Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 30/09/2558 ]
กรมอนามัย ตั้งเป้า พ.ศ.2569 เด็กไทยที่เกิดใหม่ โตไปฟันไม่ผุ
 เมื่อเร็วๆ นี้ กรมอนามัย ได้เข้าร่วมการประชุมทันตแพทย์โลก (FDI World Dental Congress) ประจำปี 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 103 โดยประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพปีแรก ภายใต้แนวคิด Dentisty in the 21 st century หรือวิทยาการด้านทันตกรรมในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดและ วิทยาการใหม่ๆ จากทันตแพทย์ทั่วโลกกว่า 100 คน
          ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย เผยภายหลัง เข้าร่วมการประชุม ครั้งนี้ว่ากรมอนามัยได้ประกาศเป้าหมายว่าเด็กไทย ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ.2569 หรืออีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า เด็กไทย เมื่อโตขึ้นต้องปราศจากรูฟันผุตลอดช่วงชีวิต ซึ่งจากข้อมูลสถานการณ์ปัญหาทันตสุขภาพในประเทศไทยพบว่าในปัจจุบัน คนไทยยังมีปัญหาโรคฟันผุและปริทันต์มาก เด็กไทยมีฟันผุร้อยละ 60 ผู้ใหญ่มีประสบการณ์ฟันผุร้อยละ 80 ทั้งนี้การดำเนินด้านงาน ทันตสาธารณสุขของประเทศไทยที่ผ่านมามีนโยบายสนับสนุนการเข้าถึงบริการทันตกรรมของประชาชน การทำฟันฟรีในชุดสิทธิประโยชน์ของโปรแกรมหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงโครงการฟันเทียมพระราชทาน และโครงการรากฟันเทียมพระราชทาน โครงการรณรงค์ ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ ช่องปากเด็กผ่านอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน การบูรณาการ ในโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว ส่งผลให้ลดโรคฟันผุในเด็กและลดการสูญเสียฟันในผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า โรคในช่องปากเป็น ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สำคัญ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ หลอดเลือด โรคทางเดินหายใจ และโรคเบาหวาน และผู้ป่วยโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคในช่องปากเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะโรคปริทันต์ ทางกรมอนามัยจึงได้ประสานกับกรมควบคุมโรคในการบูรณาการ งานส่งเสริมสุขภาพช่องปากไปพร้อมกับคลินิกคัดกรองโรค เบาหวานและความดันโลหิตสูง ในหน่วยบริการ และชุมชน 40 จังหวัดนำร่อง เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยกรมอนามัยได้ส่งเสริม ให้คนไทยมีพฤติกรรมที่เหมาะสมด้วยหลัก  3 อ. 2 ส. 1 ฟ. คือ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และดูแลทำความสะอาดฟัน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่องปากรวมถึงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังด้วย
          ด้าน รศ.ทพ.ประทีป พันธุมวนิช ประธานฝ่ายวิชาการและวางแผน โครงการประสานความร่วมมือเพื่อสังคมไทยไร้ฟันผุ (The Alliance for a Cavity-Free Future หรือ ACFF) กล่าวว่า "ทางองค์การ อนามัยโลก ( WHO) ได้แนะนำให้ประเทศสมาชิกได้มีการส่งเสริมเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน โดยเฉพาะโรค โดยที่ผ่านมาได้มีการ จัดทำแคมเปญรณรงค์แก้ไขปัญหาโรคฟันผุในหลายประเทศ สำหรับในไทย จัดขึ้นโดยโครงการประสานความร่วมมือเพื่อสังคมไทยไร้ฟันผุ ภายใต้ ความร่วมมือของสำนักทันตสาธารณสุข, สำนักอนามัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ, เครือข่าย ผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย, ภาคีเครือข่าย และ หน่วยงานภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน ได้แก่ คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความสำคัญเรื่องการดูแลรักษาและป้องกันโรคฟันผุ ให้เป็นพันธกิจด้านสาธารณสุขระดับโลก ทั้งนี้เพื่อให้คนไทยจะได้มีสุขภาพฟันที่ดีในทุกช่วงวัยของชีวิต และบรรลุเป้าหมายสำคัญตามที่ ทุกประเทศรวมถึงประเทศไทยได้ตั้งไว้คือ เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี ค.ศ.2026 (หรือ พ.ศ.2569) จะต้องปราศจากรูฟันผุ ครับ"
 pageview  1205094    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved