Follow us      
  
  

สยามรัฐ [ วันที่ 19/02/2563 ]
ปิดศูนย์กักโรคสัตหีบ อนุญาต138คนไทยในอู่ฮั่นกลับบ้าน

แนะงดเที่ยวญี่ปุ่นจีนสังเวย'ผอ.รพ.'ยอดป่วยทั่วโลกพุ่ง
          เหยื่อตาย-ป่วยติดเชื้อไวรัส "โควิด-19" พุ่งไม่หยุด ล่าสุด ผู้เสียชีวิตทะลุ 1,800 ราย ป่วยเกินกว่า 73,000 ราย"ผอ.โรงพยาบาล"ในอู่ฮั่นเสียชีวิตหลังติดเชื้อไวรัส ส่วน "สุวรรณภูมิดอนเมือง" คุมเข้มยกระดับคัดกรองผู้โดยสารจาก"ญี่ปุ่น-สิงคโปร์" เทียบเท่าจีน ขณะที่ "สธ." แนะคนไทยงดเที่ยว"ญี่ปุ่น"ชั่วคราวเหตุ"ไวรัสโควิด"จ่อระบาดในประเทศครบกำหนดกักโรคอนุญาต "138 คนไทยในอู่ฮั่น"กลับบ้าน-ปิดศูนย์สัตหีบวันนี้
          เมื่อวันที่ 18 ก.พ.63 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานถึงสถานการณ์แพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด-19 พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 1,873 ราย หลังจากมีผู้เสียชีวิตรายใหม่อีก 93 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นผู้ป่วยในมณฑลเหอเป่ย ส่วนผู้ป่วยทั่วโลก มีจำนวนเพิ่มขึ้น เป็น 73,433 ราย จากการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,807 ราย ขณะที่ จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนมีอาการหายดีมียอดสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 12,677 ราย
          ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นพ.หลิว จื้อหมิง ผอ.โรงพยาบาลอู่ฮั่น อู่ฉาง โรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ของมณฑลเหอเป่ย ในภาคกลางของจีน ได้เสียชีวิตหลังติดเชื้อไวรัสโควิด-19
          ขณะที่ นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์มากขึ้น หลัง 2 ประเทศมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการยกระดับอยู่ระดับเทียบเท่าผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศจีน เช่นเดียวกับท่าอากาศยานดอนเมือง ที่มีการยกระดับการคุมเข้มของผู้โดยสาร
          ส่วน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอเตือนคนไทย หากไม่มีความจำเป็นในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นขอโปรดหลีกเลี่ยงการเดินทาง เนื่องจากขณะนี้มีการระบาดของไวรัส โดยทางการญี่ปุ่นประกาศว่า มีผู้ป่วยที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนจีน แสดงว่าอยู่ในการแพร่ระบาดระยะที่ 3 คือ ระบาดภายในประเทศ ดังนั้นประเทศไทยจะให้มีการขยายการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจาก 2 ประเทศนี้ด้วยหากเดินทางมาแล้วมีไข้ จะถือเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค และจับเข้าห้องแยกโรคทันทีเพื่อรับการรักษา หากตรวจวินิจฉัยแล้วไม่ มีไข้ก็จะเช็กประวัติ ตรวจสอบที่อยู่ และติดตามเป็นเวลา 14 วันรวมถึงขยายการดำเนินงานในส่วนเขตสุขภาพที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสนามบิน ท่าเทียบเรือ
          ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยยืนยัน 73,332 ราย เสียชีวิต 1,873 ราย โดยประเทศที่มีการระบาดในวงกว้าง อาทิ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ รวมถึงเวียดนามก็กำลังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นส่วนไทยมีผู้ป่วยสะสม 35 ราย รักษาหายกลับบ้าน เมื่อวันที่ 18 ก.พ.เพิ่มอีก 2 ราย คือนักท่องเที่ยวจีนที่รักษาอยู่ที่ รพ.ราชวิถี 1 ราย และนักท่องเที่ยวจีนที่รักษาที่สถาบันทรวงอก 1 ราย รวมรักษาหาย 17 ราย ยังเหลือรักษา 18 รายส่วนคนที่อาการหนัก 2 รายยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ในรายที่ใส่เครื่องช่วยพยุงปอดนั้นมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น ส่วนรายที่มีวัณโรคร่วมด้วยอาการยังทรงๆ สรุปทั้ง 2 คนยังอาการวิกฤติทีมแพทย์พยายามให้การดูแลเต็มที่ ขณะที่คนไทยซึ่งรับกลับมาจากอู่ฮั่นจำนวน 138 คนนั้น จะครบกำหนดเฝ้าระวังโรคในวันที่19 ก.พ.นี้ ทางทีมแพทย์และฐานทัพเรือสัตหีบอยู่ระหว่างเตรียมการให้กลับบ้านโดยจะมีการเก็บสิ่งส่งตรวจซ้ำอีกครั้งเย็นนี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าการที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านนั้นแปลว่าเป็นคนที่แข็งแรง และเป็นคนที่ไม่น่าจะแพร่เชื้อโรคได้ ขอให้ทุกคนให้การต้อนรับคนไทยเหล่านี้กลับสู่บ้านและในวันนี้ (18 ก.พ.) จะมีการแถลงข่าวปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์นำคนไทยกลับบ้าน อย่างเป็นทางการ ณ ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งครบกำหนด 14 วันการเฝ้าอาการจะอนุญาตให้ญาติเดินทางเข้าไปรับตัวคนไทยทั้งหมดกลับสู่ภูมิลำเนาในเวลา 09.00 น. ส่วนผู้ที่ไม่มีญาติมารับ ทางกองทัพเรือ จะจัดยานพาหนะนำส่งกลับถึงบ้านอย่างครบถ้วน

 pageview  1205006    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved