Follow us      
  
  

ผู้จัดการรายวัน [ วันที่ 06/02/2555 ]
ถกหลักประกันฯเดือดเปิดแผลม.41 แนะสร้างธรรมาภิบาลปลอดการเมืองแทรก
          ASTV ผู้จัดการรายวัน - เวทีเสวนาทางแพร่งระบบประกันสุขภาพเดือด แพทย์ชนบทเอ็นจีโอ ค้านตั้งบอร์ด สปสช.สุดลิ่ม จับตาแก้ไข ม.41 ด้าน "จุรินทร์" ชี้หากจะยุบรวมระบบสุขภาพควรรอบคอบ ขณะที่นักวิชาการเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข เจ้าของรางวัลเจ้าฟ้ามหิดลปี 52 แนะไทยต้องคุมไม่ให้มีนักการเมืองแทรกแซง
          วานนี้  (5 ก.พ.) นพ.วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข  กล่าวในการเสวนา เรื่อง  "ทางแพร่งระบบประกันสุขภาพ ภายใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทยว่าสิ่งสำคัญในการจัดการปัญหาระบบสุขภาพไทย มี 2 เรื่องคือ 1. ปัญหาประสิทธิภาพในการลดการเสียชีวิตของผู้ใหญ่ไม่ดีนัก โดยที่ผ่านมาพบว่าเด็กอายุ 15 ปีจะมีอายุถึง 60 ปีเพียง 80 คนหายไป 20 คน ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วตัวเลขหายไปพบเพียง 2-3 คนเท่านั้นแต่ไทยผ่านมา 20 ปีแล้วก็ไม่ดีขึ้น และ2. ปัญหาผู้สูงอายุ ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ต้องมีความชัดเจนเรื่องนี้ด้วย
          ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติประธานชมรมแพทย์ชนบท  กล่าวว่า ปัญหาคือ บอร์ด สปสช.ชุดนี้มีการเลือกผู้ทรงคุณวุฒิ โดยเฉพาะด้านการเงินการคลังด้านการบริหารยุทธศาสตร์ปราศจากการคิดรอบคอบ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเหมือนในอดีตและที่น่าจับตามองคือ การทำงานของบอร์ด สปสช.ชุดนี้ คือ ในการประชุมบอร์ด ในวันที่ 6 ก.พ. จะมีประเด็นเรื่องแก้ไขมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 กรณีขยายวงเงินชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข รวมทั้งให้ครอบคลุมไปยังผู้ประกันตน และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ จากเดิมคุ้มครองเพียงผู้มีสิทธิบัตรทองเท่านั้น ตรงนี้ต้องระวังเพราะจะเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ เนื่องจากการแก้ไขมาตรา 41 มีข้อเสนอให้ปรับเพิ่มวงเงินกรณี เสียชีวิตจาก 2 แสนบาทเป็น 2 ล้านบาทและห้ามผู้ป่วยฟ้องร้องต่อเด็ดขาด ที่สำคัญการเพิ่มวงเงินตรงนี้จะทำให้จากเดิมกองทุนมีงบชดเชยตามมาตรา 41 ที่ 100 ล้านบาทเพิ่มเป็น 2 พันล้านบาทด้วย ส่วนการกลับมาเก็บ 30 บาทนั้น โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ช่วยให้ระบบดีขึ้นแต่อย่างใด
          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรมว.สธ. และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าในเรื่องการจัดการระบบสุขภาพไทยนั้นสธ.ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะหากจะยุบรวมแล้วผิดพลาด ก็จะพังทั้งระบบ  แต่หากไม่ยุบรวมก็ต้องมีการระบุมาตรฐานการรักษาขั้นต่ำหรือขั้นพื้นฐานเท่ากัน
          ขณะที่ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สธ.กล่าวว่า เรื่องบอร์ด สปสช.ยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างใคร ส่วนเรื่องร่วมจ่าย 30 บาท ตอนนี้ยังไม่ได้เรียกเก็บ อยู่ระหว่างการศึกษาว่าหากเก็บแล้วจะมีคุณภาพ มีการบริการหรืออะไรเพิ่มขึ้นบ้าง ไม่ใช่เก็บลอยๆ หรือเก็บเพราะจะช่วย รพ.ในสังกัด สธ.ขาดทุนตนไม่ได้มองแค่นั้น ตนมองการทำงานจริงๆและประสิทธิภาพของระบบมากกว่า
          นายวิทยา กล่าวต่อว่า กรณีที่จะมีการประชุมบอร์ด สปสช.จะมีการหารือประเด็นมาตรา 41 ในวันที่ 6 ก.พ. นี้ ไม่ได้ฟันธงว่าจะแก้ไขมาตรานี้เพื่อขยายความคุ้มครองหรือขยายวงเงินชดเชยค่าเสียหายทางสาธารณสุขให้แก่ผู้ประกันตนและข้าราชการ แต่เป็นเพียงการหารือว่าสามารถปรับปรุงได้มากน้อยแค่ไหน
          ขณะที่ ศ.แอน มิลล์ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณสุขมหาวิทยาลัยลอนดอน สหราชอาณาจักรเจ้าของรางวัลเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2552 กล่าวถึงระบบหลักประกันสุขภาพของไทยว่า  สิ่งที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินการต่อไปในอนาคต คือ การสร้างระบบให้มีธรรมาภิบาลที่ปราศจากการแทรกแซงและป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนของกลุ่มทุนกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ รวมถึงการเมืองที่พยายามเข้ามาแทรกแซงจนทำให้ระบบบิดเบี้ยวไป ควรเพิ่มบทบาทตัวแทนของภาคประชาสังคมและภาคชุมชน และควรแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มิได้มาจากราชการเพิ่มขึ้นเพื่อให้การตัดสินใจต่างๆ อิงกับหลักฐานเชิงประจักษ์มากขึ้น
 pageview  1205101    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved