นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมผ่าน ระบบวีดีโอทางไกล ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 12 จังหวัดในพื้นที่ ที่กระทรวงแรงงานจัดตั้งศูนย์บริการ เบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service ประกอบด้วย จ.เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ขอนแก่น ปทุมธานี สมุทรปราการ กาญจนบุรี สมุทรสาคร ระยอง ระนอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี เพื่ออำนวยความ สะดวกแก่นายจ้างพาแรงงานต่างด้าวมา ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้ กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินการตรวจสุขภาพแรงงาน ต่างด้าว และทำประกันสุขภาพก่อนจะออก ใบอนุญาตทำงานให้แรงงานต่างด้าว ขณะนี้ อยู่ในช่วงที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดเร่งดำเนินการให้แรงงานต่างด้าวมาตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพ บางกลุ่มอาจให้อยู่ภายใต้ระบบประกันสังคม บางกลุ่มอยู่ภายใต้ระบบประกันสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
          นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ได้กำชับให้ โรงพยาบาลในสังกัดที่อยู่ในจังหวัดที่มี ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ 12 จังหวัดดังกล่าว จัดรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์ทาง การแพทย์ในการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่แรงงาน เหล่านี้ แต่ปัญหาที่พบขณะนี้ได้รับรายงานจากทางสาธารณสุขจังหวัดว่า หน่วยงานเอกชนบางหน่วยงานออกไปตรวจร่างกายกลุ่มต่างด้าว ซึ่งไม่ถูกต้อง จึงได้ประชุมเพื่อแก้ปัญหานี้แล้ว โดยจะประสานกับทางกระทรวงแรงงานโดยเร็ว
          นพ.ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า แรงงานต่างด้าวแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มที่กำหนดให้ต้องทำประกันสังคม โดย กลุ่มนี้จะมีค่าตรวจร่างกาย 600 บาท และค่าประกันสุขภาพระหว่างรอสิทธิ์ประกันสังคมซึ่งจะมีผลจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน และค่าส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เป็นเงิน 447 บาท 2.กลุ่มไม่ได้เข้าประกันสังคมเช่น ผู้ติดตาม จะมีค่าตรวจสุขภาพ 600 บาท ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2552 ฉบับเดิม โดยต้องซื้อบัตรประกันสุขภาพ ในราคา 1,300 บาท หากเป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จะต้องซื้อในราคา 365 บาท มีระยะเวลาใช้ 1 ปี ซึ่ง สธ.จะออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับเพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้เป็นแนวปฏิบัติให้ทุกจังหวัดเหมือนกันทั่วประเทศ