ศิริราชพัฒนาชุดตรวจแอนติเจนจำเพาะต่อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แบบรวดเร็วด้วยหลักการ อิมมูโนโครมาโตกราฟี ให้ผลการทดสอบที่ถูกต้องแม่นยำ ไม่ต้องใช้เครื่องมือในห้องปฏิบัติการ ใช้เวลาทดสอบเพียง 15 นาที สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกของการ ติดเชื้อ หนึ่งเดียวที่ผลิตในประเทศไทยที่ผ่านการประเมินประสิทธิภาพ และอนุญาตให้ผลิตและจัดจำหน่ายจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
รศ.ดร.พญ.อัญชลี ตั้งตรงจิตร หัวหน้าภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ประเทศไทยเริ่มมีภาวะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นวงกว้างตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้การตรวจวินิจฉัยแบบเดิมที่ใช้วิธี RT-PCR เป็นคอขวด แม้เราจะมีห้องปฏิบัติการมาก แต่ก็ต้องใช้เวลาในการทำ เพราะฉะนั้นก็จะมีคนที่รอผลตรวจ ค่อนข้างนาน และมีคนที่ไม่ได้ตรวจค่อนข้างเยอะ
จากปัญหาดังกล่าวนำมาสู่การพัฒนานวัตกรรมชุดตรวจแอนติเจนจำเพาะต่อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แบบรวดเร็ว ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกของการติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็วขึ้น ที่สำคัญ ณ เวลานี้ จะใช้แยกผู้ป่วยออกจากครอบครัว หรือแยกออกจากชุมชน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดได้ โดยที่ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องไปรอคิวตรวจ RT-PCR แล้วกลับมาถึงบ้านก็ยังไม่ทราบผล ซึ่ง ณ เวลาช่วงนั้นอาจทำให้แพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่นๆ รอบตัวได้
รศ.ดร.นิทัศน์ สุขรุ่ง ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า "การพัฒนาชุดตรวจนี้ได้เริ่มดำเนินการออกแบบชุดตรวจ การวางแผน และการพัฒนาน้ำยาตรวจจับไวรัสตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โดยทีมวิจัยจากศูนย์การออกแบบนวัตกรรมชีวการแพทย์ภาควิชาปรสิตวิทยาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดล"
ชุดตรวจแอนติเจนจำเพาะต่อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แบบรวดเร็วของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นชุดตรวจแบบง่าย และรวดเร็ว โดยการตรวจหาโปรตีนจำเพาะต่อเชื้อไวรัส ในตัวอย่างหลังโพรงจมูกของผู้ป่วยทั้งนี้ในการพัฒนาชุดตรวจ คณะผู้วิจัยได้เลือกใช้โปรตีนที่ไม่ผันแปรไปตามสายพันธุ์ซึ่งอยู่ที่ผิวของไวรัส นั่นคือ เลือกใช้โปรตีนที่อยู่ภายในไวรัส โอกาสที่จะผันแปรจึงมีน้อย
ชุดตรวจนี้เป็นแบบบุคลากรทางการแพทย์ใช้ (Professional Use) โดยชุดตรวจนี้มีความไวเชิงวินิจฉัย 96% และความจำเพาะเชิงวินิจฉัย 100% โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือในห้องปฏิบัติการ ใช้เวลาทดสอบเพียง 15 นาที ผ่านการประเมินประสิทธิภาพ และอนุญาตให้ผลิตและจัดจำหน่ายจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว โดยโรงงานผลิต เครื่องมือแพทย์ บริษัท แอฟพิโนม จำกัด เป็นบริษัทผู้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตและจำหน่าย
ศักยภาพในการผลิตชุดตรวจแอนติเจนจำเพาะต่อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แบบรวดเร็วของทางโรงงานผลิต แบบบุคลากรทางการแพทย์ใช้ขณะนี้ 1 แสนชุดต่อเดือน แต่ เนื่องจากปัจจุบันความต้องการใช้ชุดตรวจแบบรวดเร็วเพิ่มสูงขึ้น ในเดือนสิงหาคมโรงงานจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 แสนชุดต่อเดือน
สำหรับชุดตรวจแบบโฮมยูส (Home Use) อยู่ในขั้นตอน ของการยื่นเอกสารและปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามมาตรฐาน อย. เมื่อผ่านการอนุมัติ คาดว่าจะสามารถผลิตได้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ ลักษณะและรูปแบบการใช้จะคล้ายกับชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์ ราคาขายคาดว่าจะอยู่ที่ 250-300 บาท ในกล่องจะบอกวิธีใช้อย่างละเอียด พร้อมป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสภายใน 1 นาที
ชุดตรวจทั้งแบบบุคลากรทาง การแพทย์ใช้ กับแบบโฮมยูส เป็นผลิตภัณฑ์ ตัวเดียวกัน แต่โฮมยูสจะปรับวิธีการเก็บตัวอย่างให้ง่ายกับประชาชนมากขึ้น จากที่ใช้ไม้ swab แหย่โพรงจมูกเข้าไปลึกๆ ให้ถึงหลังโพรงจมูก (Nasopharyngeal swab) ปรับเป็นการใช้ไม้ swab แหย่เข้าไปโพรงจมูกส่วนหน้า ลึกแค่ 2 เซนติเมตร ไม่ต้องลึกเข้าไปในผนัง ข้างใน โดยที่ความแม่นยำในการตรวจจะยังคงเหมือนกันกับชุดตรวจแบบบุคลากรทางการแพทย์ใช้
"วิธีการปกป้องตนเองเบื้องต้น จากเชื้อโควิดคือ ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น หลีกเลี่ยงสถานที่ผู้คนรวมกลุ่มกันจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกบ้าน เว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร หลีกเลี่ยง การใช้มือสัมผัสบริเวณดวงตา ปากและจมูก รับประทาน อาหารที่ปรุงสุกและควรจะแยกสำรับ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ความร่วมมือร่วมใจจากเราทุกคนเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยป้องกันและลดการ แพร่ระบาดของเชื้อโควิดรอบตัวเราได้" รศ.ดร.นิทัศน์ สุขรุ่งกล่าวในที่สุด |