HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 09/08/2561 ]
อภ.เดินหน้าพันธสัญญา ขมิ้นชัน สร้างอาชีพเกษตรกรไทย

องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นอีกหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้สมุนไพร โดยเฉพาะขมิ้นชัน เนื่องจากมีการวิจัยพัฒนาสารสกัด ขมิ้นชัน ทั้งเพื่อบรรเทาอาการปวดท้อง แน่นท้อง และล่าสุดผลการศึกษาวิจัยทางคลินิก ยังพบว่าสามารถทดแทนยาแผนปัจจุบัน กลุ่มอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม และยังได้ รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพร แผนปัจจุบันรายแรกของประเทศไทย จนได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติ (Prime Minister Herbal Awards PMHA) ประจำปี 2561 
          แน่นอนว่าความสำเร็จจากการศึกษาวิจัย ดังกล่าวไม่เพียงแต่ให้คนไทยเข้าถึงการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมากขึ้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยอีกด้วย เนื่องจากกว่าจะได้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำเป็นต้อง ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ
          เห็นได้จาก นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และผู้บริหาร อภ.ได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมลงนามสัญญาจะซื้อจะ ขายขมิ้นชันคุณภาพ ระหว่าง อภ.และ 5 กลุ่มเกษตรกร 3 จังหวัด ประกอบด้วย ลพบุรี 3 กลุ่มเกษตรกรยะลา 1 กลุ่ม และตากอีก 1 กลุ่ม ที่โรงแรมลพบุรีอินนท์ รีสอร์ท เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมทั้งยังลงพื้นที่เยี่ยมชมไร่ทหารสานประชา บ้านท่าเดื่อน้อย ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี   
          นพ.โสภณบอกว่า อภ.ต้องการใช้ชมิ้นชันตากแห้งประมาณปีละ 90 ตัน ซึ่งการลงนาม ครั้งนี้ เกษตรกร 5 กลุ่มจะขายขมิ้นชันตากแห้ง ให้กับ อภ.ปีละประมาณ 45 ตัน ในราคาตันละ ประมาณ 120,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งจะทำให้เกษตรกรทั้ง 5 กลุ่มมีรายได้ต่อปีรวมกันประมาณ 5.4 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 45 ตัน อภ. จะจัดซื้อตามปกติจากแหล่งปลูกขมิ้นชันที่มี คุณภาพทั่วประเทศ ซึ่งขมิ้นชันคุณภาพจะต้อง มีสารสำคัญ คือสารเคอร์คูมินอยด์สูงกว่าร้อยละ 9 สำหรับนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งหากเกษตรกรสามารถปลูกขมิ้นชันที่มีสารดังกล่าวได้ในปริมาณมากก็จะได้ราคามากขึ้นด้วย
          ด้าน ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รอง ผู้อำนวยการ อภ.กล่าวถึงการคัดเลือกกลุ่ม เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมา อภ.ได้ลงพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ เพื่อสำรวจหาขมิ้นชันที่มีคุณภาพด้วยการนำไปวิเคราะห์หาสารเคอร์คูมินอยด์ จบพบว่า 5 กลุ่มเกษตรกรสามารถปลูกขมิ้นชัน ที่มีสารสำคัญได้ในปริมาณสูง จึงเกิดความร่วมมือขึ้น โดยทาง อภ.จะให้การสนับสนุนต่างๆ ทั้ง การคัดเลือกสายพันธุ์คุณภาพ ให้ความรู้การปลูกอย่างเหมาะสม มีการติดตามระหว่างการปลูก และพร้อมรับซื้อในราคาที่เหมาะสม
          โดยในเรื่องของราคาการรับซื้อนั้น เบื้องต้น อภ.กำหนดไว้ว่าจะรับซื้อขมิ้นชันที่มีสารเคอร์ คูมินอยด์ไม่น้อยกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป แต่ไม่ถึง 9.5 เปอร์เซ็นต์ จะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 120 บาท หากสามารถปลูกจนได้สารสำคัญ เท่ากับหรือมากกว่า 9.5 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เท่า 10 เปอร์เซ็นต์ จะรับซื้อในราคา 126.6 บาทต่อกิโลกรัม และหากมีสารเคอร์คูมินอยด์มากกว่านั้นก็จะ รับซื้อในราคาที่มากขึ้นตามความเหมาะสม โดยการรับซื้อจะเป็นขมิ้นชันตากแห้งแล้วเท่านั้น
          สำหรับพื้นที่ปลูก ซึ่งคณะผู้บริหาร อภ.ได้ไปเยี่ยมชมในครั้งนี้ คือไร่ทหารสานประชา บ้าน ท่าเดื่อน้อย ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มเกษตกรที่ร่วมทำสัญญา โดย นางพิมพ์ชญา ผาฮุย ตัวแทนวิสาหกิจชุมชน กลุ่มวิชาชีพเกษตรอินทรีย์ไร่ ทหารสานประชาเล่าให้คณะผู้เยี่ยมชมทราบว่า การปลูกขมิ้นชันของทางไร่ทหารสานประชา เป็นแบบเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด โดยได้รับการ รับรองให้เป็น organic village 1 ใน 8 แห่งของประเทศไทย โดยที่มาของการทำเกษตรอินทรีย์เนื่องจากเดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นของทหาร มีประมาณ 200 ไร่ แต่แบ่งให้ชาวบ้านเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทำ กินครัวเรือนละ 5 ไร่ จากทั้งหมด 33 ครัวเรือน โดยมีเงื่อนไขต้องใช้พื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์ เท่านั้น
          "เดิมทีก็ไม่เข้าใจว่าทำการเกษตรอินทรีย์อย่างไร ก็มีทาง คุณเจริญ พิมพ์ขาล หัวหน้า กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรของ จ.ลพบุรี มาให้ความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ และก็ได้มีโอกาสไปดูงานกับทางมูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรีด้วย ก็นำความรู้ต่างๆ มาทำให้พื้นที่เป็นเกษตรอินทรีย์ อย่างการปลูกขมิ้นชันก็เช่นกัน เราจะไม่ถาง หญ้าเลย เพราะหญ้าถือเป็นพี่เลี้ยงน้ำให้ขมิ้นชัน จากนั้นเราก็เติมดินภูเขาไฟ หรือเพอร์ไลท์ คล้ายๆ ปุ๋ย แต่เป็นสารอินทรีย์ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสารเคมีเลย ซึ่งแร่เพอร์ไลท์สำคัญมาก เพราะทำให้มี ความพรุน เพิ่มสารเคอร์คูมินอยด์ได้ด้วย ซึ่ง ชัดเจนว่าการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์มีประโยชน์ เพิ่มผลผลิตได้โดยเราไม่ต้องพึ่งสารกำจัดศัตรูพืช หรือสารเคมี" นางพิมพ์ชญากล่าวทิ้งท้ายนอกจากจะส่งเสริมรายได้เกษตรกรแล้ว เรายังได้ขมิ้นชันคุณภาพดีๆ มาผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อีกด้วย


pageview  1204947    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved