นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า เทคนิควอยต้า(Vojta Therapy) ใช้แพร่หลายโดยเฉพาะสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งไทยนำมาใช้กับผู้ป่วยเด็กตั้งแต่ปี 56 และใช้กับกลุ่มผู้ป่วยผู้ใหญ่ปี 59 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีปัจจุบันสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ นำมาใช้ดูแลผู้ป่วยโรคระบบกระดูกกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และผู้ป่วยเด็ก เช่น สมองพิการ อัมพาตครึ่งท่อนล่าง อัมพาตทั้งตัว ผู้ป่วยที่มีปัญหากระดูกกล้ามเนื้อ อาทิ กระดูกสันหลังคดคอเอียง ผู้ป่วยแขนขาขาด เด็กพิการแขนขาขาดแต่กำเนิด เป็นต้น
นพ.ศักรินทร์ วงศ์เลิศศิริ ผอ.สถาบันสิรินธรฯกล่าวว่า การบำบัดด้วยเทคนิคนี้จะแตกต่างจากการรักษาแบบกดจุดหรือการบำบัดอื่นๆ รวมถึงนวดกดจุดแบบจีน เพราะใช้วิธีกระตุ้นเฉพาะจุดและเน้นกระตุ้นส่วนประสาทระบบการเคลื่อนไหวที่มีปัญหา ไม่เกี่ยวกับเส้นลมปราณ ซึ่งก่อนรักษาแพทย์จะประเมินและวิเคราะห์ปัญหาที่มีอยู่ เพราะถ้ากดผิดจุดหรือผิดวิธีอาจเป็นอันตราย ประโยชน์จากการฟื้นฟูผู้ป่วยด้วยเทคนิคนี้คือกระดูกสันหลังจะเหยียดและเคลื่อนไหวตามกิจกรรมที่ต้องการ กล้ามเนื้อทำงานได้ปกติ การดูด กลืน เคี้ยว ทำได้ง่ายขึ้นพูด-ออกเสียงง่ายชัดเจนขึ้น หายใจลึกสม่ำเสมอ ผิวหนังมีเลือดฝาด ตื่นและหลับดีขึ้น ลำไส้และกระเพาะปัสสาวะทำงานสม่ำเสมอ และสมดุลในการทรงตัว |