Follow us      
  
  

สยามกีฬา [ วันที่ 11/11/2563 ]
ไทยเจอผู้ติดใหม่4 ยอดทั่วโลก51ล้าน อียูจ่อลงนามไฟเซอร์ วัคซีนใช้ได้ผล90%

"ศูนย์ข้อมูล COVID-19" รายงาน "ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19" วันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อราย ใหม่เพิ่ม 4 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,844 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 60 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,670 ราย ด้านสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีน ต้านไวรัสโควิด-19 จำนวนหลายร้อยล้านโดสของ บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ หลังมีข่าวว่า วัคซีนดังกล่าวมี ประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัส โควิด-19
          ติดเชื้อเพิ่ม4รายพบในประเทศ1 คน
          เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,844 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสีย ชีวิต 60 ราย รักษาหายเพิ่ม 9 ราย รวมผู้ป่วยที่ รักษาหายแล้ว 3,670 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 114 ราย
          ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย เป็นคนไทย 1 ราย สัญชาติอเมริกัน 1 ราย อินเดีย 1  ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จากสหรัฐอเมริกา 1 ราย อินเดีย 1 ราย สวีเดน 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (Alternative State Quarantine)นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อสัญชาติฮังการี 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศไทย อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 63
          สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 51,239, 330 ราย อาการรุนแรง 93,641 ราย รักษาหายแล้ว 36,052,073 ราย เสียชีวิต 1,269,120 ราย 5 อันดับประเทศที่มีผู้ ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 10,421,956 ราย 2. อินเดีย จำนวน 8,591,075 ราย 3. บราซิล จำนวน 5,675,766 ราย 4. ฝรั่งเศส จำนวน1,807,479 ราย 5. รัสเซีย จำนวน 1,796,132 ราย ขณะที่ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 149 จำนวน 3,844 ราย
          เปิดไทม์ไลน์ทูตฮังการี
          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรค ติดต่อทั่วไป กล่าวในการแถลงข่าวกรณีสืบเนื่องจากการที่ประเทศไทยตรวจพบ รมต.ฮังการี ติดเชื้อ โควิด-19 ระหว่างเดินทางมาเยือนประเทศไทย ว่ารมต.ฮังการีที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 นั้น เดินทางมาถึงไทยประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 3 พ.ย.เดินทางโดยรถยนต์ไปยังโรงแรมที่กักตัว มีการพูด คุยกันในรถ และรับประทานอาหาร ร่วมกับคณะที่ห้องอาหาร
          วันที่ 4 พ.ย. ผล PCR ของรัฐมนตรีฮังการี พบเชื้อโควิด-19 ผู้ติดตาม 12 คน ไม่พบเชื้อ จากนั้นทางการฮังการีจึงส่งเครื่องบินมารับกลับประเทศ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นมีการสอบสวนโรค และให้กักตัวผู้สัมผัสทั้งหมด 17 คน
          ผลการตรวจหาเชื้อครั้งแรกพบว่าผลก็ พบว่า 16 ราย ให้ผลเป็นลบ อีก 1 รายให้ผลเป็นบวก แปลว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 เป็นชายอายุ 57 ปี ตรวจสอบประวัติพบว่าอยู่บนรถคันเดียวกันกับ รมต.ฮังการีซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีการรับประทานอาหารร่วมกันประมาณ 30 นาที ขณะนี้ถูกส่งตัวมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ไม่มีใข้ ไม่มี อาการ และไม่มีใครสัมผัสรายนี้เพิ่มเติม ส่วนที่เหลืออยู่ในที่กักกันเช่นเดิม
          โดยผู้ป่วยรายนี้ ได้หยุดพักอยู่ที่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 5-8 พ.ย. ระหว่างนี้ วันที่ 8 พ.ย. ประเทศกัมพูชา ตรวจพบเจ้าหน้าที่อารักขารัฐมนตรี ฮังการี ติดเชื้อ 1 ราย จากนั้น วันที่ 9 พ.ย. ตรวจพบเชื้อในเจ้าหน้าที่ทูตประจำประเทศไทย กลุ่มผู้ สัมผัสไม่มีอาการ รับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ผู้สัมผัสใกล้ชิด จำนวน 17 รายตรวจไม่พบเชื้อ
          "ไฟเซอร์"เผยวัคซีนได้ผลเกิน 90 %
          นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานฝ่ายบริหารของไฟเซอร์ ประกาศผลการทดสอบวัคซีนเฟส 3 ขั้นตอนท้าย ในวันจันทร์ร่วมกับบริษัทพันธมิตร BioNTech โดยระบุว่าประสบความสำเร็จมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสของกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครที่เข้าร่วมในการทดสอบ การวิเคราะห์ข้อมูลการทดสอบครั้งนี้จัดทำโดยคณะกรรมการอิสระ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมเกือบ 40,000 คนใน 6 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ
          นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา กล่าวว่าผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถช่วยป้องกันการติดโควิด-19 ในคนส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีน และถือเป็นก้าวสำคัญสำหร้บการทดสอบขั้นต่อไป อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าเฉพาะแค่ผลการทดสอบนี้อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเพิ่มเติม
          ซีอีโอของไฟเซอร์ผู้นี้ชี้ว่า ข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเข็มที่สองและเข็มสุดท้ายในช่วงเวลาเฉลี่ยสองเดือนตามแนวทางที่เอฟดีเอกำหนดไว้นั้น จะสามารถเปิดเผยออกมาได้ในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ก่อนหน้านี้ นายแพทย์แอนโธนี เฟาชี่ แห่งสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่าวัคซีนที่มีอัตราผลสำเร็จในระดับ 70 - 75 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ายอมรับได้
          และในวันจันทร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความแสดงความยินดีต่อข่าวความคืบหน้าด้านวัคซีนของไฟเซอร์ โดยบอกว่าเป็น "ข่าวดีอย่างยิ่ง" และว่า ดัชนีหุ้นต่าง ๆ ต่างดีดตัวสูงขึ้นรับข่าวนี้ ทางด้านว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โจ ไบเดน มีแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อการประกาศของไฟเซอร์เช่นกัน แต่ก็เตือนว่าการต่อสู้กับโควิด-19 ยังต้องดำเนินต่อไปอีกหลายเดือน
          อียูเตรียมลงนามซื้อวัคซีนไฟเซอร์
          นายปีเตอร์ ลีส สมาชิกรัฐสภาอียู ซึ่งเป็นผู้นำด้านสาธารณสุขของอียู กล่าวว่า “ตามข้อมูลที่ผมได้รับมา เราจะมีการลงนามในข้อตกลงในไม่ช้า โดยทางบริษัทจะจัดส่งวัคซีนหลายร้อยล้านโดสให้แก่อียู ถ้อยแถลงของนายลีสมีขึ้น หลังจากที่ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งไฟเซอร์และ BioNTech พัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน
          ไฟเซอร์ และ BioNTech ระบุว่า ผลการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ  “ผมคิดว่าเราสามารถเห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์” นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานบริษัทไฟเซอร์กล่าว
          ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์คาดหวังว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 75% ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว เคยกล่าวว่า หากวัคซีนมีประสิทธิภาพ 50-60% ก็ถือว่ายอมรับได้
          ทั้งนี้ ไฟเซอร์จะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า ก่อนหน้านี้ อียู ได้เสร็จสิ้นการเจรจาในเบื้องต้นกับไฟเซอร์ในเดือนก.ย.เพื่อซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 200 ล้านโดส ขณะที่ได้รับสิทธิซื้อเพิ่มเติมอีก 100 ล้านโดส นอกจากอียูแล้ว สหรัฐ อังกฤษ และญี่ปุ่นก็ได้ประกาศก่อนหน้านี้ในการทำข้อตกลงซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จากไฟเซอร์

 pageview  1205145    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved