Follow us      
  
  

กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 07/01/2563 ]
สธ.ยกระดับขั้น 2 เฝ้าระวัง โรคปอด ท่องเที่ยวไม่กระทบ

"กรมควบคุมโรค" ยกระดับ มาตรการเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบ ขั้นที่ 2  สร้างความมั่นใจ ด้าน "สธ." ชี้ผลตรวจยัน 4 ผู้ป่วย เฝ้าระวัง ไม่ติดเชื้อไวรัสจีน  "อนุทิน" มั่นใจมาตรการไทยพร้อมสกัดโรค ขณะ "แอตต้า" ชี้ ยังไม่กระทบท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน อย่าตระหนก เกินเหตุ เหตุ "ฮู" ยังไม่ประกาศห้ามคนจีนเดินทาง นอกประเทศ ขณะ ทอท.เข้ม คัดกรอง สนามบิน
          จากกรณีเกิดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบลึกลับในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย์ ทางตอนกลางของจีน ทำให้มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 59 คน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่แล้วและคณะกรรมการด้านสาธารณสุขเมืองอู่ฮั่นได้ระบุว่า เชื้อที่ทำให้เกิดการป่วยนั้น ไม่ใช่ทั้ง ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก เชื้อไวรัสอะดีโน โรคซาร์ส หรือโรคเมอร์ และผลการตรวจสอบแกะรอยเส้นทางของโรคในเบื้องต้นพบว่า อาจมาจากตลาดจำหน่ายอาหารทะเลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น นั้น
          ล่าสุด วานนี้ (6 ม.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังการตรวจเยี่ยมห้อง ผู้ป่วยแยกโรคติดเชื้อความดันลบ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค (คร.) ว่า ขณะนี้ มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สงสัยต้องเฝ้าระวัง 4 ราย เนื่องจากมีอาการไข้และประวัติเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงคือ เมืองอู่ฮั่น จึงได้ นำตัวเข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร อย่างไรก็ตาม อาการทั่วไปดีขึ้น และผลการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) เบื้องต้น พบว่าเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสจีน รอสังเกตอาการในห้อง แยกโรคของสถาบันฯ และส่งตรวจยืนยัน เชื้อในห้องแล็บซ้ำอีกครั้ง และรอจนกว่า จะพ้นระยะแพร่เชื้อ จึงจะอนุญาตให้ กลับบ้านได้
          "ยืนยันว่าไม่มีโรคระบาดที่เป็นไวรัสจีนเข้ามาในไทยแต่อย่างใด ส่วนการเดินทางไป เมืองอู่ฮั่นเพื่อทำธุรกิจ ก็ไปได้ แต่ให้ระมัดระวังตัวเองไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง  ส่วนคนที่เดินทางกลับมาจากเมืองที่เป็นพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว หากมีอาการไข้ ให้โทรปรึกษาได้ที่สายด่วน 1422 หรือเข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร"นายอนุทินกล่าวและว่า
          สิ่งที่สธ.กังวลคือความไม่เข้าใจและการได้รับข่าวสารที่ไม่ถูกต้องของสาธารณชน เพราะหากกระจายข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกไป จะกลายเป็นความตื่นตระหนกจนเกินไป" นายอนุทิน กล่าว
          ยกระดับเฝ้าระวัง"ขั้น2"
          ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้ยกระดับ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center, EOC) เป็นขั้นที่ 2 ซึ่งหมายความว่าไทยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการบริหารจัดการและการประสานงาน ซึ่งการยกระดับพิจารณาจาก 1.แนวโน้มผู้ป่วยมีมากขึ้น โดยประมาณวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยประมาณ 27 ราย แต่พอถึงวันที่ 3 ม.ค. 2563 พบผู้ป่วย 44 รายในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการรุนแรง 11 ราย ที่สำคัญคือ มีผู้ที่มีอาการที่อยู่ในกลุ่มที่ทางการจีนยังเฝ้าระวัง และแยกกักอีก 121 ราย 2.พบผู้ป่วยในพื้นที่อื่น คือ ฮ่องกง พบผู้ป่วย 7 ราย และสิงคโปร์ ก็พบผู้ป่วยแต่เป็นผู้ป่วยเข้าข่าย เป็นต้น และ3.ไวรัสที่แพร่ระบาดอยู่นั้นยังไม่ทราบว่าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนหรือไม่ จึงมีข้อสงสัยว่าจะมีการติดต่อจากคนสู่คนหรือไม่
          อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า ไทยมีการรับมือกับโรคอันตราย โดยการวางแผนไว้ 3 ระบบ คือ 1.ช่องทางเข้าออกทั้งทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ 2.สถานพยาบาล โดยหากผู้ป่วยหลุดไปจากช่องทางแรกก็จะพบผู้ป่วยที่สถานพยาบาล โดยได้ประสานสถานพยาบาลของรัฐทุกระดับและรพ.เอกชนให้มีความเข้าใจและแจ้งกรณีพบผู้ป่วยสงสัยให้สธ.ทราบ และ3.ชุมชนต้องให้ความร่วมมือ ทั้งผู้ประกอบกิจการโรงแรม บ้านพัก โฮมสเตย์ หากสงสัยให้แจ้งมายังกรมควบคุมโรค หรือสายด่วนโทร 1422
          เร่งคัดกรองนักท่องเที่ยว
          นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ไทยมีประสบการณ์ในการรับมือกับโรคระบาดมาหลายครั้งในอดีตและได้ผลดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น SARS หรือ ไข้หวัดนก จึงไม่น่า วิตกกังวล  โดยเฉพาะปลายเดือนม.ค.นี้ ที่จะเป็นช่วงตรุษจีน
          สำหรับพื้นที่มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน มีเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่นเข้าประเทศไทยจำนวน 58 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คิดเป็น 8,144 ที่นั่ง
          "แอตต้า"แจงอย่าตระหนก
          นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยัง ไม่ได้รับผลกระทบกับเกิดการโรคปอดอักเสบ เพราะรัฐบาลจีนและองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่ออกประกาศเตือนว่าเป็นโรคอันตรายร้ายแรงจนต้องห้ามคนจีนเดินทางออกนอกประเทศ จึงยังไม่ได้รับผลกระทบ
          "แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าระวัง ไม่ประมาท มีมาตรการติดตามดูแล นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน จึงยังไม่กระทบกับการท่องเที่ยวไทย ตนไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกจนเกินไป"
          คาด"ตรุษจีน"มาไทย1ล้านคน
          เขายังกล่าวว่า ในปีนี้เทศกาลตรุษจีนมาเร็วขึ้นขยับมาในเดือนม.ค.จากปีก่อนอยู่เดือนก.พ. คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในเดือนม.ค.ปีนี้ถึง 1 ล้านคนใกล้เคียงปีก่อนโดยภาพรวมท่องเที่ยวไทยในปีนี้น่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากขึ้น หรือเติบโต5% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีประมาณ 11ล้านคน และสามารถเพิ่มได้5แสนถึง1ล้านคน ถ้ารัฐบาลมีมาตรการดูแลค่าเงินบาทไม่แข็งค่ามากไปกว่านี้
          ไทยแอร์ฯแจงไม่พบอาการน่าสงสัย   นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ขณะนี้แอร์เอเชียยังไม่พบผู้โดยสารที่มีอาการน่าสงสัยดังกล่าว
          ทอท.เตรียมมาตรการโรคปอด
          นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.กล่าวว่าตามที่มีการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคปอดอักเสบ ซึ่งทอท.บริหารสนามบิน 6 แห่งของไทย ได้แก่ สุวรรณภูมิดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
          ขณะนี้ ทอท.กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ขอความร่วมมือให้ลงจอดตามจุดที่กำหนดเฉพาะ ซึ่งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้ตั้งเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อคัดกรองตามขั้นตอนสาธารณสุข ก่อนผู้โดยสารจะแสดงตนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองโดยกรณีพบ ผู้สงสัยป่วยบนเครื่อง สายการบินจะสรุปเหตุการณ์และส่งให้ฝ่ายการแพทย์ของสนามบินตรวจสอบยืนยันก่อนเครื่องบินลงจอดซึ่งจะจำกัดบริเวณผู้โดยสารเที่ยวบินไว้จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายการแพทย์และด่านควบคุมโรค

 pageview  1204954    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved