พระพยอม กัลยาโณ
          prapayom@watta.co.th
          นึกถึงพุทธสุภาษิตที่เป็นคำสอนบทหนึ่งน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนี้ได้ดีคือ"นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง" หมายความว่า สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
          เรามีความภูมิใจว่าประเทศไทยเรามีทรัพยากรทางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีสาธาร- ณูปโภคที่ดี ถนนหนทางไปไหนมาไหนสะดวก มีน้ำ มีไฟ้ฟ้าที่สว่างพร้อมสรรพ เสียแต่ตรงที่ บ้านเมืองของเราไม่สงบ มีความวุ่นวายลุกลาม ไปกว่าตึกรามบ้านช่องที่แข่งกันปลูกใหม่เสีย อีก นึกดูถ้าเป็นอย่างนี้เรื่อยๆแล้วความสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะความสุขกับความวุ่นวาย คงไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนร่ำรวยมีเงิน มีทองเท่าไร แต่ถ้ามีความวุ่นวายอยู่อย่างนี้ ไม่มีอะไรที่จะบ่งบอกได้ถึงสัญญาณแห่งความสุข ก็เชื่อว่าเราคงต้องทุกข์ทรมานกันต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
          เวลานี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในวงจรที่เรียกว่าหลงอำนาจ หลงประโยชน์กันมาก หากมองไปที่ประเทศ "วานูอาตู" หรือประเทศ "ภูฏาน" ประชาชนเขาไม่ค่อยยึดติดกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ไม่อยากเป็นเศรษฐีที่มีเงินมากๆ ไม่อยากมั่งมีศรีสุขเกินไป และไม่ได้ยึดติดกับจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) แต่ยึดติดกับความสุข ประชาชนในประเทศเขาอยู่กันอย่างสุขสงบ ซึ่งมีความสุขกว่าประเทศที่สมบูรณ์ไปด้วยสิ่งบำรุงบำเรอปรนเปรอชีวิต แต่ไม่มีความสงบ
          ถ้าใครฝึกจิตตานุภาพให้เห็นอะไรแล้วนิ่งสงบได้ไม่หวั่นไหว ไม่คล้อยตามไปเสียทุกเรื่อง นั่นแหละถึงจะเป็นประโยชน์กับมนุษย์อย่างแท้จริง และมนุษย์ก็จะได้อยู่กับความสงบ ไม่ชอบที่จะต่อล้อต่อเถียง ต่อปากต่อความยาวสาวความยืด แล้วจะเป็นคนที่อยู่ได้ดีมีความสุข
          ขอให้มีอำนาจธรรมะ คืออำนาจทางจิตใจที่ฝึกมาดี คือจิตที่ฝึกมาดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ ฉะนั้นลองฝึกจิตให้มีความสงบสุข เพื่อจะได้ไม่ทุกข์ และมีความสุขที่ยาวนานต่อไป
          เจริญพร
          "ถ้าใครฝึกจิตตานุภาพให้เห็นอะไรแล้ว นิ่งสงบได้ไม่หวั่นไหว ไม่คล้อยตามไปเสียทุกเรื่อง นั่นแหละถึงจะเป็นประโยชน์กับมนุษย์อย่างแท้จริง"