Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 21/07/2564 ]
สปสช.-สสส.จับมือ รพ.ปิยะเวท วางระบบดูแลผู้ป่วยโควิดในชุมชน

 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ รพ.ปิยะเวท สนับสนุนระบบการดูแล ผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home/Community Isolation) โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เข้าเยี่ยมพื้นที่ "นิมิตใหม่เมืองมีน" เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 23 ชุมชนต้นแบบ ซึ่ง ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า มาตรการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation) และมาตรการดูแล ผู้ป่วยโควิดด้วยระบบชุมชน (Community Isolation) เป็นมาตรการเสริมซึ่งนำมาใช้ในพื้นที่ที่เตียงเต็ม
          โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล ที่จะออกแบบให้เหมือนเปลี่ยนบ้านเป็น โรงพยาบาล ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยที่อยู่ ที่บ้านหรือที่ชุมชน จะได้รับการดูแลเสมือนอยู่โรงพยาบาลเพียงแต่เปลี่ยนสถานที่ พร้อมมีแพทย์ดูแล มีอุปกรณ์ ยา อาหารต่างๆ ให้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สปสช.ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลปิยะเวท และองค์กรเครือข่ายภาคประชาชน ในการจัดตั้ง Community Isolation หรือการดูแลตนเองในระบบชุมชนแก่ผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงกว่า 1,200 คน ที่ยังอยู่ในระหว่างการรอเตียง และกลุ่มผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ในชุมชน 23 แห่ง
          ซึ่งผู้ติดเชื้อจะถูกลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในของ รพ.ปิยะเวท และนัดวันเอกซเรย์ปอด โดยทางโรงพยาบาลจะจัดรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ไปตรวจผู้ป่วยในชุมชนเพื่อวินิจฉัยภาวะปอดอักเสบให้เร็วที่สุด และตรวจซ้ำทุก 3 วัน โดยกระบวนการทั้งหมด สปสช.จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยสนับสนุนค่าอาหารวันละ 1,000 บาท และค่าอุปกรณ์วัดอุณหภูมิและอุปกรณ์วัดระดับออกซิเจน ตามจริงไม่เกิน 1,100 บาทต่อราย รวมทั้ง ค่าบริหารจัดการอื่นๆ และค่ารถ ค่าเอกซเรย์ ค่า Swab และค่าตรวจ RT-PCR ตามหลักเกณฑ์
          นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ กองทุน สสส. กล่าวว่า สสส.ได้สนับสนุนสร้างระบบ Home Isolation และ Community Isolation ร่วมกับ สปสช. มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และภาคีเครือข่าย ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมด 30 ชุมชน ใน กทม.และปริมณฑล โดยตั้งแต่เริ่มโครงการมี ผู้ป่วยได้รับการดูแลประมาณ 180 คน ทั้ง ผู้ป่วยในชุมชนและนอกชุมชน เพื่อช่วยลดวิกฤติปัญหาโรงพยาบาลเตียงไม่พอ และช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์
          ทั้งนี้ สสส.ได้สนับสนุนภาคี เครือข่าย ประกอบด้วย 1.พัฒนาระบบจัดการของชุมชน โดยเฉพาะอุปกรณ์ ที่ใช้ดูแลผู้ป่วย เครื่องอุปโภค-บริโภค และ การวางระบบดูแลผู้ป่วยที่ต้องแยกกักตัวในบ้าน รวมถึงจัดทำศูนย์ดูแลรักษาผู้ป่วยที่แยกกักตัวในชุมชน 2.พัฒนาศักยภาพแกนนำด้านสุขภาวะในชุมชน จัดอบรมการดูแลผู้ป่วยในศูนย์พักคอยเบื้องต้น เพื่อให้มีความรู้ด้านการบริบาลผู้ป่วย
          และ 3.สนับสนุนการทำต้นแบบชุมชน ทั้งระบบภายในสำหรับดูแลผู้ป่วยที่แยกกักตัวในชุมชน และระบบภายนอก ที่เชื่อมต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยกับหน่วยงาน ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาเตียงไม่พอ และลดภาระ บุคลากรทางการแพทย์ในยามวิกฤติครั้งนี้ เรายังสนับสนุนการจัดการตัวเอง ในระยะยาว ด้วยการสนับสนุนเรื่องความมั่นคงทางอาหาร การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ หารายได้เสริมในชุมชน และการสนับสนุนให้เกิดระบบครัวกลางและการแบ่งปันอาหารภายในชุมชน
          นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลมีความพร้อมทำงานร่วมกับชุมชนในการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งการค้นหาผู้ป่วยจากในชุมชน ซึ่งบางรายอาจมีการไปตรวจด้วยตนเองมาแล้ว แต่โรงพยาบาลต้องขอตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าบางรายตรวจหาเชื้อจากแอนติเจนซึ่งได้ผลเป็น False Positive หรือบางรายก็ตรวจจากคลินิกหรือห้องแล็บเอกชนที่ไม่ได้รับรอง ทำให้ผลตรวจไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าตรวจจากโรงพยาบาลรัฐด้วยวิธี  RT-PCR ก็จะรับเข้าเป็นผู้ป่วยในเลยโดยไม่ต้องตรวจซ้ำ

 pageview  1205014    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved