Follow us      
  
  

สยามกีฬา [ วันที่ 19/10/2563 ]
เร่งจับ12ผู้หนีโควิดจากพม่าเข้าแม่สอดปลื้มไทยจ่อใช้วัคซีนชาติแรกๆของโลก

  ศบค. เผยสถานการณ์โควิด-19 ในไทยพบป่วยโควิดใหม่ 7 ราย มีทั้งกลับจาก สวีเดน, สหราชอาณาจักร, เบลเยี่ยม และผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ที่จังหวัดตาก โดย จ.ตาก ยังสกัดจับ 12 คนไทย ที่หนีโควิด-19 จากเมียนมาลักลอบนั่งเรือหางยาวข้ามแม่น้ำเมยหวังเข้ามาพักในแม่สอด หวั่นระบาดใหญ่ เร่งนำตัวไปตรวจเชื้อ ขณะที่รัฐบาลแย้มข่าวดี คนไทยมีโอกาสได้รับวัคซีน ต้านโควิด เป็นชาติแรก ๆ ของโลก หลัง สธ. ลงนามกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ผลิตและจัดสรรวัคซีน ส่วนสถานการณ์โควิด-19 รอบโลก ยังน่าห่วง ณ เวลา 17.00 น. (เวลาไทย) ยอดติดเชื้อสะสมทะลุเพดาน 40 ล้านคนแล้ว
          พบป่วยโควิดอีก7ราย
          เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิต-19 ในประเทศประจำวันดังนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 รายแบ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (State Quarantine) 3 ราย คือ สวีเดน 1 ราย, สหราชอาณาจักร 1 ราย และเบลเยียม 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และส่งกลับไปรักษาที่เมียนมา 1 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับ ผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าในประเทศไทยจาก จ.ตาก 3 ราย
          ส่งผลให้ขณะนี้ มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,686 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,450 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 739 ราย ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว เพิ่มขึ้น 3 ราย รวมเป็น 3,481 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 146 ราย ไม่มีผู้เสีย ชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย
          โควิดโลกทะลุ 40 ล้านคน
          สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 ทั่วโลก ตามการรายงานของเว็บไซต์ worldometers รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง วันเดียวเกือบ 4 แสนราย จนยอดป่วยทะลุ 40 ล้านรายไปแล้ว โดยยอดล่าสุด ณ เวลา 17.00 น. (เวลาไทย) ติดเชื้อสะสม 40,006,239 คน เสียชีวิตแล้ว 1,115,202 คน และรักษาหายแล้ว 29,922,911 คน ขณะที่สถานการณ์ การแพร่ระบาดในระดับประเทศสหรัฐอเมริกา มี ยอดติดเชื้อ 8,343,140 คน สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในโลก ตามด้วย อินเดีย 8,343,140 คน, บราซิล5,224,362 คน, รัสเซีย 1,399,334 คน และ สเปน 982,723 คน
          จับคนไทยหนีโควิดจากพม่า
          สถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในประเทศ เมียนมา และประเทศไทยกำลังมีมากขึ้น โดยเฉพาะที่ชายแดนอ.แม่สอด จ.ตาก ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนไม่ทราบสัญชาติแอบซุกซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบท่ามกลางความมืด
          เบื้องต้นพบทั้งหมดเป็นคนสัญชาติไทยเป็นหญิง 11 คน และชาย 1 คน โดยทุกคนเดิน ทางมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวทั้งหมดไปตรวจโควิด-19 อย่างเร่งด่วน ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผล
          ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นคนไทย ทั้งหมดที่ถูกจับกุมให้การเบื้องต้นว่า ได้เข้าไปทำงานในเขตจ.เมียวดี ประเทศเมียนมา แต่ไม่ยอมบอกว่าทำงานชนิดใด และกลัวโควิต-19 ในประเทศเมียนมาที่กำลังระบาด ทั้งหมดจึงว่าจ้างเรือหางยาวในฝั่ง เมียนมานั่งโดยสารลักลอบข้ามแนวชายแดนเพื่อหวัง จะเข้าไปในตัวอ.แม่สอด แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
          ข่าวดีไทยได้ใช้วัคซีนกลุ่มแรก
          น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ ให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนไทย โดยมีความ พยายามผลักดันให้ประชาชนชาวไทยเป็นประเทศแรก ๆ ของโลกที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
          ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ลงนามในหนังสือ แสดงเจตจำนง (Letter of Intent) การผลิตและจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด โดยวัคชีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย อ๊อกซ์ฟอร์ดจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ซึ่งการผลิต วัคซีนนั้น มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด มีการพัฒนา อย่างต่อเนื่อง และมีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยเริ่มทดลองกับมนุษย์แล้ว
          น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับความร่วม มือนี้ ไทยและอ๊อกซ์ฟอร์ด จะใช้โรงงานของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำากัด เป็นแหล่งผลิตวัคชีน โดยการลงนามครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือด้วยการประสาน งานของเอสซีจี ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมงานด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดมายาวนาน
          นอกจากนี้ในหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดยังได้ให้สิทธิประเทศไทยในการจัดจำหน่ายวัคซีนให้แก่ประเทศ ในกลุ่มอาเซียนด้วย แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมี ศักยภาพด้านการสาธารณสุข มีความสามารถที่จะ ใช้เป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งมี ความสำคัญต่อประชากรโลก และจะทำให้คนไทยได้ รับวัคซีนเป็นประเทศแรก ๆ ของโลก
          ขณะเดียวกันจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการวิจัย ซึ่งแสดงถึงความคืบหน้าไป อีกขั้นในการจัดหาวัคซีนวิจัยมาใช้ในประเทศ ซึ่ง จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
          "นอกจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมจัดหาวัคซีนหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็น การจองล่วงหน้าจากต่างประเทศ และสนับสนุนการผลิตวัคซีนภายในประเทศ เพื่อให้ได้วัคซีนอย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ โดยเล็งเห็นว่าวัคซีน มีความสำคัญในการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งยังคงแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลกขณะนี้" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
          น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในการเตรียมความพร้อมเรื่องสาธารณสุขและการรับมือกับโควิด-19 รัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องงบประมาณ ซึ่งนอกจากการจัดสรรวงเงินตามเงินกู้ 1 ล้านล้าน บาท ที่มีการจัดสรรไว้ให้ใช้ด้านสาธารณสุข รวมถึงการพัฒนาวัคซีนวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ยังมีการจัดสรรงบกลางฯ ในปี 2564 อีกประมาณ 4 หมื่นล้านบาท เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย

 pageview  1204989    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved