นพ.วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังมอบ เกียรติบัตรผลงานเด่นด้านสุขภาพแก่โรงเรียน และผู้ปฏิบัติงาน ในการประชุมวิชาการโรงเรียน ส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติสู่การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ครั้งที่ 5 "สุขภาพเด็กไทยตามแนวพระราชดำริ" ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นหน่วยร่วมสนองงานตามพระราชดำริในโครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนมาตั้งแต่ปี 2533 และโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดารมาตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งกว่า 20 ปีที่ได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้น้ำเสริมไอโอดีน เกลือเสริมไอโอดีน ตรวจคอพอกให้ความรู้เรื่องโรคขาดสารไอโอดีน ทำให้ภาวะคอพอกในนักเรียนจากปี 2535 ร้อยละ 22 จนถึงปัจจุบันปี 2554 ลดลงเหลือร้อยละ 0.5 รวมถึงให้บริการสุขภาพอนามัยแม่และเด็กอายุ 3 ปี ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารได้รับบริการส่งเสริม สุขภาพที่เหมาะสม ได้รับความรู้ด้านอาหาร และโภชนาการ ช่วยให้แม่มีภาวะโภชนาการที่ดี สุขอนามัยดี เด็กเกิดรอดปลอดภัย เติบโตมีพัฒนาเต็มศักยภาพ จากเดิมปี 2538 อัตราตายทารก 26.5 ต่อพันการเกิดมีชีพ ลดลง เหลือ 14.8 ต่อพันการเกิดมีชีพ ในปี 2554 และทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 19 ในพื้นที่ชาวไทยภูเขา ตลอดจน ให้บริการความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและดูแลสุขภาพด้วยตนเองแก่เด็กวัยเรียน เยาวชน และสามเณรโรงเรียนในพื้นที่เป้าหมาย ตามพระราชดำริ
          นพ.วิชัย กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงาน ที่ผ่านมาโดยภาพรวมของภาวะสุขภาพ ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่โครงการตาม พระราชดำรินับว่าดีขึ้นตามลำดับ แต่มีบางกลุ่ม ที่มีปัญหาภาวะโภชนาการ โดยข้อมูลปี 2554 พบว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนมีเด็กปฐมวัยและเด็กปฐมเตี้ย ร้อยละ 8 โรงเรียนพระปริยัติธรรมมีสามเณรเตี้ย ร้อยละ 6 และอ้วน ร้อยละ 11 และศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง (ศศช.) มีหญิงมีบุตรอายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 20 ฝากครรภ์ ร้อยละ 43 คลอดกับหมอตำแย ร้อยละ 72
          นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ได้สนับสนุนให้โรงเรียนตำรวจ ตระเวนชายแดน 178 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วม เป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ปัจจุบันมีโรงเรียน ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร 5 แห่ง ระดับทอง 53 แห่ง