Follow us      
  
  

กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 22/04/2564 ]
ททท.ปรับเป้ารายได้เที่ยวไทยปี64 พิพัฒน์ ถก สธ.เร่งฉีดวัคซีนภูเก็ต

 ก่อนที่ โรคโควิด-19 ระลอก 3  จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างภายในประเทศขณะนี้! การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวทั้งจากตลาดในและตลาดต่างประเทศปี 2564 ไว้ที่ 1.21 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2563 แบ่ง เป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.5 ล้านคน  ซึ่งแม้จำนวนจะลดลง 3% เมื่อเทียบกับ ปีที่แล้ว แต่ด้านรายได้คาดว่าจะ เพิ่มขึ้น 5% เป็น 3.47 แสนล้านบาท  ขณะที่เป้าหมาย ตลาดนักท่องเที่ยวไทย วางไว้ที่ 160 ล้านคน-ครั้ง  เพิ่มขึ้น 77% จากปีที่แล้ว และคาดสร้างรายได้  8.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 92%
          แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน!"ยุทธศักดิ์ สุภสร" ผู้ว่าการ ททท. ออกมา ระบุว่า ททท.อาจจะต้อง "ปรับเป้าหมาย" ตัวเลขการสร้างรายได้ท่องเที่ยวของไทยในปี 2564 อีกครั้ง ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ หลังจากภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 อย่างชัดเจน
          เช่น กรณีโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2" ที่มีจำนวนการค้างสิทธิประมาณ 1.8 แสนสิทธิ ซึ่งยังไม่สามารถเดินทางได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ เป็นการได้รับผลกระทบ ต่อเนื่อง เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็ทำให้ตัวเลขรายได้หายไปในช่วง 2-3 เดือนแรก
          "ททท. คงต้องหารือกับทาง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงภาคเอกชนท่องเที่ยวต่างๆ เกี่ยวกับ การปรับเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวไทย ปีนี้ โดยดูทั้งตลาดในประเทศและ ตลาดต่างประเทศ เนื่องจากการระบาดซ้ำไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศเป้าหมายด้วย เช่น ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่งช่วงนี้ทาง ททท.กำลังวิเคราะห์สถานการณ์กันอยู่"
          อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับผลกระทบ อย่างมาก แต่ ททท.ยังคงยืนยันเดินหน้า แผนทยอย "เปิดประเทศ" เพื่อรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่ผ่านการฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยจะผลักดันให้เป็นไปตาม ไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ก่อนหน้านี้  นอกจากนี้ยังพร้อมสนับสนุนนโยบายการฉีดวัคซีนในประเทศ โดยเฉพาะการฉีดให้แก่บุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งบุคลากรและนักท่องเที่ยว รวมถึงเตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่องเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย หลังการระบาดระลอก 3 เกิดขึ้นในวงกว้าง ทำให้คนไทยกังวล และน่าจะมีผลทำให้กำลังซื้อด้านท่องเที่ยวลดลงตามไปด้วย
          โดย ททท.คาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนเริ่มจองสิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" และ "ทัวร์เที่ยวไทย" ได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.2564 นี้ อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์การระบาดระลอก 3 ด้วย เพราะแม้จะเปิดจองได้ ตามกำหนดเบื้องต้น แต่นักท่องเที่ยวไทยก็ยังไม่สามารถออกเดินทางได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ในหลายๆ จังหวัดมีมาตรการคุมเข้มในการเดินทาง เช่น หากเดินทางมาจากพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด จะต้องกักตัว 14 วัน อาจทำให้หลายคนอาจยังไม่ตัดสินใจเดินทาง ในช่วงเวลานี้
          "ททท.ต้องการเริ่มเปิดจองสิทธิทั้ง 2 โครงการเพื่อให้เกิดการเดินทางจริง แต่ยังต้องดูการระบาดของโควิด-19 ด้วย หวังว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยภายในเดือน เม.ย.นี้ และเกิดการเดินทางได้ในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อให้ ททท.สามารถดำเนินการเปิดให้ประชาชนจองสิทธิทั้ง 2 โครงการได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมระบบร่วมกับธนาคารกรุงไทย"
          ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ส่วนจะเริ่ม วันที่เท่าไรนั้น ยังต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะมีประเด็นเรื่องการเชื่อมต่อ ข้อมูลระบบสแกนใบหน้ากับทางกระทรวงมหาดไทยตามมติของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องเชื่อมต่อให้แล้วเสร็จก่อนถึงจะเคาะวันเปิดจองสิทธิอย่างเป็นทางการได้  ด้านการเปิดให้ผู้ประกอบการ กลุ่มบริษัทนำเที่ยวลงทะเบียน เข้าร่วมโครงการทัวร์เที่ยวไทย คาดว่าน่าจะเริ่มต้นได้ภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้
          "และเนื่องจากโควิด-19 ระลอก 3 กระทบต่อตลาดไทยเที่ยวไทย ในช่วงไตรมาสที่ 2 ททท.คาดว่า น่าจะยืดหยุ่นเรื่องระยะเวลา ดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย เพื่อเพิ่มระยะเวลาการเดินทางได้ สามารถขยาย ระยะเวลาได้ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2564" ผู้ว่าการ ททท.กล่าว
          แต่ทั้งนี้จะต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นหลัก จากเดิมวางกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของ ทั้ง 2 โครงการในวันที่ 31 ส.ค.นี้ และต้องเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ด้าน พิพัฒน์ รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก ผู้ว่าการ ททท. ถึงผลการหารือ ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะเรื่องการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ในประเทศไทย นำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ผ่านโครงการแซนด์บ็อกซ์ตามเป้าหมายเดิม เริ่มวันที่ 1 ก.ค.2564
          "กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังยืนยันตามแผนเดิมว่าจะผลักดันเรื่องนี้ต่อไป โดยภายในสัปดาห์นี้จะหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอให้จัดสรรวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตอย่างน้อย 70-80% ของจำนวนประชากรทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวนวัคซีนประมาณ 9.5 แสนโดส ตามเป้าหมายภายในเดือน มิ.ย.นี้" ทั้งนี้ตามเป้าหมายของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้กำหนดแนวทางการเปิดจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่องในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย แม้ว่าจะชะลอจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งใจจะดึงเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะติดปัญหาการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 แต่ยังยืนยันว่าจะเร่งเปิดให้ได้ในเดือน ก.ค.นี้ ผ่านโครงการแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งมีการจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวตามกำหนด (Sealed Route) ขึ้นมา รองรับ
          "การเดินหน้าโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ยังคงเหมือนเดิม เพราะตอนนี้นายกฯมองว่าเรื่องการ ฟื้นประเทศและฟื้นการท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญ นอกเหนือจากการออกมาตรการเยียวยาและการ กระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆ ออกมา"รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว

          กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะหารือกับนายอนุทินเพื่อขอให้จัดสรรวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตอย่างน้อย 70-80% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

 pageview  1204961    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved