สาธารณสุข : มูลนิธิผู้บริโภคพบร้านไก่ทอดชื่อดังใช้น้ำมันที่ใกล้เสื่อมคุณภาพนำมาใช้ซ้ำ พบสารโพลาร์เกินมาตรฐาน เมื่อบริโภคเข้าไปจะเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง หัวใจวาย มะเร็ง
          ภก.วรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ประชาชนยังไม่มีความรู้เรื่องน้ำมันพืชที่ใช้ทอดอาหารจำนวนมาก จึงนำมาใช้ผิดประเภทโดยนำน้ำมันกลุ่มที่ทนความร้อนไม่ค่อยดีมาใช้ในการทอดซึ่งจะเร่งให้เกิดสารโพลาร์ได้เร็วขึ้น โดยสารดังกล่าวจะก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ โรคหัวใจวาย โรคอัม พฤกษ์หรืออัมพาต
          นอกจากนี้ยังมีสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และบางชนิดมีน้ำหนักเบาจะระเหยเป็นไอ ทำให้ผู้ประกอบอาหารซึ่งสูดดมควัน มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอด
          นายพชร แกล้วกล้า ผู้ ประสานงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลไกคุ้มครองผู้บริโภคความปลอดภัยด้านอาหารภาคประชาชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากการตรวจสารโพลาร์ในร้านขายไก่ทอดชื่อดังหลากหลายแบรนด์ พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีเพียง 1 ร้านเท่านั้นที่มี  สารโพลาร์เกินค่ามาตรฐาน 25% และอีก 3 ร้านที่น้ำมันใกล้เสื่อมสภาพ ดังนั้น ไม่ว่าระดับห้างใหญ่ แฟรนไชส์ใหญ่ หรือระดับชาวบ้าน ก็มีความเสี่ยงพอกัน ซึ่งการรับประทานอาหารทอดนอกบ้านสัดส่วนในการได้รับสารโพลาร์มีถึง 1 ต่อ 3
          ที่น่าห่วงคือ ในร้านประเภทแฟรนไชส์จะไม่สามารถสังเกตน้ำมันได้เลย แต่หากเป็นร้านชาวบ้านทั่วไปสังเกตได้ โดยให้ดูว่าน้ำมันมีสีคล้ำหรือไม่ หากดมกลิ่นแล้วเหม็นหืนแสดงว่ามีการทอดซ้ำมานาน หรือมีจุดดำๆบนเนื้ออาหารที่ไม่ใช่รอยไหม้ ทั้งนี้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับใหม่ เพิ่ม การลงโทษผู้ประกอบการอาหารที่ใช้น้ำมันมีสารโพลาร์เกิน 25% โทษ ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท