยป่วยเป็นโรคไตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ต่อปี และมีผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นถึง 1,500,000 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี
          พญ.เรณู การ์ก องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า การบริโภคเกลือมากเกินไปนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียชีวิตของคนไทยมากกว่า 20,000 คนต่อปี จากโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และโรคไต ทุกคนควรจำกัดการบริโภคให้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
          ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม กล่าวว่า งานวิจัยการสร้างฐานข้อมูลวัตถุดิบอาหารและเครื่องปรุงรสอาหารท้องถิ่น โดยสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้เครือข่ายขับเคลื่อนรณรงค์เพื่อลดการบริโภคเกลือ (โซเดียม) ในประเทศไทย พบตัวอย่างเส้นทางปลาร้า จากผลศึกษากว่าจะถึงมือผู้บริโภคต้องผ่านถึง 3 ทอดด้วยกัน เริ่มจากปลาร้าต้นทางที่ผลิตโดยใช้ภูมิปัญญาแบบท้องถิ่นคือใช้ปลา เกลือ รำข้าว หลังจากนั้นผ่านมือพ่อค้าคนกลางและผู้จำหน่ายมีการแต่งกลิ่นและรสชาติทั้งผงชูรส ผงปรุงรส กะปิ น้ำกระเทียมดองลงไป ผู้บริโภครับโซเดียมเกินโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ อาหารยอดนิยมที่ทุกภาคนิยมคือ อาหารสำเร็จรูป ข้อมูลของคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับเครือข่ายลดการบริโภคเค็มพบว่า อาหารสำเร็จรูปยอดนิยมที่มีปริมาณโซเดียมสูงที่สุดคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โซเดียมเฉลี่ย 1,275 มิลลิกรัม/1 ซอง (50 กรัม) ตามด้วย โจ๊กคัพ 1 ถ้วยขนาด 35 กรัม โซเดียมเฉลี่ยกว่า 1,269 มิลลิกรัม เป็นปริมาณโซเดียมเกินกว่าที่เด็กควรได้รับในแต่ละวัน
          พญ.ศศิธร ตั้งสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งเป้าให้ประชาชนบริโภคเกลือลดลงร้อยละ 30 ภายในปี 2568 จากการประชุมของคณะกรรมการนโยบายลดการบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อระดับชาติ ได้มีมติให้ดำเนินการ คือ มาตรการสนับสนุนให้มีภาษีโซเดียม