โรคอ้วนยังเป็นปัญหาที่คุกคามสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยทำงาน และวัยกลางคน ซึ่งเป็นวัยที่มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานเริ่มลดลง ไม่เหมือนวัยรุ่นวัยเยาว์
          ดังนั้น การเลือกบริโภคอาหารที่ดี มีไขมันน้อย และ ไม่ละเลยการออกกำลังกาย จึงเป็นเหมือนกุญแจดอกสำคัญ ที่จะไขสู่คุณภาพชีวิตที่ดีและที่สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ รวมถึง อายุที่ยืนยาวขึ้น เมื่อล่วงเข้าสู่สถานะ "ผู้สูงวัย" หน่วยงานราชการและภาคเอกชนต่างเล็งเห็นถึงปัญหาของโรคอ้วน และโภชนาการที่ไร้คุณภาพ ซึ่งเป็นต้นเหตุ นำโรคเรื้อรัง ที่แม้จะมิใช่โรคติดต่อ แต่ก็เป็นโรคเฉียบพลัน หรือโรคที่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากร และเวลาในการรักษา ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง หรือกระทั่งโรคหลอดเลือดหัวใจ
          ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของ โครงการรณรงค์ปรับโฉมรูปแบบของร้านอาหารในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นต้นแบบ ของร้านอาหารที่เสริมสร้างสุขภาพ  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
          หรือ สสส. ร่วมกับ วุฒิสภา และกรุงเทพมหานคร สมาคมภัตตาคารไทย เครือข่ายคนไร้พุง และราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ผนึกกำลังจัด โครงการปฏิวัติร้านอาหาร โดยการสร้างสิ่งแวดล้อมแห่งการบริโภคอย่างถูกสุขลักษณะ และมีคุณภาพ เริ่มต้นจากร้านอาหาร 4 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร ก่อนขยายผลไปยังอีก 8 ภูมิภาคทั่วประเทศ
          คุณสง่า ดามาพงษ์ รองประธานคณะกรรมการเครือข่าย คนไทยไร้พุง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ กล่าวว่า ร้านอาหารต้นแบบแห่งแรกจะเริ่มต้นที่ "ร้านอาหารรัฐสภา" ตามด้วยร้านต้นแบบใน 4 เขตใหญ่ ได้แก่ เขตบางรัก ภาษีเจริญ ราชเทวี และหนองแขม โดยที่ร้านอาหารรัฐสภาจะมีการปรับอาหารจานเดียวที่นิยมรับประทานกันเป็นอาหารชุด โดยมีทั้งน้ำซุปและผลไม้ เพิ่มจากอาหารจานเดียวยอดนิยม อย่าง ผัดกะเพรากุ้ง ผัดไทย และ ข้าวอบสับปะรด
          "เราจะต้องปรุงรสชาติให้กลมกล่อม แต่ลดความหวาน เค็ม และ มันลง โดยแม่ครัวของร้าน ได้รับการอบรมจาก ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ เพื่อให้รู้จักวิธีการปรุงอาหาร และเคล็ดลับในการปรุงเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่นการเลือกใช้น้ำมัน ใช้อุปกรณ์ที่ลดไขมัน อย่างเช่น กระทะเชฟลอน และมีการปรับเปลี่ยนเมนู โดยเพิ่มเมนูมังสวิรัติ และอาหารฮาลาลที่ดีต่อสุขภาพเข้าไปอีกด้วย" คุณสง่า กล่าว
          ทางด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ไม่เพียงแต่คุณภาพของอาหาร เมนู และ วิธีการปรุง จะต้องเอื้อประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น แต่โครงการปฏิวัติร้านอาหารที่เกิดขึ้น จะมีการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าในด้านพลังงาน นั่นคือในแต่ละเมนูอาหารจะบอกปริมาณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับ เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจก่อนเลือกรับประทาน รวมทั้งข้อมูลด้านการออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง และวิธีการดูแลสุขภาพผ่านป้าย หรือแผ่นพับในร้านอาหาร
          นอกจากนั้นบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมภายใน ร้านอาหาร ก็ต้องสะอาด และถูกสุขอนามัย ปราศจากเชื้อโรคและเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับร้านอาหารอื่นๆ ที่จะนำรูปแบบ การจัดการเดียวกันนี้ ไปปรับใช้ในอนาคต
          นี่เป็นรูปแบบของร้านอาหารเพื่อสุขภาพยุคใหม่ ที่ลูกค้าสามารถอิ่มอร่อย และได้รับข้อมูลด้านโภชนาการ และ ด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์กลับบ้าน ด้วยเป้าหมายในการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย การพัฒนาทางการแพทย์ด้วยเครื่องมือ หรือเทคโนโลยีใดๆ ก็ไม่อาจสู้การที่คนไทยรู้จักดูแลสุขภาพของตนเอง
          เริ่มต้นจากการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ เหมาะกับเพศและวัย และความต้องการใช้พลังงานของแต่ ละคน การออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ นั่นเอง