น.พ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศฯ กำหนดให้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกตำรับเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.55 เป็นต้นมา และให้ร้านขายยา คลินิกเวชกรรมและสถานพยาบาลที่ไม่ประสงค์จะครอบครอง และไม่มีใบอนุญาตครองครองฯ ส่งยาดังกล่าวคืนแก่ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า ภายในวันที่ 3 พ.ค.55 นั้น อย.จึงเร่งรัดและขอแนะแนวทางปฏิบัติในการส่งคืนยา ดังนี้ แนวทางที่ 1 ติดต่อผู้ผลิต/ผู้นำเข้าผ่านผู้แทนจำหน่ายให้มารับยาคืนโดยเร็วที่สุด แนวทางที่ 2 จัดส่งยาคืนแก่ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า โดยใช้วิธีส่งทางระบบขนส่งทั่วไป เช่น ส่งทางไปรษณีย์ เป็นต้น แนวทางที่ 3 ส่งคืนยาแก่ผู้ผลิต/ผู้นำเข้าโดยตรง โดยส่งคืนที่สถานประกอบการของผู้ผลิต/ผู้นำเข้า โดย อย.ได้จัดสถานที่ในการส่งคืนยาแก่ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า ณ ตึกเงินทุนหมุนเวียนยาเสพติด อย. จ.นนทบุรี ในวันที่ 1-2 พ.ค.55 เวลาราชการ โดยจะมีผู้ผลิต/ผู้นำเข้า มารับคืนยาด้วยตนเอง ผู้ส่งคืนยาสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2590-7341 หรือ 08-9796-1437, 08-4718-7960 ทั้งนี้ ในการขนส่งยาคืนนั้น ให้ผู้ส่งคืนจัดทำเอกสารระบุรายละเอียด ชื่อยาเลขรุ่นที่ผลิต จำนวนที่ส่งคืน แหล่งที่มาของสินค้า เช่น ซื้อมาจากผู้แทนจำหน่ายรายใด สถานที่ที่ส่งของคืน ใส่ไว้ทั้งภายในและภายนอกภาชนะบรรจุ และปิดผนึกให้เรียบร้อยระบุข้อความ "ยาส่งคืน"
          น.พ.พงศ์พันธ์ กล่าวต่อไปว่า หากพ้นกำหนดเวลาจะมีโทษตามกฎหมาย โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ กรณีครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม หรือไม่เกิน 101 เม็ด (โดยประมาณ) สำหรับยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีน ไฮโดรคลอไรด์ เป็นส่วนประกอบ 60 มิลลิกรัมต่อเม็ด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท กรณีครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วเกิน 5 กรัม หรือเกิน 101 เม็ด (โดยประมาณ) สำหรับยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีน ไฮโดรคลอไรด์ เป็นส่วนประกอบ 60 มิลลิกรัมต่อเม็ด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท