ในสมัยที่ผู้คนยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้นั้น การคลอดบุตรจำเป็นต้องอาศัยหมอตำแยเป็นผู้ทำคลอด ซึ่งนอกจากจะทำคลอดแล้วหมอตำแยยังมีหน้าที่ดูแลมารดาและบุตรหลังจากคลอดแล้วอีกด้วย
แม้ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่จะทำการคลอดบุตรในโรงพยาบาลที่มีแพทย์แผนปัจจุบันเป็นผู้ดูแล แต่องค์ความรู้หรือเรียกว่า การผดุงครรภ์ไทย ก็ยังคงมีการนำมาใช้ในส่วนอื่นๆต่อไป
การผดุงครรภ์ไทย หมายความว่า การตรวจ การบำบัด การแนะนำและการส่งเสริมสุขภาพ หญิงมีครรณ การป้องกันความผิดปกติใระยะตั้งครรภ์และระยะคลอด การทำคลอดการดูแลและส่งเสริมสุขภาพมารดาและทารกในระยะหลังคลอดด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย
จะเห็นได้ว่าการผดุลครรภ์ไทยนั้นให้ความสำคัญในการดูแลมารดาและทารกตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและระยะหลังคลอด แต่ในปัจจุบันบทบาทหน้าที่ในการทำคลอดมีน้อยลงแล้วและได้หันมาเน้นไปที่การดูแลสุขภาพของมารดาหลังคลอดมากยิ่งขึ้น
ปัญหาด้านสุขภาพของมารดาหลังคลอดบุตรมีด้วยกันหลายประการ ทั้งทางด้านร่างกายและด้านจิตใจ ที่เกิดจากกระบวนการคลอด สภาพร่างกายและภาระที่เพิ่มขึ้น สำหรับปัญหาทางจิตใจ ได้แก่ ความวิตกกังวลในการดูแลทารก วิตกกังวลในสรีสะที่เปลี่ยนแปลงไป ภาวะเศร้าหลังคลอดซึ่งเกิดในมารดาที่ทารกเสียชีวิตหลังจากคลอดหรือภาวะเศร้าที่หาสาเหตุไม่ได้ เป็นต้น การผดุงครรภ์ไทยจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพหลังคลอดของมารดาในยุคปัจจุบัน นอกเหนือจากแพทย์แผนหลัง
โดยการผดุงครรภ์ไทยสามารถช่วยเหลือในส่วนอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรก หน้ามือตาลาย อาหารปวดเมื่อยปวดระบมตามบั้นเอว สะโพก ต้นขา บ่า สะบัก อาการเจ็บมดลูก น้ำคาวปลาไม่เดิน กระบังลมหย่อน หน้าท้องยื่น เจ็บแผลฝีเย็บช่องคลอด ปวดขัดเวลาปัสสาวะ อาการคัดเต้านม น้ำนมน้อย หัวนมบอด ผิวหนังเป็นคราบดำบริเวณรักแร้ ซอกคอ สะโพก ก้น ขาหนีบ ท้องลายและสะโพกลาย เป็นต้น
หากลองมองย้อนกลับไปในอดีตแล้วทบทวนดูว่า เพราะเหตุใดที่มารดาสมัยก่อนแม้จะมีบุตรมากแต่กลับมีสุขภาพที่แข็งแรง โดยมีน้อยรายที่ได้รับผลกระทบจากภาวะหลังคลอด ซึ่งสิ่งที่แตกต่างกันก็คือ มารดาหลังคลอดในปัจจุบันหลังจากคลอดบุตรได้ไม่นานก็ต้องกลับไปทำงานต่อ ช่วงเวลาสำหรับพักฟื้นลดน้อยลง การใส่ใจกับสุขภาพของตนเองจึงไม่มากเท่ากับคนในสมัยก่อน ส่งผลให้คุณแม่ยุคปัจจุบันมักมีอาการผิดปกติต่างๆ เกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การผดุงครรภ์ไทยกลับเข้ามามีบทบาทอย่างโดดเด่นอีกครั้งในการให้การฟื้นฟูสุขภาพของมารดาหลังคลอดและคาดว่าจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปในอนาคต
ที่มา : นพท.สิรินทิพย์ วิชญวรนันท์ |