HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 17/07/2561 ]
วางแผน-ฝึกซ้อมดี ช่วย13หมูป่าไม่ใช่ปาฏิหาริย์ นักดำน้ำคนดังเผยเทคนิคดมกลิ่นเจอ-ไม่พึ่งโชคช่วยคนนับพันร่วมพิธีบวงสรวง

 “จอห์น โวลันเธน” ฮีโร่นักดำน้ำชาวอังกฤษ ยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์ผ่าน BBC ระบุเป็นคนแรกที่ดำน้ำไปพบเด็กบนเนินนมสาวในถ้ำหลวง ไม่ใช่โชคช่วยและไม่มีปาฏิหาริย์ แต่ใช้ทักษะการ “ดมกลิ่น” ยอมรับก่อนพาตัวออกมาได้ฝึกซ้อมจำลองสถานการณ์กับเด็กท้องถิ่นในสระว่ายน้ำ และวางแผนละเอียดทุกขั้นตอน ด้านสื่อออสเตรเลีย แฉ 2 นายแพทย์ชาวออสซีทำข้อตกลงกับรัฐบาลไทยให้ได้รับเอกสิทธิ์ทางการทูต หากปฏิบัติการกู้ชีพ 13 หมูป่าล้มเหลว ต้องไม่ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ขณะที่ชาวเชียงรายนับพันคนร่วมพิธีเซ่นไหว้บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอขมาเจ้าแม่นางนอน พร้อมนิมนต์ 9 พระเกจิชั้นผู้ใหญ่ สวดถอนดวงวิญญาณ “จ่าแซม” วีรบุรุษถ้ำหลวง เพื่อให้ไปสู่สุคติ
          หลังผ่านพ้นปฏิบัติการกู้ภัยให้กับทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิต ที่เข้าไปติดค้างอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นานถึง 17 วัน เด็กและโค้ชอยู่ในระหว่างฟื้นฟูสภาพร่างกายและเฝ้าระวังโรคที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ขณะที่วีรกรรม น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตหน่วยซีล ผู้สละชีพขณะดำน้ำวางถังอากาศช่วยทีมหมูป่า ยังคงถูกกล่าวขานถึงในฐานะ “วีรบุรุษถ้ำหลวง”
          2 สื่อเยอรมันขอเป็นจิตอาสา
          ที่ อบต.โป่งผา ริมถนนพหลโยธิน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้ประกาศขยายวันรับสมัครจิตอาสา หน่วยพระราชทาน และประชาชนจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ จิตอาสาปรับปรุงภูมิทัศน์วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน บรรยากาศการรับ สมัครยังคงคึกคัก ประชาชนชาวแม่สาย และจากพื้นที่อื่นทั่วเชียงรายมาเข้าร่วมสมัครกว่า 9,000 คน ทั้งบุคคลที่มีสัญชาติไทย คนไม่มีสถานะคนไทย และสัญชาติอื่นๆ ในจำนวนนั้นมีสื่อมวลชนจากประเทศเยอรมนี เข้ามาสมัครเป็นจิตอาสา 2 รายคือ นายอูฟุค เดฟริม อุคตา ช่างภาพ และนายไมค์ แพบมานน์ ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ Bild ที่เคยลงข่าวของน้องๆทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน ที่ติดถ้ำหลวง โดยเขียนพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเป็นภาษาไทยว่า “น้องๆสู้ๆ”
          คนเยอรมันสนใจชีวิตทีมหมูป่า
          น.ส.สุพัตรา ตระกูลอินทร์ ล่ามจิตอาสาที่มาช่วยแปลภาษาอยู่ที่ อบต.โป่งผา เผยว่า นักข่าวเยอรมันทั้ง 2 คน ได้พูดแสดงความรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีที่น้องๆรอดชีวิตมาได้ มีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เขาในฐานะสื่อเยอรมันเลยอยากจะรู้ตั้งแต่ต้นจนจบเกี่ยวกับเรื่องราวของทีมหมูป่า จึงยังต้องอยู่ที่นี่ เมื่อช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก ทาง นสพ.Bild ได้ส่งทีมนักข่าวมาทำข่าว 3 ทีม ขณะนี้บางทีมทยอยกลับแล้ว แต่ยังมีทีมเหลืออยู่ที่นี่เพื่อทำข่าวต่อเนื่องให้จบ อีกทั้งต้องการพบพูดคุยกับน้องๆและครอบครัวของน้องๆ ด้วย เพื่อรายงานข่าวให้ผู้อ่านชาวเยอรมันที่ติดตามข่าวนี้ได้รับทราบ เพราะมีคนสนใจติดตามกันมาก
          บวงสรวง-ขมาเจ้าแม่นางนอน
          ที่หน้าถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อเวลา 09.09 น.วันเดียวกัน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.พะเยา ร่วมพิธีทำบุญทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้แก่ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตหน่วยซีล พร้อมทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขอขมาเจ้าแม่นางนอน ในการประกอบพิธีได้นิมนต์พระสงฆ์ 28 รูปที่เคยทำพิธีเปิดปากถ้ำหลวง มาร่วมสวดมนต์ทำพิธีปิดปากถ้ำ บริเวณทางขึ้นถ้ำหลวงได้จัดตั้งโต๊ะวางเครื่องเซ่นสังเวย ประกอบด้วยหัวหมู 31 หัว ไก่ 13 ตัว ปลาช่อน 13 ตัว อาหารคาวหวาน อย่างละ 13 ชุด กลางโต๊ะมีพานบายศรีรูปเศียรพญานาค 1 พานวางอยู่ รายล้อมด้วยพานบายศรีขนาดเล็กและธูปเทียน ส่วนซ้ายมือของโต๊ะเป็นรูป น.ต.สมาน และศาลเพียงตาขนาดเล็กตั้งอยู่
          ผู้ปกครอง 13 หมูป่างดคุยสื่อ
          ขณะที่ผู้ปกครองทีมหมูป่าทั้ง 13 คน สวมชุดขาวเดินทางมาร่วมพิธีในวันนี้โดยพร้อมเพรียงกัน และงดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน มีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงจังหวัดเชียงราย ประกบติดอย่างใกล้ชิด ในพิธีครั้งนี้ได้รับความสนใจจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.แม่สาย และประชาชนใน จ.เชียงราย เดินทางมาร่วมพิธีนับพันคน ด้านนายนิพนธ์ อ้ายไชย หรือพ่อหนานพนธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิแนวทางปฏิบัติของสังคมด้านประเพณี และวัฒนธรรม ความเชื่อ จ.เชียงรายราย ในฐานะเจ้าพิธีกล่าวว่า พิธีวันนี้เป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยดา เจ้าป่าเจ้าเขา เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปฏิบัติงาน และขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ไม่ให้มีเวรกรรมต่อกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ใช้สถานที่แห่งนี้ปฏิบัติงานช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าฯ อาจกระทบกระทั่ง ล่วงเกิน หรือลบหลู่โดยไม่มีเจตนา
          แก้บน-ถอนวิญญาณ “จ่าแซม”
          “ทุกอย่างที่นำมาถวายในวันนี้มีความหมาย จะมีบายศรีพญานาค บายศรีเทพ บายศรีพรหม เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งจะมีการเชิญวิญญาณทหารที่เป็นบรรพบุรุษมารับส่วนบุญส่วนกุศล เป็นความเชื่อทางภาคเหนือว่าถ้าหากเชิญมาแล้ว ดวงวิญญาณของทหารหรือเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต จะมารับส่วนบุญส่วนกุศลด้วย นอกจากนี้ ยังมีการฟ้อนอวยพรขันดอกและกองสะบัดชัย เพื่อแก้บนที่หมูป่าทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย ส่วนในช่วงบ่ายจะมีพิธีสวดถอน เชิญดวงวิญญาณของ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง ให้ไปสู่สุคติ อย่าได้เป็นวิญญาณสัมภเวสี ติดค้างอยู่สถานที่แห่งนี้ ให้ไปรับบุญกุศลที่ทางญาติพี่น้องทำบุญให้” นายนิพนธ์กล่าว
          9 เกจิทำพิธีสวดถอน-ปิดถ้ำ
          ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่หน้าศาลเจ้าแม่นางนอน หน้าถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พระเกจิผู้ใหญ่ 9 รูป มีพระรัตนรังษี หรือ ครูบาแสงหล้า ธัมมสิริ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุสายเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก ฝั่งพม่า พระรัตนมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง พระพุทธิญานมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา พระครูบาบุญปั๋น ชยาวินนโท วัดแม่หะ พระกิตติชัย (ครูบาต๋อง) สีลสังโร วัดน้ำตกตาดทอง พระพรชัย วรปัญโญ (ครูบาพรชัย) วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง อ.พญาเม็งราย พระเจษฎา จิรสีโล (ครูบาเจษฎา) วัดห้วยสัก อ.ดอยหลวง และพระปองพล สีลสังวโร วัดไชยผาบ อ.เทิง ทำพิธีสวดถอนภายในถ้ำหลวง โดยนำสะตวงทำด้วยกาบกล้วย มีอาหารคาวหวานวางไว้ 4 ทิศ ตรงกลางวางสะตวงขนาดใหญ่มีดอกไม้ มัดเทียนหุ้มผ้าสีแดง พระสงฆ์ร่วมสวดถอนทั้ง 4 ทิศ แล้วใช้น้ำมนต์ประพรมรอบบริเวณถ้ำ เพื่อทำพิธีปิดถ้ำและส่งวิญญาณจ่าแซมไปสู่ภพภูมิที่ดี
          มอบเกียรติบัตร 2 นักสำรวจถ้ำ
          เช้าวันเดียวกัน ที่หอประชุมเทิดไท้มหาราชินี ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายคเณศ พงศ์สุวรรณ ผอ.ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ พร้อมคณะครู นักเรียน ร่วมพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับนายกมล คุณงามความดี รปภ.ของโรงเรียน และมิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ ชาวอังกฤษ ทั้ง 2 คนได้เข้าสำรวจถ้ำหลวงมาแล้วกว่า 6 ปี และเป็นผู้ที่เข้าไปตามหาน้องๆทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน ในช่วงแรกๆที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ในพิธีมีตัวแทนนักเรียนกล่าวคำขอบคุณ พร้อมไว้อาลัยให้กับ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม
          หลังเหตุการณ์สงบ-สำรวจเพิ่ม
          นายกมลเผยว่า ตนและมิสเตอร์เวิร์น เคยสำรวจถ้ำหลวง เมื่อเกิดเหตุเด็กเข้าไปติดในถ้ำ ได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหา ช่วงแรกเข้าไปในถ้ำได้ถึงสามแยก ต่อมาน้ำเริ่มท่วมพื้นที่ในถ้ำเกือบมิด ต้องช่วยกันขนถังอากาศหนีน้ำ ส่วนตัวเชื่อน้องๆปลอดภัยแน่นอน แต่ที่หาไม่พบเพราะไม่คิดว่าจะไปไกลถึงเกือบสุดปลายถ้ำ ต้องยอมรับว่านักดำน้ำต่างชาติเป็นผู้ที่มีประสบการณ์อย่างมาก ทั้งดมกลิ่นจากฟองอากาศภายในถ้ำ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว หลังจากนี้หากสถานการณ์ภายในถ้ำปกติ จะร่วมกับมิสเตอร์เวิร์น สำรวจถ้ำหลวงและถ้ำทรายทองเพื่อหาจุดเชื่อมต่อกันอีกครั้ง
          ยันต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
          ด้านมิสเตอร์เวิร์นกล่าวว่า หลังตามหาเด็กทั้งหมดมาแล้ว 4 วัน ตนและทีมงานได้ปรึกษานายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผบ.ศอร. และให้ความเห็นว่าคงต้องประสานนักดำน้ำระดับโลกมาช่วยแล้ว เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต้องใช้ผู้ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง หลัง จนท.ช่วยเหลือเด็กๆทุกคนออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัยแล้ว ตนได้ไปเยี่ยมเด็กๆที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ถือเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่ทุกคนสุขภาพยังแข็งแรงดีและปลอดภัย จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อยากฝากเตือนผู้จะไปเที่ยวภายในถ้ำ ควรหาข้อมูลของถ้ำ และควรปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ก่อน อีกทั้งจะต้องเตรียมไฟฉาย น้ำดื่ม อาหาร และอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นก่อนเข้าถ้ำด้วย
          เล่นดนตรีช่วยครอบครัววีรบุรุษ
          ก่อนหน้านี้ เมื่อหัวค่ำคืนวันที่ 15 ก.ค. ที่ลานด้านหน้าเทสโก้ โลตัส แม่สาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายดำรง พนาพิทักษ์ทอง อายุ 43 ปี ประธานกลุ่มทำดี ทำเลย พร้อมคณะได้ร่วมกันเล่นดนตรีเปิดหมวก เพื่อนำรายได้ไปมอบให้ครอบครัว“วีรบุรุษถ้ำหลวง” น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตหน่วยซีลผู้เสียสละดำน้ำวางถังอากาศช่วยทีมหมูป่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีชาวบ้านมาร่วมบริจาคจำนวนมาก นายดำรง กล่าวว่า ตนและเพื่อนเป็นรุ่นพี่ของน้องๆทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่เรียนอยู่ ร.ร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ได้ร่วมกับเพื่อนที่มีวงดนตรี คนที่เล่นดนตรีและร้องเพลงได้จำนวน 6 วง รวมกว่า 70 คน ออกมาเล่นดนตรีเปิดหมวก หารายได้ช่วยครอบครัวจ่าแซม เงินที่ได้รับบริจาคจะมอบผ่านนายฉัตรชัย ชัยศิริ นายกเทศมนตรีเทศบาลเวียงพางคำ ส่งต่อให้ครอบครัวจ่าแซม เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในบุญคุณของจ่าแซมที่มีต่อชาวแม่สาย
          สั่งปิดถ้ำห้ามเข้า-ออกเด็ดขาด
          ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บ่ายวันเดียวกัน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ แถลงว่า กรมอุทยานฯร่วมกับหน่วยงานต่างๆเข้าค้นหาทั้ง 13 คน ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. กระทั่งพบและช่วยเด็กออกมาจากถ้ำได้ในวันที่ 10 ก.ค. รวมทั้งหมด 17 วัน มีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯเข้าร่วมภารกิจ 657 คน ขณะที่มาตรการต่างๆ มีแผนระยะเร่งด่วนคือการปิดถ้ำไม่ให้ใครเข้าออก ส่วนแผนระยะยาวคือติดกล้องวงจรปิด ไฟฟ้าส่องสว่าง ตรวจจำนวนคนเข้าออกถ้ำ และลงเวลาชัดเจน รวมถึงจัดการด้านความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมด้านการกู้ภัยฉุกเฉิน ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ป้ายเตือนป้ายแนะนำการท่องเที่ยวต้องมีพร้อม ขณะที่นักท่องเที่ยวต้องแต่งกายให้รัดกุม ต่อไปจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำมาร่วมเป็นคณะกรรมการ สำรวจถ้ำทั่วประเทศเพื่อเป็นข้อมูลต่อไป
          2 ออสซี่มีเอกสิทธิ์ทูตคุ้มครอง
          เว็บไซต์ข่าว News.com.au รายงานเมื่อวันที่ 16 ก.ค. อ้างการเปิดเผยของนายเจสัน มอลลินสัน สมาชิกทีมนักดำน้ำแห่งสภากู้ภัยผู้ติดถ้ำของอังกฤษ ที่ให้สัมภาษณ์รายการ “โฟร์ คอร์เนอร์ส” (สี่มุม) ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี ของออสเตรเลียว่า นพ.ริชาร์ด แฮร์ริส และ นพ.เครก ชิลเลน 2 นักประดาน้ำชาวออสเตรเลีย ผู้ร่วมทีมกู้ภัยช่วยชีวิตนักเตะทีมหมูป่า 12 คน และผู้ช่วยโค้ช 1 คน ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูต ไม่ต้องรับผิดใดๆ ในกรณีที่ปฏิบัติการกู้ภัยผิดพลาด หลังการเจรจาเรื่องนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยและออสเตรเลีย
          ยอมรับเสี่ยงมากพาเด็กๆดำน้ำ
          นายมอลลินสันยังเผยว่า นพ.ริชาร์ด แฮร์ริส เป็นแกนหลักในปฏิบัติการกู้ภัยทั้งหมด ถ้าไม่มีเขาการกู้ภัยอาจไม่สำเร็จ วิธีการตามจรรยาบรรณแพทย์ของเขา ซึ่งคอยอยู่ร่วมพูดคุยปลอบโยนเด็กๆให้สงบ เป็นส่วนสำคัญยิ่งที่ทำให้ปฏิบัติการสำเร็จ ทีมกู้ภัยอื่นๆเป็นเพียงผู้ลำเลียงทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำเท่านั้น ขณะที่มีความเสี่ยง 2 ประการที่ชัดเจนในปฏิบัติการกู้ภัย คือ 1.ความเสี่ยงที่หน้ากากแบบสวมครอบเต็มใบหน้าจะหลุดและน้ำรั่วเข้าไปในหน้ากาก และ 2.ความเสี่ยงที่อากาศหรือออกซิเจนจะหมด ระหว่างการนำตัวทั้ง 13 คนออกจากถ้ำ
          ซ้อมกู้ภัยในสระน้ำกับเด็กแม่สาย
          ข่าวยังระบุว่า จ่าเอกดีเรค แอนเดอร์สัน จากศูนย์บัญชาการปฏิบัติการดำน้ำของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และทีมของเขา รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำอื่นๆ และหน่วยซีลของกองทัพเรือไทย ได้ซ้อมกู้ภัยจำลองแบบเสมือนจริงร่วมกับเด็กๆในท้องถิ่น ที่สระว่ายน้ำของโรงเรียนใกล้ๆถ้ำหลวง และยังซ้อมร่วมกับทีมนักฟุตบอลยุวชนทีมหมูป่าและผู้ช่วยโค้ชทั้ง 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำด้วยก่อนปฏิบัติการกู้ภัยจริง
          ฮีโร่นักดำน้ำอังกฤษยอมเปิดปาก
          ขณะที่เฟซบุ๊ก Sherry Sheradia ได้โพสต์คลิปวิดีโอเผยแพร่ทางยูทูบ เป็นบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มนายจอห์นโวลันเธน 1 ใน 2 นักดำน้ำชาวอังกฤษ สมาชิกทีมนักดำน้ำแห่งสภากู้ภัยผู้ติดถ้ำของอังกฤษ กับผู้สื่อข่าว BBC Points West บอกว่าที่พบเด็กไม่ใช่โชคช่วยเพราะเชือก guid rope หมดลงพอดี แต่เพราะเขาดมกลิ่นเจอ การทำงานของเขาผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบมาก และมีการทดลองช่วยเหลือเด็กในสระว่ายน้ำข้างนอกก่อนช่วยเด็กในถ้ำด้วย
          หิ้วตัวเด็กออกมาคล้ายถุงช็อปปิ้ง
          จอห์นบอกว่า ภาพจำลองการช่วยเหลือทีมหมูป่าจากถ้ำหลวงในสื่อส่วนใหญ่ผิดหมด เพราะในความจริงมีการใช้เทคนิคต่างๆมากมายในแต่ละช่วงของการกู้ภัย ถ้าลงไปที่ต่ำมากต้องหนีบตัวเด็กไว้ข้างๆ ถ้าเป็นที่แคบๆต้องส่งเด็กเข้าไปก่อน จอห์นบอกว่ามีการฝึกกับเด็กในสระว่ายน้ำก่อน คือเอาเด็กแถวแม่สายไปลงสระน้ำ ใส่หน้ากากสกูบา และทดลองลงน้ำฝึกการช่วยเหลือ จะหนีบเด็กออกมาอย่างไร ต้องใช้เทคนิคอะไรบ้าง เพื่อให้เห็นภาพ เขา “หิ้ว” เด็กออกมาเหมือนกับหิ้ว “shopping bag” มีการทำ “หูหิ้ว” ไว้ข้างหลังเด็กที่ใส่หน้ากากออกซิเจน เด็กจะคว่ำหน้าลงน้ำเสมอเพื่อไม่ให้กระแทกกับเพดานถ้ำ เวลาเข้าที่แคบและลึกจะกอดเด็กไว้ที่หน้าอก ถ้าเป็นในที่กว้างและลึกจะหนีบไว้ข้างลำตัว มีการผูกเชือกคล้องตัวเด็กไว้กับนักดำน้ำเสมอเพื่อกันเด็กหาย ตอนท้ายเขาแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของ จ.อ.สมาน กุนัน และบอกว่าเมื่อกลับมาอังกฤษต้องไปทำงานเลย ไม่มีวันพัก
          ย้ำไม่มีปาฏิหาริย์-ใช้การดมกลิ่น
          ส่วนที่บางคนอาจเห็นเป็นเรื่องตลกที่ จอห์น บอกว่าดมกลิ่นเด็กจนเจอ แต่สำหรับนักดำน้ำในถ้ำ “cave divers” การฝึก “ทักษะ” อย่างอื่นนอกจาก “การมองเห็น” เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการทำงานในสภาพที่ขุ่นมัว เมื่ออยู่ในน้ำและสภาพที่มืดสนิท (pitch black) เมื่ออยู่ในที่โล่งของถ้ำ อันนี้อธิบายได้ว่าทำไม “cave divers” เหล่านี้จึงสามารถทำงานที่หน่วยซีลทำไม่ได้ ที่สำคัญคือต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ จอห์นถึงเคยให้สัมภาษณ์ว่า “What we do is very calculating, very calm. It’s quite the opposite of being a hero.” ต้องวางแผน ต้องใจเย็น ไม่ใช่ทำเพราะอยากเป็นฮีโร่ รวมทั้งต้องมีการฝึกในสถานการณ์จำลองก่อน แบบที่เขาฝึกช่วยเหลือเด็กในสระว่ายน้ำ ก่อนจะลงไปช่วยเด็กในถ้ำจริง สะท้อนให้เห็นว่าปฏิบัติการที่สำเร็จ ไม่ได้อาศัยปาฏิหาริย์แต่อย่างใด
          มท.เตรียมงานจัดเลี้ยงทีมกู้ภัย
          ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมการจัดงานเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในภารกิจช่วยเหลือโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า วันนี้ได้พูดคุยระดับผู้ปฏิบัติการว่าจัดงานอย่างไรจึงจะดีที่สุด ซึ่งสถานที่จัดงานนั้นมีหลายส่วนรวมถึงที่กรุงเทพฯและเพื่อความเหมาะสมหากอยู่ห่างไกลอาจต้องกระจายไปที่อื่นด้วย เช่น จ.เชียงราย เพราะมีประชาชนไปร่วมช่วยเหลือในภารกิจจำนวนมาก ทั้งนี้ ต้องเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. พิจารณาด้วย
          ท่าน ว.ชี้ทีมหมูป่าได้รับทุนชีวิต
          ส่วนที่เฟซบุ๊ก พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ได้โพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงทีมหมูป่าว่า ได้อ่านบทสัมภาษณ์ผู้ปกครองของน้องๆทีมหมูป่าอะคาเดมีคนหนึ่งที่ออกมาปฏิเสธการรับทุนการศึกษาจากองค์กรต่างๆ โดยให้เหตุผลว่า น้องๆทีมหมูป่าได้รับมามากเกินพอแล้ว...อาตมาเห็นด้วยกับท่าทีดังกล่าว เนื่องเพราะทีมหมูป่าอะคาเดมีได้รับ “ทุนการศึกษา” จาก “สถาบันถ้ำหลวงดอยนางนอน” เรียบร้อยแล้ว ทุนจากองค์กรต่างๆจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป
          13 หมูป่าน้ำหนักตัวเพิ่ม
          นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีและโค้ชทั้ง 13 คน ว่าทีมแพทย์ จิตแพทย์ พยาบาล สหวิชาชีพของ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ทุกคนสุขภาพร่างกายดีขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3 กก. อยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ทำกิจกรรมกลุ่มตามกระบวนการทางจิตวิทยา อาทิ การสำรวจความรู้สึกภายใน การจัดการกับความรู้สึก การสร้างความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย พร้อมเผชิญหน้ากับปัญหา เพื่อให้ทุกคนมีสภาพจิตใจพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติหลังออกจากโรงพยาบาล คาดว่าจะเป็นวันที่ 19 ก.ค.นี้ ส่วนอาการล่าสุดกลุ่มที่ 1 จำนวน 4 คน และกลุ่มที่ 2 จำนวน 4 คน อาการทั่วไปปกติ รับประทานอาหารปกติ ผลเอกซเรย์ปอดปกติทุกคน ให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วันแล้ว ส่วนกลุ่มที่ 3 จำนวน 5 คน อาการทั่วไปปกติ รอให้ยา ปฏิชีวนะครบ 7 วัน
          พะเยาต้อนรับผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์
          ที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา เวลา 15.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.พะเยา พร้อมภรรยาเดินทางเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาอย่างเป็นทางการ มีข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายณรงค์ศักดิ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะตั้งใจทำงานในฐานะ ผวจ.พะเยา อย่างเต็มที่ ในส่วนนโยบายที่ศึกษาข้อมูลมาก่อนหน้านี้เห็นว่า กว๊านพะเยามีปัญหาถูกบุกรุก และกักเก็บน้ำไว้ใช้ในภาคเกษตรไม่ได้ ดังนั้น เป้าหมายแรกที่ตั้งใจทำคือเปิดด่านถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง เพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน และอีกเป้าหมายหลักคือ ต้องการให้มีการกักเก็บน้ำมากขึ้น จะสามารถต่อยอดในการทำเกษตรอินทรีย์เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตผล และสร้างพื้นที่ จ.พะเยา เป็นแหล่งท่องเที่ยว การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้เป็นการแบกรับความหวังของประชาชนไว้เต็มเปี่ยม จะทำเต็มที่ในทุกวัน แต่จะทำได้ตามที่ทุกคนคาดหวังหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากคนในพื้นที่ด้วยถึงจะประสบผลสำเร็จ
          วธ.จัดนิทรรศการกู้ชีพทีมหมูป่า
          นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า วางแผนจัดนิทรรศการเหตุการณ์กู้ชีพ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเหตุการณ์ จนถึงการช่วยเหลือให้ออกจากถ้ำหลวงได้สำเร็จ จัดแสดงทั้งส่วนกลางและสัญจรไป 4 ภูมิภาค ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้ แบ่งเป็น 7 หัวข้อ 1. 13 ชีวิตหมูป่าติดถ้ำ 2.นาทีชีวิตวิกฤติเสี่ยงตาย 3.วิกฤตินี้รวมใจไทยเป็นหนึ่ง 4.ปฏิบัติการวาระแห่งโลก 5.อาลัย สดุดีวีรบุรุษถ้ำหลวง 6.บทเรียนที่โลกต้องจารึก 7.สรุปเหตุการณ์วันต่อวัน วธ.ยังเปิดให้ประชาชนและสื่อมวลชนส่งภาพเหตุการณ์ ภาพวาด คลิปวิดีโอ หรือเอกสารข้อมูลการช่วยเหลือ 13 ชีวิต เพื่อนำมารวบรวมจัดทำเป็นจดหมายเหตุ ส่งมาได้ที่ www.mculture.go.th หรือ Line @ofl6289y หรือเฟซบุ๊ก Thai MCulture หัวข้อ “บันทึกประวัติศาสตร์ช่วย 13 ชีวิตหมูป่าอะคาเดมี” ระบุวัน เวลา และสถานที่ถ่ายภาพ ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 ก.ค.61 สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765
          ผกก.หนังแจ้งจับมือตัดต่อมั่ว
          ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายอภิรุจ มิ่งขวัญตา หรือพจน์ อานนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ เข้าพบ ร.ต.ท.ธนพล ยิ่งงามแก้ว รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งดำเนินคดีกับเฟซบุ๊กที่ตัดต่อโปสเตอร์ภาพยนตร์ว่าจะสร้างหนังเกี่ยวกับทีมหมูป่าติดถ้ำ ก่อนแชร์ในโลกโซเชียล ทำให้ถูกคนเข้ามาด่าจำนวนมาก สร้างความเสื่อมเสีย นายอภิรุจอ้างว่า เมื่อปลายเดือน มิ.ย. มีเฟซบุ๊กเพจหนึ่งไม่ขอเปิดเผย นำโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง “ม.6/5 ปากหมาท้าผี” มาตัดต่อดัดแปลงภาพใหม่เป็น “ม.6/5 ปากหมาท้าถ้ำ” พร้อมแชร์ในโซเชียลจนถูกวิจารณ์ว่า ตนจะสร้างหนังเรื่องดังกล่าวและมีคนเข้ามาด่าในเพจตนจำนวนมาก ยืนยันไม่ทำหนังเรื่องนี้ และจะเอาผิดคนตัดต่อโปสเตอร์หนังในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนคนที่เข้ามาโพสต์ต่อว่าด่าทอจะไปแจ้งความ สน.ยานนาวา ต่อไป


pageview  1204945    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved