ห้ามเด็ดขาดหยุดยาเอง/ป้องกันเชื้อดื้อยาหลายขนาน
          นพ.อภิชาติ วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ก.สาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรควัณโรค ขณะนี้มีแนวโน้มลดลง ปีที่ผ่านมามีรายงานผู้ป่วยใหม่และผู้ขึ้นทะเบียนรักษารวม 87,879 ราย ลดจากปี 59 ที่มี 119,000 ราย เสียชีวิต 6,802 รายปัญหาวัณโรคของไทย ขณะนี้แยกเป็น 3 กลุ่มคือ ประชาชนทั่วไปวัณโรคดื้อยาหลายขนาน  และวัณโรคในผู้ติดเชื้อเอชไอวีซึ่งมี 6,798 ราย
          สำหรับในกลุ่มของผู้ป่วยวัณโรคดื้อยานั้น พบในผู้ป่วยรายใหม่ร้อยละ 2 ซึ่งปีที่ผ่านมาพบผู้ป่วย 1,221 ราย บางรายดื้อยาที่ใช้รักษาถึง 4 ขนาน โดยเกิดมาจาก 2 สาเหตุหลัก คือผู้ป่วยกินยาไม่ครบตามสูตรที่แพทย์กำหนด และกินยาไม่ต่อเนื่องโดยมักเกิดขึ้นหลังจากกินยารักษาไปแล้ว 2 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้น ทำให้คิดว่าหายแล้วจึงไม่กินยาต่อ ทำให้เชื้อที่อยู่ในปอดไม่ตาย และพัฒนาตัวเองเป็นชนิดดื้อยา และสามารถแพร่เชื้อชนิดดื้อยานี้สู่คนรอบข้างได้ จากการไอจามโดยเชื้อจะอยู่ในละอองน้ำมูก น้ำลายผู้ป่วย  ส่งผลให้การรักษายุ่งยากขึ้น ต้องใช้ยาที่แรงขึ้นและใช้เวลารักษานานขึ้น อย่างน้อย 20 เดือนและอัตราการรักษาหายขาดมีประมาณร้อยละ 50 เท่านั้น
          ด้าน พญ.ผลิน กมลวัทน์ ผอ.กองวัณโรค กล่าวว่า การป้องกันเชื้อวัณโรคดื้อยาหลายขนานไม่ยาก โดยกินยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง อย่าหยุดยาเองเด็ดขาด ไปพบแพทย์ตามนัดจนกว่าแพทย์จะสั่งหยุดยา ซึ่งยาที่ใช้ในปัจจุบันประสิทธิภาพดีมาก ใช้เวลารักษา 6-8 เดือน หากกินยาครบถ้วน จะหายขาด 100%