Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 13/11/2563 ]
เร่งกู้วิกฤตเบาหวาน คร่าชีวิตคนไทย 200 ราย/วัน หนุนบทบาทพยาบาลร่วมสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง

สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF: International Diabetes Federation) รณรงค์เนื่องในวันเบาหวานโลก ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี หัวข้อ Nurses Make the Difference for Diabetes หรือ เปลี่ยนวิกฤตเบาหวานด้วยพลังแห่งการพยาบาล เพื่อสร้างความตระหนักของผู้คนบนโลกต่อบทบาทหน้าที่ที่สำคัญของพยาบาลในการร่วมคัดกรอง ให้คำแนะนำการปฏิบัติตนเพื่อการป้องกันและรักษาโรคเบาหวานตลอดจนภาวะแทรกซ้อน อีกทั้ง พยาบาลยังมีส่วนช่วยในการเสริมพลังใจให้ผู้ป่วยและ ครอบครัว ทำให้ผู้เป็นเบาหวานสามารถอยู่กับโรคเบาหวาน ได้อย่างปกติ มีความสุข มีกำลังใจที่จะปรับเปลี่ยน พฤติกรรมให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายที่คาดหวังในการดูแลรักษา
          ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO: World Health Organization) ได้เผยตัวเลขที่น่าสนใจว่า ปัจจุบันบุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุขทั่วโลกนั้นอยู่ในวิชาชีพพยาบาลมากถึงร้อยละ 59 ของจำนวนทั้งหมด ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่การรณรงค์ในปีนี้จึงมุ่งไปที่การสนับสนุนบทบาทของพยาบาล ซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับเบาหวานในระดับโลก อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญที่เกิดขึ้นในทุกประเทศก็ยังคงเป็นเรื่องการขาดแคลนจำนวนบุคลากรสายการพยาบาล มีการประเมินว่าทั่วโลกยัง ต้องการพยาบาลอีกอย่างน้อย 6 ล้านคน จึงจะเพียงพอต่อการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขให้เดินหน้าไปได้ด้วยดี อีกทั้ง พยาบาลควรมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 8 ต่อปี เพื่อให้มีจำนวนพยาบาลเพียงพอในปีพ.ศ. 2573
          สำหรับสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทย ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมโรค เบาหวานแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า เราประมาณการว่าตอนนี้ ในประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานอยู่ราว 5 ล้านคน หรือ เปรียบเทียบ ได้ว่า 1 ใน 11 คนไทยที่อายุ 15 ปีขึ้นไป กำลังป่วย ด้วยโรคเบาหวาน และมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งแสนคน ต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้มีถึง 40% ที่ไม่รู้ว่าตัวเองป่วย ขณะที่ผู้ได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษามีเพียง 54.1% หรือเพียง 2.6 ล้านคน ในจำนวนนี้มีเพียง 1 ใน 3 คน ที่สามารถบรรลุ เป้าหมายในการรักษา ทำให้อัตราการเสียชีวิตจากโรคเบาหวาน ในเมืองไทยมีมากถึง 200 รายต่อวัน
          "ประเทศไทย เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีอัตรา ความชุกของโรคเพิ่มขึ้นรวดเร็ว เช่นเดียวกับประเทศในแถบแอฟริกา แปซิฟิกตะวันตก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับประเทศไทย คือ ความชุกของ เบาหวานที่เกิดจากปัญหาโรคอ้วนและพฤติกรรมการใช้ชีวิตในเด็กวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้เป็นคนวัยทำงานและเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ" ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ กล่าว
          เปลี่ยนวิกฤตเบาหวานด้วยพลังแห่งการพยาบาลศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี กล่าวอีกว่า หลายปี ที่ผ่านมา สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ ได้เดินหน้า ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเบาหวาน สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริม สุขภาพ และสร้างความตระหนักแก่สังคมไทยมาอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับการรณรงค์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ในปีนี้สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ จึงได้ร่วมมือ กับสภาการพยาบาล และสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ จัดทำโครงการคัดเลือกพยาบาลดีเด่น ที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและรักษาโรคเบาหวานในประเภทต่างๆ ได้แก่ พยาบาลนักวิชาการ/วิจัย พยาบาลนักพัฒนานวัตกรรม พยาบาลผู้ให้การบริบาลผู้ป่วยเบาหวาน ระดับ Hospital Care และ พยาบาลผู้ให้การบริบาลผู้ป่วยเบาหวาน ระดับ Primary Care โดยเปิดให้โรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ เสนอชื่อเข้าพิจารณา ระหว่าง 14 พฤศจิกายน 2563 ถึง 15 มกราคม 2564
          อีกเรื่องที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศ นั่นคือ การได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัด The International Diabetes Federation Congress 2021 หรือ World Diabetes Congress 2021 เป็นงานประชุมใหญ่ของ สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ 2564 ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่าง วันที่ 6-9 ธันวาคม พ.ศ.2564 เมื่อพิจารณาจากทรัพยากร ความพร้อม และความมุ่งมั่นในการจัดการวิกฤตการณ์ เบาหวาน จากสมาชิกทั้งหมด 168 ประเทศ Bangkok IDF Congress 2021 จึงถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการประกาศศักยภาพของประเทศไทยบนเวทีโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของ COVID-19
          "IDF congress 2021 จะเป็นการประชุมของเครือข่ายแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ พยาบาล นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้กำหนดนโยบาย และเครือข่ายสมาคมโรคเบาหวานในประเทศสมาชิก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการบริหารจัดการเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ผสานความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยมุ่งผลักดันให้โรคเบาหวานเป็นวาระด้านสุขภาพของโลกที่ต้องร่วมมือกันดูแลและป้องกัน ยกระดับการเข้าถึงการรักษาให้กับประชาชน ตลอดจนหาแนวทางที่จะนำไปสู่การพัฒนา คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น นอกจากนี้ การประชุมดังกล่าว ยังมีวาระสำคัญพิเศษนั่นคือการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีแห่งการค้นพบอินซูลิน หนึ่งในความก้าวหน้าทางการรักษาในประวัติศาสตร์ ที่ช่วยชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานมาแล้ว หลายล้านคน"
          ด้าน รศ.นพ.เพชร รอดอารีย์ เลขาธิการสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า นอกจากการรณรงค์วันเบาหวานโลกในปีนี้จะเป็นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพพยาบาลแล้ว ปีพ.ศ.2563 นี้ ยังเป็นปีแห่งการ เชิดชูเกียรติ 200 ปี มิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ผู้บุกเบิกและวางรากฐานวิชาชีพการพยาบาลสมัยใหม่อีกด้วย ซึ่งทางสมาคมโรคเบาหวานฯ เล็งเห็นว่า การยกย่องเชิดชูเกียรติ พยาบาลที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและดูแลรักษาโรค เบาหวาน จะมีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพ การพยาบาลในด้านวิชาการ การวิจัย การพัฒนานวัตกรรม และการปฏิบัติการพยาบาล ที่เกี่ยวกับการป้องกันและดูแลรักษาโรคเบาหวาน ให้ก้าวหน้าและทันต่อการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของพยาบาลเบาหวาน หรือ Diabetes Nurses ให้เป็นที่ประจักษ์และยอมรับในวงการแพทย์และสาธารณสุขทั้งในระดับประเทศและนานาชาติด้วย
          "อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขปัญหาโรคเบาหวานในประเทศไทยนั้น ยังคงต้องมีการเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของพยาบาลนั้น ทุกภาคส่วนควรร่วมกันสนับสนุนให้มีการเพิ่มจำนวนพยาบาล และสนับสนุนให้พยาบาลอยู่ในระบบสาธารณสุข ส่งเสริมการอบรมพัฒนาทักษะการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานให้พยาบาลที่ทำงานอยู่แล้ว เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่ประชาชน เพิ่มแหล่งทุนการทำวิจัยสำหรับพยาบาล และสนับสนุน การทำงานของพยาบาลในทุกๆ ทางด้วย"

 pageview  1204943    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved