เรื่อง - ชาญณรงค์ บุบผาแดง
          พออายุเริ่มย่างเข้าสู่วัยทอง...สัญญาณที่บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ ริ้วรอยบริเวณใบหน้า และความหย่อนคล้อยของผิวพรรณ หลายคนจึงสรรหาสารพัดวิธีมาดูแลตัวเองให้อ่อนเยาว์และดูมีน้ำมีนวลอยู่เสมอ ทั้งวิธีปรับสมดุลร่างกายตามธรรมชาติ และการหันไปพึ่งเวชศาสตร์การชะลอวัย ตั้งแต่การเข้าคลินิกเสริมความงาม การทานอาหารเสริม และการฉีดเสริม เติม แต่งด้วยสารต่างๆ มุ่งหวังที่จะให้ตนเองมีอายุยืนยาวและปราศจาก รอยหมองคล้ำ แต่ที่ผ่านมา อันตรายและผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยวิธีเหล่านี้ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะให้คุณหรือโทษกันแน่ ฉบับนี้ เราเลยมาไขข้อข้องใจกับ 4 วิธีชะลอความแก่ยอดฮิตว่า จริงๆแล้วนวัตกรรมเหล่านี้ได้ผลจริงหรือ?!?!?!
          วิตามินเสริม
          ปัจจุบันวิตามินอี เอ และซี นิยมนำมาใช้ป้องกันและชะลอความแก่ เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณและการสร้างเนื้อเยื่อที่สำคัญของร่างกาย เช่น วิตามินอี ช่วยป้องกันเนื้อเยื่อและผิวหนังจากการถูกทำลาย วิตามินเอ ช่วยกระตุ้นและควบคุมการเจริญของเซลล์หนังกำพร้า กระดูก และฟัน ส่วนวิตามินซี ช่วยป้องกันผิวหนังจากการถูกทำลายของแสงแดด และยังช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน นอกจากนี้ วิตามินบางชนิดยังสามารถออกฤทธิ์เป็นสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าได้รับสารอาหารเหล่านี้เพียงพอจากการรับประทานอาหารแล้ว คุณอาจไม่จำเป็นต้องทานวิตามินเสริมก็ได้ แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า อาหารที่กินเข้าไป ให้วิตามินเหล่านั้นเพียงพอ เพราะร่างกายต้องการวิตามินซี วันละ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับส้มถึง 14 ลูก วิตามินอี 500IU เท่ากับกินน้ำมันพีนัท 12.5 ช้อนโต๊ะ ซึ่งในชีวิตประจำวันไม่มีโอกาสได้รับอย่างครบถ้วน คุณจึงต้องใช้วิตามินเสริมทดแทนสารอาหารที่ร่างกายขาดไป และก่อนที่คุณจะทานวิตามินเสริมนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้รับในปริมาณที่พอเหมาะ ปลอดภัย และปราศจากผลข้างเคียง
          สเต็มเซลล์
          สเต็มเซลล์เป็นสารที่สกัดจากรกแกะ รกเด็ก หรืออวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ ในวงการแพทย์อนุญาตให้ใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น มะเร็งในเลือด หรือธาลัสซีเมีย  แต่มีหลายคนนำมาใช้ชะลอความแก่ ทั้งสเต็มเซลล์แบบเซรั่มที่ใช้ทาผิวหน้าโดยตรง แบบเม็ดแคปซูล ที่ใช้รับประทาน และแบบน้ำบรรจุหลอดเล็กเพื่อใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ซึ่งสเต็มเซลล์แบบฉีดส่วนใหญ่จะมีคำว่า "PLACENTA" หรือ "รกในครรภ์"  อย่างไรก็ตาม ได้มีการศึกษาวิจัยสเต็มเซลล์มานานหลายสิบปี ว่ายังไม่มีการยืนยันว่าสามารถใช้สเต็มเซลล์บำรุงผิวพรรณและชะลอความแก่ได้ โดยเฉพาะการนำมาใช้แล้วทำให้ผิวหน้าตึงหรือเปล่งปลั่ง ลดความหมองคล้ำ โดยที่ผ่านมาเคยมีการทดลองใช้สเต็มเซลล์ฉีดที่เซลล์ผิวหนัง ปรากฏว่าสเต็มเซลล์แบ่งตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถควบคุมได้ เพราะหากเซลล์เหล่านี้เติบโตหรือแบ่งตัวไม่หยุด จะกลายเป็นมะเร็งตรงบริเวณที่ฉีดเข้าไป หากเป็นที่ใบหน้าอาจทำให้ใบหน้ามีก้อนเนื้อตะปุ่มตะป่ำหรืออวบอูมขึ้นมาได้ฮอร์โมนทดแทน
          ปกติร่างกายของคนเราจะผลิตฮอร์โมนออกมาจากต่อมไร้ท่อซึ่งมีหน้าที่สำคัญที่ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างปกติ เช่น ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต และฮอร์โมนเพศ  ซึ่งฮอร์โมนเพศนี้เองที่เป็นปัจจัยหลักในการยืดอายุความเป็นหนุ่มสาว หากมีการขาดหรือบกพร่องของฮอร์โมนเพศจะทำให้ผู้ชายมีกล้ามเนื้อเล็กลง มีการสะสมของไขมันที่ใต้ผิวหนังมากขึ้น มีปัญหาเรื่องความจำ และสมรรถภาพทางเพศลดลง ส่วนผู้หญิงจะมีอาการร้อนวูบวาบผิดสังเกต เหงื่อออกง่าย หงุดหงิดง่าย รู้สึกว่าคนรอบข้างทำเรื่องไม่ถูกใจบ่อยๆ ซึ่งวิธีแก้อาการเหล่านี้ คือ ปรึกษาแพทย์และตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่ามีความบกพร่องรุนแรงหรือไม่ หากพบว่าภาวะฮอร์โมนบกพร่องแต่ไม่รุนแรงมาก แพทย์จะแนะนำให้รับประทานอาหารเสริม ประกอบกับออกกำลังกายอย่างเหมาะสม แต่ถ้าพบว่ามีภาวะฮอร์โมนบกพร่องรุนแรง แพทย์จะแนะนำให้รักษาโดยการให้ฮอร์โมนทดแทน ซึ่งฮอร์โมนที่ใช้ในการรักษาจะเป็นฮอร์โมนจากธรรมชาติที่สกัดมาจากพืช และมีลักษณะทางเคมีเหมือนฮอร์โมนที่ผลิตภายในร่างกายของมนุษย์   เพราะหากซื้อฮอร์โมนมาทานเองจะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฮอร์โมนเริ่มลดลง และลดลงในระดับมากน้อยเพียงใด และถ้าร่างกายได้รับฮอร์โมนมากเกินไปอาจกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้เร็วขึ้น
          นวัตกรรมทางการแพทย์
          ปัจจุบันมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายที่เข้ามาช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เช่น  การฉีดฟิลเลอร์ เพื่อทดแทนเนื้อเยื่อบริเวณผิวชั้นในที่ขาดหายไปให้มีสภาพปกติ การฉีดโบท็อกซ์ เพื่อจัดการกับริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าให้รอยจางหายไป การทำเลเซอร์ เพื่อแก้ปัญหาผิวที่ลึกถึงชั้นในให้มีความแข็งแรง และการฝังเข็ม เพื่อแก้ปัญหาผิวพรรณที่หย่อนยานให้กลับมากระชับอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ได้รับอันตรายและเกิดอาการแทรกซ้อนจากการใช้นวัตกรรมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เช่น เขียวช้ำ เป็นจ้ำเลือด บวม หน้าไม่เท่ากัน แพ้เป็นผื่นแดง เป็นก้อน จนถึงขั้นรุนแรงขนาดผิวหนังตาย ตามองไม่เห็น หรือถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้น ผู้ที่อยากฉีดสารเติมเต็มควรพิจารณาศึกษาหาข้อมูล ทั้งสถานที่ที่จะรับบริการ สารที่แพทย์จะฉีดให้ และบุคลากรแพทย์ที่ฉีดด้วย ถึงแม้ว่าผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจะพบได้ไม่บ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมีอันตรายเป็นอย่างมาก
          ถ้าคุณเป็นคนนึงที่กำลังตัดสินใจใช้ 4 วิธีนี้มาช่วยเพิ่มความหนุ่ม  กระตุ้นความสาวแล้วล่ะก็ ต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนซะแล้ว...บ่องตง!