Follow us      
  
  

ผู้จัดการรายวัน [ วันที่ 28/09/2564 ]
เปิดโรงหนัง-เล่นดนตรีร้านอาหาร ลดเคอร์ฟิว4ทุ่ม-ตี4

  1พ.ย.รับนักท่องเที่ยวอีก10จังหวัด เปิดโรงหนัง-เล่นดนตรีร้านอาหาร ลดเคอร์ฟิว4ทุ่ม-ตี4
          ผู้จัดการรายวัน360 - ศบค.เคาะขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน ถึง 30 พ.ย. ปรับเคอร์ฟิวใหม่ 4 ทุ่ม-ตี 4 ผ่อนคลาย 9 กิจการ เปิดร้านทำเล็บ ร้านสัก นวดสปา โรงภาพยนตร์ เล่นดนตรีในร้านอาหาร เลื่อนเวลาปิดห้าง ร้านสะดวกซื้อ 1 ต.ค.นี้ เพิ่มอีก 10 จังหวัดรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ 1 พ.ย. อนุมัติปี 65 จัดหาวัคซีนอีก 120 ล้านโดส ส่วนยอดติดเชื้อใหม่ลดต่อเนื่องเหลือ 10,288 ราย ตาย 101 "อนุทิน" เผย ไฟเซอร์บริจาค อยู่ในขั้นตอนเอกสาร ย้ำคนจะให้ เขาก็ให้เอง "บิ๊กตู่" สั่งเร่งเปิดทางขาย ATK ร้านค้าทั่วไปออนไลน์ ให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ซีอีโอไฟเซอร์คาดโลกกลับมาใช้ชีวิตปกติภายใน 1 ปี แต่ต้องฉีดวัคซีนซ้ำทุกปี
          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้เห็นชอบปรับมาตรการสำหรับกิจกรรมและกิจการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ที่สามารถเปิดให้บริการได้จำนวน 9 กิจการ ได้แก่ 1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 2.ห้องสมุด 3.พิพิธภัณฑ์ 4.ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หรือหอศิลป์ 5.ร้านทำเล็บ 6.ร้านสัก 7.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวด สปา) แต่ยังไม่เปิดบริการอบไอน้ำ 8.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 21.00 น. 9.การเล่นดนตรีในร้านอาหารเปิดดำเนินการได้ ให้เริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ต.ค.2564 แต่ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์การประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ยังไม่เปิดดำเนินการ
          ทั้งนี้ ยังได้ปรับมาตรการในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยการห้ามออกนอกเคหสถาน ปรับเป็นเวลา 22.00-04.00 น. อย่างน้อย 15 วัน จากเดิม 21.00-04.00 น. ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า เปิดได้ถึง 21.00 น. โดยเปิดสถาบันกวดวิชาได้ รวมถึงโรงภาพยนตร์ สปา ห้องออกกำลังกาย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ แต่ไม่เปิดตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยง ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด เปิดได้ถึง 21.00 น. กีฬากลางแจ้ง หรือในร่มที่อากาศถ่ายเทสะดวก เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. และเปิดให้ใช้สนามซ้อมกีฬาได้ทุกประเภท ถึง 21.00 น.
          อย่างไรก็ตาม  ยังคงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 11 จังหวัด
          นอกจากนี้ ได้เห็นสมควรให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักรเป็นครั้งที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.- 30 พ.ย.2554 เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่การใช้พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการอีกระยะหนึ่ง
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.ยังได้เห็นชอบมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยปรับลดระยะเวลาการกักตัวเริ่มวันที่ 1 ต.ค.2564 ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ กรณีมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ครบเกณฑ์อย่างน้อย 14 วัน ลดกักตัวหรือเข้าพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างน้อย 7 วัน ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง กรณีไม่มีเอกสารรับรอง หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ ถ้าเดินทางมาทางน้ำ กักตัว 10 วัน ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง และทางบก 14 วัน ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง
          ขณะเดียวกัน ได้เปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เขาหลัก เกาะยาว จ.พังงา และเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก จ.กระบี่ และแนวทาง เปิดพื้นที่เพิ่มเติม 10 จังหวัด เริ่ม 1 พ.ย.2564 ได้แก่ กรุงเทพฯ จ.กระบี่ จ.พังงา (ทั้งจังหวัด) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก) จ.เพชรบุรี (ชะอำ) จ.ชลบุรี (พัทยา บางละมุง จอมเทียน บางเสร่) จ.ระนอง เกาะพยาม จ.เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า จ.เลย (เชียงคาน) และ จ.บุรีรัมย์ (เมือง)
          พิจารณาสูตรฉีดไขว้ซิโนฟาร์ม
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.ยังได้หารือถึงการใช้วัคซีนซิโนฟาร์มสูตรไขว้ โดยอาจจะใช้หลักการเดียวกันกับวัคซีนซิโนแวค ได้แก่ 1.วัคซีนซิโนฟาร์ม+ วัคซีนไฟเซอร์ ระยะห่างเข็ม 3 สัปดาห์ 2.วัคซีน ซิโนฟาร์ม+วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ระยะระหว่างเข็ม 3-4 สัปดาห์ 3.วัคซีนซิโนฟาร์ม+วัคซีนซิโนฟาร์ม กระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป หลังเข็มที่ 2 และ 4.วัคซีนซิโนฟาร์ม+วัคซีนซิโนฟาร์ม กระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป หลังเข็มที่ 2 แต่ยังไม่ได้กำหนดเป็นสูตรหลักของประเทศ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนอนุญาตโดย อย. และความสมัครใจของผู้รับวัคซีน
          จัดหาวัคซีนปี 65 จำนวน 120 ล้านโดส
          ส่วนวัคซีนที่จะเข้ามาในปี 2564 มีจำนวน 178.2 ล้านโดส โดย ก.ย.เข้ามาแล้ว 16.3 ล้านโดส ทั้งที่ซื้อและบริจาค และซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส เดือน ต.ค. มีซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 16 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 6 ล้านโดส เดือน พ.ย. แอสตร้าเซนเนก้า 13 ล้านโดส ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 12.5 ล้านโดส เดือน ธ.ค. แอสตร้าเซนเนก้า 14 ล้านโดส ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 12.5 ล้านโดส และโมเดอร์นา 2 ล้านโดส
          สำหรับเป้าหมายการฉีดวัคซีนปี 2564 จะให้ครอบคลุมผู้ได้รับเข็ม 1 อย่างน้อย 70% ภายใน พ.ย. และอย่างน้อย 80% ภายใน ธ.ค.2564 เข็ม 2 อย่างน้อย 70% ภายใน ธ.ค.2564
          ส่วนปี 2565 มีแผนจัดหาวัคซีนรวม 120 ล้านโดส เป็นแอสตร้าเซนเนก้า 60 ล้านโดส กำหนดส่งมอบไตรมาสที่ 1-3 จำนวน 5 ล้านโดส 30 ล้านโดส 15 ล้านโดส ตามลำดับ สามารถเปลี่ยนเป็นวัคซีน Gen 2 ได้ เมื่อวิจัยแล้วเสร็จ ไฟเซอร์ จำนวน 30-50 ล้านโดส ส่งมอบไตรมาส 1-4 จำนวน 7.5 ล้านโดส 7.5 ล้านโดส 17.5 ล้านโดส 17.5 ล้านโดส ตามลำดับ สามารถเปลี่ยนเป็นวัคซีน Pediatric vaccine หรือ adapted vaccine ได้ เมื่อวิจัยแล้วเสร็จ และวัคซีนตัวอื่นๆ 10-30 ล้านโดส
          พบผู้ติดเชื้อใหม่ 10,288 ราย ตาย 101
          วันเดียวกันนี้ ศบค. ได้รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ พบว่า ติดเชื้อใหม่ 10,288 ราย แยกเป็นติดเชื้อในประเทศ 10,149 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ ที่ต้องขัง 127 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 12,494 ราย หายป่วยสะสม 1,435,401 ราย (ตั้งแต่ปี 2563) อยู่ระหว่างรักษาตัว 120,156 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 33,759 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 86,397 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 3,341 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 728 ราย มี ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 101 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 16,369 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563) ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,571,926 ราย ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 28 ของโลก
          ไฟเซอร์บริจาคกำลังเตรียมเอกสาร
          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ 12-17 ปี วัคซีนจะเข้ามาในวันที่ 29 ก.ย.2564 กว่าจะเริ่มฉีดได้ ก็เป็นต้นเดือนต.ค. เป็นต้นไป เพราะกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องไปทำการตรวจสอบก่อน ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ จะบริจาคให้ไทยอีก 1 ล้านโดส จาก 2.5 ล้านโดส และมาถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส สถานทูต สหรัฐฯ เพิ่งออกแถลงการณ์ว่ากำลังจัดเตรียมเอกสารอยู่ เป็นเพียงเจตนารมณ์ที่สหรัฐฯ จะมอบให้ ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ไม่มีเรื่องล่าช้า และไทยไม่สามารถทวงได้ เพราะผู้ให้ไม่ได้มีพันธะผูกพันอะไร คนเขาจะให้ เขาก็ให้เอง อย่างแอสตร้าเซนเนก้า ที่ญี่ปุ่นให้ 4 แสนกว่าโดส ติดต่อไม่ถึง 2 สัปดาห์ ทุกอย่างมาถึงไทยแล้ว และได้รับบริจาคชุด ATK จากสิงคโปร์ และวัคซีนแอสตร้าฯ ที่ยืมมาก่อน ก็ใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์
          เปิดทางขาย ATK ตามร้านค้า-ออนไลน์
          นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทั่วไป รวมไปถึง ผู้ประกอบการขายสินค้า บริการรายย่อย สามารถเข้าถึงชุดตรวจเร็ว ATK ได้อย่างทั่วถึงในราคาที่เหมาะสม หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีมติเห็นชอบให้จำหน่ายชุดตรวจ ATK ตามร้านค้าทั่วไป จากเดิมที่อนุญาตให้ขายเฉพาะ ร้านขายยา ที่มีเภสัชกรประจำร้าน โดยประชาชนทั่วไปสามารถรับสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าถูกต้องจาก อย. เพื่อนำมาขาย ได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน รวมถึงการขายผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะได้จัดทำประกาศใช้เพื่อเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
          ซีอีโอไฟเซอร์คาดใช้ชีวิตปกติใน 1 ปี
          นายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไฟเซอร์ ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 กล่าวว่า โลกจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติภายใน 1 ปี และมีแนวโน้มว่าในอนาคตวัคซีนป้องกัน โควิด-19 จะกลายเป็นวัคซีนประจำปี ที่ทุกคนต้องฉีดซ้ำ เพื่อป้องกันโรค
          ทั้งนี้ การแถลงข่าวดังกล่าว สอดคล้องกับนายสเตฟาน บองเซล ผู้บริหารบริษัท โมเดอร์นา ที่เคยระบุก่อนหน้านี้ ว่า การแพร่ระบาดของ โควิด-19 อาจสิ้นสุดลงภายใน 1 ปี เนื่องจากการผลิตวัคซีนเพิ่มขึ้น และรับประกันว่าจะมีจำนวนเพียงพอสำหรับทั้งโลก.

 pageview  1205126    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved