Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 09/11/2563 ]
อินเดียติดโควิดที่กระบี่พักเกาะพีพี-เดินทางไป4จว.

ผู้สัมผัสเสี่ยงติดเชื้อสูง79คนสธ.แจงซากไวรัสไม่แพร่โรคพบป่วยใหม่7คนมาจากตปท.
          ไทยพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 7 ราย กลับจาก 4 ปท.กรมควบคุมโรคเผยผลสอบสวนโรคกรณีหนุ่มอินเดีย ซึ่งพักในจ.กระบี่ ยืนยันติดเชื้อแน่ แต่ติดมานานแล้ว อาจเป็นซากเชื้อไม่สามารถกระจายได้ เปิดไทม์ไลน์พบเดินทางไป 4 จังหวัด มีผู้สัมผัส เผยเสี่ยงต่ำ 211 คน รอผลตรวจซ้ำยืนยัน
          เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงาน สถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทยประจำวัน ว่า มีผู้ป่วยใหม่ 7 ราย รวมสะสม 3,837 ราย แบ่งเป็น การติดเชื้อในประเทศ 2,452 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,385 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,654 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 123 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยสะสม 3,837 ราย รับรักษาในกรุงเทพมหานคร(กทม.) และนนทบุรี 2,096 ราย ภาคเหนือ 114 ราย ภาคกลาง 768 ราย ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ 112 ราย ภาคใต้ 747 ราย
          พบ7รายป่วยใหม่ไม่แสดงอาการ
          สำหรับผู้ป่วยใหม่ 7 รายนั้น เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานกักกัน (Quarantine) ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา 1 ราย หญิงไทย อายุ 32 ปี อาชีพแม่บ้าน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม เดินทางต่อเครื่องจากสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ถึงไทย เที่ยวบินเดียวกัน มีผู้ติดเชื้อ 1 ราย วันที่ 5 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ เข้ารักษาที่ รพ.บางละมุง 2.ออสเตรีย 1 ราย เพศชาย สัญชาติเช็ก อายุ 24 ปี อาชีพนักธุรกิจ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เดินทาง ถึงไทย เที่ยวบินเดียวกันมีผู้ติดเชื้อ 1 ราย เข้าพักในสถานกักกันทางเลือก(Alternative State Quarantine) ใน กทม. วันที่ 5 ของการกักตัว ผลตรวจ พบเชื้อ โดยไม่มีอาการ 3.แคนาดา 2 ราย เพศชาย สัญชาติแคนาดา อายุ 61 ปี อาชีพนักธุรกิจ และหญิงไทย อายุ 56 ปี อาชีพแม่บ้าน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เดินทางต่อเครื่องจากเยอรมนีถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันทางเลือก(ASQ) ใน กทม. วันที่ 5 ของการกักตัวตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ 4.รัสเซีย 1 ราย เพศชาย สัญชาติรัสเซีย อายุ 49 ปี อาชีพลูกเรือเดินทางด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้าเข้าไทย เข้าพักในสถานกักกันทางเลือก (ASQ) ใน กทม. วันที่ 3 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ
          ผู้เคยมีประวัติติดเชื้อโควิด-19 ในต่างประเทศ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน 1.สหรัฐอเมริกา 1 ราย เพศหญิง สัญชาติอเมริกาอายุ 53 ปี อาชีพนักธุรกิจเดินทางต่อเครื่องจากเกาหลีใต้ถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันทางเลือก(ASQ) ใน กทม. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
          ผู้เดินทางจากต่างประเทศ ไม่ได้ เข้าสถานกักกันและไม่ได้รักษาในประเทศไทย มี 1 ราย เป็นชาวเมียนมา เพศชาย สัญชาติเมียนมา อายุ 39 ปี อาชีพพนักงานขับรถ ตรวจพบเชื้อจากการคัดกรองที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ไม่มีอาการ ส่งกลับไปรักษาที่เมียนมา
          สธ.ชี้ชายอินเดียเคยติดเชื้อนานแล้ว
          ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีพบชายอินเดียติดโควิด-19 ที่ จ.กระบี่ ว่า ผลสอบสวน ผู้ติดเชื้อชายชาวอินเดียอายุ 37 ปี โดยเก็บตัวอย่างเชื้อตรวจ 2 ครั้ง สรุปได้ว่า เคยติดเชื้อแน่นอนและนานแล้ว มีเชื้อน้อย เป็นซากเชื้อ การตรวจแอนติบอดีพบ LgG เป็นบวก น่าจะติดนานแล้ว แต่จะติดที่ไหนอย่างไร ต้องรอข้อมูลอื่นประกอบ แต่ส่วนใหญ่เมื่อติดเชื้อนานมาแล้วจะไม่ใช่ระยะแพร่กระจายโรค ส่วนว่าเคยติดและติดมาจากใครต้องติดตามต่อไป เพราะจากการตรวจตัวอย่างของครอบครัวไม่พบเชื้อ เหลือผลจากภรรยา สำหรับพื้นที่ที่ผู้ป่วยรายนี้เดินทางไปนั้น ไม่ต้องวิตกกังวล ไม่ปิดพื้นที่ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ขอให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
          เปิดไทม์ไลน์มาไทยเมษาพักเกาะพีพี
          ด้าน พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อชาวอินเดีย อายุ 37 ปี พักอาศัยบนเกาะพีพี มีการ ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งคือ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ รพ.กรุงเทพสิริโรจน์ ภูเก็ต จนพบเชื้อ และส่งยืนยันศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 ก็พบเชื้อ แต่วันที่ 6 พฤศจิกายน ส่งตรวจที่ รพ.กระบี่ ไม่พบเชื้อ อาจเพราะปริมาณเชื้อน้อย เป็นไปได้ว่า เจอเชื้อแน่ๆ เพราะส่งมาตรวจที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าผลเป็น IgG ซึ่งติดเชื้อมานานก่อนหน้านี้สัก 1-2 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านั้น
          ทั้งนี้ ผู้ป่วยเดินทางไปหลายจังหวัด ผลสอบสวนโรคพบ ผู้ป่วยรายนี้มาประเทศไทยตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 และเดินทางออกนอกประเทศ กุมภาพันธ์ 2563 ไปสิงคโปร์ และกลับมาอยู่ไทยตลอด ไม่ได้ไปไหนอีก ทำร้านอาหารอยู่กับภรรยา ที่เกาะพีพี ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่าเริ่มมีอาการไอเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน เราต้องตามไป 14 วัน หรือสอบสวนย้อนหลังไปถึงวันที่ 19 ตุลาคม โดย วันที่ 19-27 ตุลาคม เขาอยู่บนเกาะตลอด และเดินทางวันที่ 28 ตุลาคม เพื่อไปภูเก็ต โดยก่อนไปนั่งเรือจากเกาะพีพี ไปภูเก็ต พักที่บ้านน้องชาย 1 คืน จากนั้น ขับรถส่วนตัวไปภูเก็ต พบเพื่อนชาวอเมริกัน ไปรับประทานอาหารที่โรงแรม อยู่ระหว่างติดตามอยู่ จากนั้นขึ้นเครื่องสายการบินแอร์เอเชีย ไปเชียงใหม่ ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อนชาวไทย กำลังติดตามเช่นกัน
          ตามหาผู้สัมผัส290คน-เสี่ยงสูง79คน
          พญ.วลัยรัตน์กล่าวต่อว่า จากนั้น ชายอินเดียคนดังกล่าวเดินทางไปสุโขทัย โดยเช่ารถยนต์ไปกับเพื่อน ไปเที่ยวงานลอยกระทงที่สุโขทัย แต่ที่งานมีมาตรการเข้มงวด ขณะนั้นเขาไม่มีอาการ จึงมั่นใจได้ว่า ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในงานวันลอยกระทง ผู้ป่วยเข้าพักที่โรงแรมในสุโขทัย จากนั้นเดินทางกลับภูเก็ตพร้อมเพื่อนโดยสายการบินแอร์เอเชีย ถึงภูเก็ต ก็ขับรถยนต์ส่วนตัวเข้าพักในป่าตอง รับประทานอาหารเช้าแล้วก็แยกย้ายกัน ซึ่งผู้ป่วยไปห้างสรรพสินค้าในเมืองภูเก็ต ค้างที่บ้านน้องชาย จากนั้นวันที่ 4 พฤศจิกายน ไปตรวจหาเชื้อเพื่อขอทำ Work Premit
          "จากการสอบสวนโรคพบ ผู้สัมผัสใกล้ชิด 290 ราย เป็นคน สัมผัสเสี่ยงสูง 79 ราย และเสี่ยงต่ำ 211 ราย ซึ่งกลุ่มเสี่ยงสูง ประกอบด้วย คนครอบครัวเดียวกัน 4 ราย คือ ภรรยา น้องชาย น้องสะใภ้ และหลานสาว เบื้องต้น 3 รายไม่พบเชื้อ รอผล ของภรรยา ส่วนผู้สัมผัสในชุมชน 5 ราย มีเพื่อน 3 ราย ที่สุโขทัย 1 ราย รอเก็บตัวอย่าง ภูเก็ต 2 รายรอติดตาม และในชุมชนอีก 2 ราย ที่เชียงใหม่ คือ ในสนามบิน และโรงแรม รอเก็บตัวอย่าง ส่วนยานพาหนะ 64 ราย เครื่องบิน 45 ราย และเรือเฟอร์รี่ 19 ราย และยังมีอีก 6 ราย เป็นพยาบาล 1 ราย แพทย์ 1 ราย ผู้ช่วยพยาบาล 2 ราย และล่าม 2 ราย" พญ.วลัยรัตน์กล่าว
          ทั่วโลกติดเชื้อทะลุ50ล้านคน
          สำหรับสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกในรอบ 24 ชั่วโมง พบผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่อย่างน้อย 598,002 ราย ยอดผู้ติดเชื้อรวม 50,354,682 ราย รักษาหายแล้ว 35,606,912 ราย เสียชีวิต 1,257,448 ราย ทั้งนี้ อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นสหรัฐอเมริกา 10,185,012 ราย เสียชีวิตสะสม 243,269 ราย อันดับ 2 อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสม 8,507,754 ราย เสียชีวิตรวม 126,162 ราย อันดับ 3 บราซิลมีผู้ติดเชื้อสะสม 5,653,561 ราย เสียชีวิตสะสม 162,286 ราย อันดับ 4 รัสเซีย จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 1,774,334 ราย เสียชีวิตสะสม 30,537 ราย และอันดับ 5 ฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,748,705 ราย เสียชีวิตสะสม 40,169 ราย ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่อันดับ 149 ของโลก ส่วนเมียนมา มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 1,071 ราย ยอดสะสมรวม 60,348 ราย

 pageview  1205145    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved