ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ผ่านมา สภาพอากาศในตัวเมืองเชียงรายตลอดทั้งวันยังคงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟอย่างหนาแน่น โดยเมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นตัวเมืองได้แบบเลือนรางเท่านั้น ภายหลังจากฝนที่ทิ้งช่วงและภาวะแล้ง ส่งผลทำให้เกิดมีหมอกควันไฟที่ประชาชน หรือชาวสวนในหลายพื้นที่ยังลักลอบเผากันอยู่จนเกิดการสะสมในอากาศ
          อีกทั้งมีหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเมียนมา และหมอกควัน จากจังหวัดใกล้เคียงอย่างพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ยังสูงอยู่ที่ 219 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า PM10 อยู่ที่ 246 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เช่นเดียวกันชายแดนแม่สาย มีค่า PM2.5 วัดได้ 383 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและค่าPM10 อยู่ที่ 484 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
          นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า สำหรับปัญหาฝุ่นละอองทางจังหวัด โดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแทบไม่พบจุดความร้อน หรือจุด ฮอทสปอตในพื้นที่ แต่เป็นหมอกควันที่มาจากพื้นข้างเคียง ซึ่งทางจังหวัดมีการจัดชุดลาดตระเวนป้องปราบไม่ให้เกิดไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนด้านสาธารณสุขเองก็มีการเฝ้าระวังผู้ได้รับผลกระทบ โดยจากการสำรวจ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564  ถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจทุกชนิด โรคผิวหนังอักเสบและตาอักเสบ มีประมาณ 35,569 ราย  ซึ่งได้เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดเหล่านี้แล้ว